สารบัญ

• Grammar สำคัญอย่างไร แล้วเอาไปใช้สอบวิชาอะไรได้บ้างในระบบ TCAS
• 5 เทคนิคการเรียน Grammar ให้คะแนนสอบพุ่ง
• จบทุกปัญหาแกรมมาร์ต้อง TCAS Grammar Handbook
• อยากได้หนังสือ TCAS Grammar Handbook ต้องทำยังไง

 

อ่อน Grammar แต่อยากได้คะแนนภาษาอังกฤษเป๊ะปัง
ทันสอบ TCAS ต้องทำยังไง (Dek66 ห้ามพลาด!)

 

น้อง ๆ เคยประสบปัญหาต่อไปนี้กันมั้ย เรียน Grammar มาก็เป็นสิบ ๆ ปี แต่ก็ยังเอาไปใช้ไม่ได้อยู่ดี อ่านเท่าไหร่ เรียนเท่าไหร่ ก็ไม่เข้าใจ เพราะมันทั้งยากและซับซ้อน พอพูดถึง Grammar ภาษาอังกฤษ น้องหลายคนมักส่ายหัวและหันหน้าหนี บางคนถึงขึ้นกับเกลียด Grammar ไปเลย แต่เดี๋ยวก่อน Please hear me out! ฟังพี่ก่อน!!! วันนี้พี่จะมาบอกความสำคัญของมัน พร้อมกับหยิบเอา 5 เทคนิคการเรียน Grammar แบบสุดเก๋ ไม่จกตามาแบ่งปันกับน้อง ๆ เพื่อให้น้อง ๆ ได้นำไปใช้ปูพื้นฐาน Grammar ให้แน่นและจะได้ไม่โดนข้อสอบแกง จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล๊ยยย!
 

 

Grammar สำคัญอย่างไร แล้วเอาไปใช้สอบวิชาอะไรได้บ้างในระบบ TCAS

Grammar หรือไวยากรณ์คือระบบหรือโครงสร้างของภาษาที่มีความเชื่อมโยงกันเพื่อให้ทำให้เกิดความหมายจนทำให้มนุษย์เราสามารถสื่อสารและเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่ง Grammar ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนหรือทำความเข้าใจภาษา ถ้าให้เปรียบเทียบง่าย ๆ Grammar ก็เป็นเหมือนเสาหลักของบ้าน เพราะถ้าเราขาดส่วนนี้ไป จะทำให้เราไม่สามารถอยู่อาศัยได้ การเรียนไวยากรณ์ก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่มีพื้นฐานทางไวยากรณ์ เราก็จะไม่สามารถเข้าใจภาษาได้ น้อง ๆ หลายคนอาจคิดว่าแค่รู้คำศัพท์เยอะ ๆ ก็ทำให้เราเข้าใจความหมายได้ในทุกบริบทแล้ว

 แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นเสมอไป เพราะอย่างในภาษาอังกฤษ ต่อให้น้องรู้คำศัพท์หลายคำ แต่น้องไม่เข้าใจโครงสร้างที่สำคัญต่าง ๆ เช่น โครงสร้างแบบ Passive Voice ที่ประธานเป็นผู้กระทำ น้องจะเข้าใจความหมายของประโยคผิดเพี้ยนไป เช่น ถ้าน้องเจอประโยค The thief was arrested by the police. (โจรถูกตำรวจจับ) แล้วน้องไม่รู้ว่าประโยคที่มีโครงสร้าง Verb to Be + V3 (was arrested) มีความหมายว่า “ถูก” หรือ “ได้รับ” น้องก็อาจจะสับสนว่าทำไมโจรเป็นคนจับตำรวจนั่นเอง การรู้โครงสร้างไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษจะทำให้น้อง ๆ เข้าใจความหมายของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้นและสามารถทำข้อสอบได้คะแนนที่สูงขึ้น

พี่จะบอกความลับให้ว่าหัวข้อ Grammar ที่ออกสอบส่วนใหญ่ก็วนอยู่แต่เรื่องเดิม ๆ นั่นแหละ ถ้าเรามีพื้นฐาน Grammar ที่แน่น ก็เหมือนกับเรายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะเราสามารถนำไปใช้สอบหรือทำความเข้าใจเนื้อหาในข้อสอบภาษาอังกฤษในระบบ TCAS ได้ทั้งสองวิชา ไม่ว่าจะเป็น TGAT หรือ A-Level เพื่อให้น้อง ๆ เห็นภาพชัดเจนขึ้น พี่จะขอยกตัวอย่างให้ดูว่าการรู้ Grammar ช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้อย่างไร ในที่นี้ พี่จะขอยกตัวอย่าง Grammar เรื่อง  “Verbs” ก็แล้วกัน

