ขอโทษที่รบกวน พูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงดี?
เวลาต้องทำงานกับคนต่างชาติ ไม่ว่าจะพูด หรือเขียนอีเมล หลายคนมีปัญหาว่าไม่รู้จะใช้ประโยคแบบไหนดี อย่างเช่นถ้าอยากพูดว่า "รบกวน" เป็นภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไงดี? --- บทความนี้คัดมา 10 ประโยคภาษาอังกฤษในที่ทำงาน ให้ทุกคนจำโครงสร้าง ไปใช้กันได้เลยค่า
คำแปล: ขอโทษที่รบกวนนะ แต่...
- Sorry to bother you, but could you check this report for me?
/ซอรี-ทู-บาเธอร์-ยู-บัท-คูด-ยู-เช็ก-ดิส-ริพอร์ต-ฟอร์-มี/
ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้มั้ย
- Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler?
/ซอรี่-ทู-ดิสเทิร์บ-ยู-บัท-คูด-ไอ-บาโรว-เดอะ-สเตปเลอร์/
ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้มั้ย
จำประโยคขึ้นต้นไปเลยค่ะ Sorry to bother (disturb) you, but... แล้วก็ตามด้วยคำถามที่เราอยากจะถามต่อได้เลย
ถ้าเราเป็นผ่ายถูกถามด้วยประโยคนี้ เราก็ตอบได้ว่า
- Yes, I’ll do it for you.
/เยส-ไอลฺ-ดู-อิท-ฟอร์-ยู/
ได้เลย เดี๋ยวฉันทำให้คุณนะ
- Sorry, I can’t do it now.
/ซอรี-ไอ-แคนทฺ-ดู-อิท-นาว/
โทษทีนะ แต่ฉันทำตอนนี้ไม่ได้น่ะ
✿ พูดอังกฤษคล่อง 3,000 ประโยค ต้องเซ็ทนี้! ✿
คำแปล: ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย
แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย แต่จริงๆ ก็หมายถึงพอมีเวลาสั้นๆ มั้ยนั่นเอง ใช้เวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ นอกจากประโยคนี้แล้ว จะใช้ประโยคด้านล่างแทนก็ได้ค่ะ แปลโดยรวมเหมือนกันเลยค่ะ
- Are you free to talk?
/อาร์-ยู-ฟรี-ทู-ทอล์ค/
- Can I have a word with you?
/แคน-ไอ-แฮฟ-อะ-เวิร์ด-วิธ-ยู/
- Can I talk to you for a minute/a second?
/แคน-ไอ-ทอล์ค-ทู-ยู-ฟอร์-อะ-มินิท/อะ-เซคเคิน/
ถ้าเราว่าง คุยได้ ก็ตอบไปว่า Yes./Sure./Of course. และถามกลับไปได้ว่า What is it?/What’s the matter? (คุยเรื่องอะไรล่ะ, มีเรื่องอะไรรึเปล่า)
คำแปล: รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ...
- Would you mind helping me with this document?
/วูด-ยู-มายดฺ-เฮลพิง-มี-วิธ-ดิส-ดาคคยูเมินทฺ/
รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้
- Would you mind helping me with the project?
/วูด-ยู-มายดฺ-เฮลพิง-มี-วิธ-เดอะ-พราเจคทฺ/
รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้
- Would you mind helping me with the contract?
/วูด-ยู-มายดฺ-เฮลพิง-มี-วิธ-เดอะ-คานแทรคทฺ/
รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้
ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือได้เลยค่ะ เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ แต่สังเกตว่ารูปประโยคนี้ จะตามด้วยคำนาม คือไม่ได้บอกว่าให้ช่วย “ทำอะไร” แต่แค่ขอให้ช่วยเรื่องอะไร หรือเกี่ยวกับอะไร เหมือนถามรวมๆ ว่าช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย
ดังนั้นจำรูปประโยค Would you mind helping me with ไปเลยค่ะ แล้วอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย
*ถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง หรือคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท ก็ใช้ Can you help me with + N.? ได้เหมือนกันค่ะ จะดูเป็นกันเองมากกว่า แต่ถ้าไม่แน่ใจ ใช้ Would you mind ไปเลย สุภาพสุดแล้วจ้า
✿ ทำงานกับฝรั่ง พูดคล่อง ต้องเซ็ทนี้! ✿
คำแปล: รังเกียจมั้ยที่จะทำ...
- Would you mind sending the presentation to me?
/วูด-ยู-มายดฺ-เซนดิง-เดอะ-เพรเซินเทเชิน-ทู-มี/
รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อย
- Would you mind photocopying this bill for me?
/วูด-ยู-มายดฺ-โฟโทคาพพี-ดิส-บิล-ฟอร์-มี/
รังเกียจมั้ยที่จะถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ฉันหน่อย
ประโยคนี้เอาไปใช้เวลาอยากให้คนอื่นช่วยเรา “ทำอะไร” คือระบุเลยว่าคุณช่วยทำนั่นนี่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย ซึ่งโครงสร้างจะต้องตามด้วย V.ing (หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ Gerund) ค่ะ มีหลักง่ายๆ ว่า อยากให้ช่วยทำอะไร เอา V. ตัวนั้นไปเติม -ing แล้วต่อท้ายประโยคได้เลย เช่น
- ตัดกระดาษ cut > cutting the papers
- หาข้อมูล find > finding the information
- ร่างจดหมาย draft > drafting the letter
คำแปล: จะเป็นอะไรมั้ยถ้า...
- Would you mind if I skip the meeting?
/วูด-ยู-มายดฺ-อิฟ-ไอ-สคิป-เดอะ-มีทดิง/
จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม
- Would you mind if I postpone the deadline?
/วูด-ยู-มายดฺ-อิฟ-ไอ-โพสทฺโพน-เดอะ-เดดไลนฺ/
จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน
นอกจากแปลว่า รังเกียจมั้ย” แล้ว Would you mind ยังสามารถหมายถึง “จะเป็นอะไรมั้ย” ได้ด้วย คือใช้โยนหินถามทางก่อนได้ว่า ถ้าเราจะทำแบบเนี้ย จะเป็นไรป่าว เช่นอยากอยากโดดประชุม ก็ไปถามนายก่อนว่า Would you mind if I skip the meeting? (แต่อย่าลืมเตรียมเหตุผลที่ฟังขึ้นไปบอกนายด้วยนะ)
คำแปล: คุณเข้าร่วมประชุมวันที่...เวลา...ได้มั้ย
- Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?
/แคน-ยู-จอยนฺ-เดอะ-มีทดิง-ออน-ฟรายเดย์-แอท-เทน-เอเอ็ม/
คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้มั้ย
หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ค่ะ
- Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?
/อาร์-ยู-เออะเวเลอะเบิล-ฟอร์-เดอะ-มีทดิง-ออน-ฟรายเดย์-แอท-เทน-เอเอ็ม/
คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้ามั้ย
ได้ใช้แน่นอนเวลาจะถามคนอื่นๆ ว่าเข้าประชุมได้มั้ย ซึ่งจุดที่ต้องระวังก็คือการใช้ on กับ at แค่นั้นเองค่ะ
จำว่า "on ใช้กับวัน ส่วน at นั้นกับเวลา"
ซึ่งอาจจะไม่มาพร้อมกันทั้งสองอย่างก็ได้ เช่นถ้าวันนี้มีประชุมช่วงบ่าย เราก็อาจจะถามว่า Can you join the meeting at 1 p.m.? คนฟังก็จะเข้าใจค่ะว่าหมายถึงวันนี้ หรือถ้าเขาไม่มั่นใจก็จะถามเองว่า Today? (วันนี้เหรอ)
แล้วถ้าอยากบอกว่าพุธนี้, อาทิตย์หน้า, เดือนหน้า ล่ะ? >> ให้ตัด on ออกค่ะ กลายเป็น
- Can you join the meeting + this Wednesday/next week/next month?
/แคน-ยู-จอยนฺ-เดอะ-มีทดิง-ดิส-เวนสฺเดย์/เน็คสฺทฺ-วีค/เน็คสฺทฺ-มันธฺ/
เป็นการถามแบบกว้างๆ ก่อน ยังไม่ได้เจาะจงรายละเอียดเวลาแน่นอน ซึ่งถ้าเขาถามต่อ เราก็ตอบไปได้ค่ะ
- on (วันอะไร) at (เวลาไหน) เช่น on Monday at 1.30 p.m.
คำแปล: ขอโทษนะตอนนี้ฉันยุ่งอยู่
ประโยคนี้ต้องรู้ไว้เลย ไม่งั้นปฏิเสธไม่เป็น รับงานมาทำหัวฟูแน่นอน ส่วนถ้าอยากให้ดูซอฟท์ๆ สวยๆ หน่อย ใช้ประโยคนี้ได้ค่ะ
- I wish I could help, but I’m busy right now.
/ไอ-วิช-ไอ-คูด-เฮลพฺ-บัท-ไอม-บิซี-ไรทฺ-นาว/
ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะ
ถ้าเราเป็นฝ่ายไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ก็อาจจะได้ยินประโยคนี้ได้นะคะ เพราะคงไม่มีใคร say yes กับคำขอของเราทุกรอบแน่ๆ ค่า
✿ ใช้ได้ทุกสถานการณ์ พูดคล่อง ต้องเซ็ทนี้! ✿
คำแปล: ขอสายคุณ...หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ
- Can I speak to Mr. Smith?
/แคน-ไอ-สปีค-ทู-มิสเตอร์-สมิธ/
ขอสายคุณสมิธหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ
- Can I speak to the sales department head?
/แคน-ไอ-สปีค-ทู-เดอะ-เซลซฺ-ดิพาร์ทเมินทฺ-เฮด/
ขอสายหัวหน้าฝ่ายขายหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ
ใช้เวลาโทรไปขอคุยกับใคร หรือจะใช้คุยต่อหน้าก็ได้ค่ะ เช่นไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อย ซึ่งคำตอบที่เราอาจจะได้รับ เช่น
- Who’s calling, please?
/ฮูส-คอลลิง-พลีส/
ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ
- I’m sorry. He’s not available at the moment.
/ไอม-ซอรี่-ฮีส-นาท-เออะเวเลอะ-เบิล-แอท-เดอะ-โมเมินทฺ/
ขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้เขายังไม่ว่างเลยค่ะ
- He’s on the other line.
/ฮีส-ออน-ดิ-อาเธอร์-ไลนฺ/
เขาติดสายอื่นอยู่ค่ะ
- Just a moment./Hold the line please./Could you hold on, please?
/จัสทฺ-อะ-โมเมินทฺ/ /โฮลดฺ-เดอะ-ไลนฺ-พลีส/ /คูด-ยู-โฮลดฺ-ออน-พลีส/
ถือสายรอสักครู่นะคะ
คำตอบพวกนี้เราสามารถเอาไปใช้ได้เหมือนกันนะคะ ถ้าหากเราเปนคนรับโทรศัพท์เอง ใครเป็นเลขาฯ หรือต้องติดต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงานทางโทรศัพท์บ่อยๆ ได้ใช้แน่นอนค่ะ
คำแปล: ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร
ประโยคนี้ใช้เวลาเราโทรหาใคร แต่เขายังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น เราก็ถามกลับไปได้ว่างั้นสะดวกให้เราโทรกลับไปอีกครั้งเมือไรดี คำตอบส่วนมากเขาก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมาเช่น
- Can you call me again at 2 p.m.?
/แคน-ยู-คอล-มี-เออะเกน-แอท-ทู-พีเอ็ม/
โทรหาฉันอีกทีตอนบ่ายสองได้มั้ย
- Can you call me in 15 minutes?
/แคน-ยู-คอล-มี-อิน-ฟิฟทีน-มินิทสฺ/
อีก 15 นาทีค่อยโทรหาฉันได้มั้ย
หรือถ้าเขาจะเป็นคนโทรกลับมาหาเราเองเมื่อสะดวก ก็จะบอกได้ว่า
- I’ll call you back when I’m free.
/ไอล-คอล-ยู-แบค-เวน-ไอม-ฟรี/
ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง
- I’ll call you back in 30 minutes.
/ไอล-คอล-ยู-แบค-อิน-เธอร์ดี-มินิทสฺ/
อีก 30 นาทีฉันจะโทรกลับหาคุณนะ
คำแปล: ฉันขอลาในวัน...ได้มั้ย
- Can I take Monday off?
/แคน-ไอ-เทค-มันเดย์-ออฟ/
ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย
- Can I take this Friday off?
/แคน-ไอ-เทค-ดิส-ฟรายเดย์-ออฟ/
ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย
หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาซักวันนึงได้มั้ย (ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า
- Can I take a day off?
/แคน-ไอ-เทค-อะ-เดย์-ออฟ/
ฉันขอลาซักวันได้มั้ย
จดให้ไวเลยประโยคนี้ โดยเฉพาะใครที่มีนายต่างชาติ ถึงเวลาจะไปอ้อนนายขอลางานจะได้พูดคล่องๆ นะคะ ^^
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 ประโยคใช้บ่อยในที่ทำงาน จริงๆ แล้วไม่ยากเลย เพียงแต่เราต้องขยันเอามาใช้บ่อยๆ เท่านั้นเอง เวลาจะพูดจะได้นึกประโยคออกทันที ไม่ต้องมานั่งเรียง S. V. ให้ปวดหัว จำเป็นประโยคไปใช้กันได้เลยค่ะ ถ้าใครอยากพูดภาษาอังกฤษคล่อง ๆ ต้องมีคลังประโยคในหัวเยอะ ๆ นะคะ ขอแนะนำเซ็ทหนังสือพูดมันส์ 1,000 ประโยคเลย!
✿ ซื้อครั้งเดียว เรียนได้ตลอดชีพ! ✿
- หนังสือ Conver 3 เล่ม รวม 3,000 ประโยค
- แบ่งเป็นหมวดชีวิตประจำวัน/การทำงาน/การท่องเที่ยว
- รวมทั้งหมด 104 สถานการณ์ ครอบคลุมการใช้ในชีวิตประจำวัน
- ทุกเล่มมีคำอ่านและไฟล์เสียงให้ใช้ฝึก
- พิมพ์ 4 สีทุกเล่ม อ่านเพลิน สบายตา ไม่น่าเบื่อ
กดดูตัวอย่างในเล่ม หรือซื้อหนังสือ