ที่มา: ​​https://blueprint.mytcas.com/tgat1-91/

 

จากตัวเลือกที่ให้มาเราจะเห็นได้ว่ามีคำกริยาที่มีหน้าตาที่แตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งแบบไม่เติมอะไรเลย แบบเปลี่ยนรูป และทั้งแบบเติม -ing ถ้าเราไม่สามารถแยกได้ว่าคำกริยาแต่ละรูปแบบทำหน้าที่อะไรในประโยค เราก็จะไม่สามารถแปลความหมายหรือเข้าใจประโยคทั้งประโยคได้ แต่ถ้าเรารู้ว่าคำกริยาอย่างคำว่า “help” เป็นคำกริยาหลักเราก็จะสามารถตอบได้ว่าข้อที่ถูกต้องคือข้อ 1. feel และเข้าใจเนื้อหาประโยคได้ว่า ช่วยคุณให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านอย่างรวดเร็ว ตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่ตัวเลือกข้อ 1 ไม่สามารถใช้ได้เพราะคำกริยาคำว่า “help” มักจะใช้กับคำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป (Verb Infinitive) ทั้งแบบที่มี “to” และไม่มี “to” ต่อไปเราลองมาดูข้อสอบภาษาอังกฤษ A-Level กันบ้าง

ที่มา: https://blueprint.mytcas.com/a-level-82-eng/

 

จากตัวเลือกที่ให้มาเราจะเห็นได้ว่ามันมีคำกริยาที่มีหน้าตาที่แตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งแบบเติม -ed, เติม -s และเติม -ing เลย ถ้าเราไม่รู้และไม่เข้าใจหลักการเรื่อง Verbs จะทำให้เราตอบข้อนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้หลักการของคำกริยา เราจะตอบข้อนี้ได้ทันทีว่าต้องตอบเป็นตัวเลือกข้อ 1. evaluates เพราะในประโยคนี้ยังขาดคำกริยาหลักที่ต้องผันตามประธานอยู่ เมื่อสังเกตประโยค จะเห็นว่าประธานคือ “exam” ซึ่งเป็นเอกพจน์ ดังนั้นกริยาหลักจึงต้องเติม -s และตัวเลือกอื่น ๆ ก็ไม่สามารถใช้ได้ ทั้งนี้เราจะสามารถเข้าใจเนื้อหาของประโยคนี้ได้ ว่าว่าการสอบที่ครอบคลุมนั้นประเมินทุกสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้เพื่อให้เขาเข้าวิทยาลัยที่เหมาะและกำหนดแผนการชีวิตที่เหลือของตัวเอง

 

เมื่อพิจารณาจากตัวอย่างข้อสอบทั้ง 2 วิชา น้อง ๆ จะเห็นได้ว่า Grammar เป็นสิ่งที่จำเป็นที่น้อง ๆ ต้องรู้และนำไปใช้ได้ เพราะการจะสอบภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนดีนั้น เราต้องรู้พื้นฐาน Grammar เนื่องจากมันเกี่ยวข้องและอยู่ในทุกส่วนของข้อสอบ

 

5 เทคนิคการเรียน Grammar ให้คะแนนสอบพุ่ง

น้อง ๆ เด็ก 66 ที่จะต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษในระบบ TCAS สามารถใช้ 5 เทคนิคเหล่านี้เพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับข้อสอบที่ว่ายากอย่าง TGAT และ A-Level ซึ่งเทคนิคทั้งหมดมีดังนี้

 

1. หาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองแล้วค่อยวางแผนการเรียน

อย่างแรกที่น้องจะต้องทำเลยคือการประเมินตัวเอง น้อง ๆ ต้องหาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองให้เจอ ต้องรู้ว่าตัวเองนั้นถนัดหรือไม่ถนัดส่วนไหน น้อง ๆ อาจจะสงสัยกันใช่มั้ยล่ะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราอ่อนตรงไหน วิธีการหาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ให้เราไปหาข้อสอบ Grammar มาลองทำ แล้วเช็กดูว่าข้อสอบที่เราทำมีถูกหรือผิดตรงเรื่องไหนบ้างหรือมีสัดส่วนข้อผิดข้อถูกประมาณไหน 

จากนั้นก็ให้เราลิสต์หัวข้อที่เราผิดเยอะ แล้วนำมาวางแผนการเรียนต่อไป การทำแบบนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลามานั่งอ่านทบทวนเรื่องที่เราแม่นอยู่แล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือน้อง ๆ ควรวางแผนเนื้อหาที่จะอ่านให้ชัดเจน เช่น อาทิตย์นี้เราวางแผนว่าเราจะอ่านเรื่อง Tenses ทั้งอาทิตย์ อาทิตย์หน้า อ่านเรื่อง Voices เพราะมันจะช่วยให้เราโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น และไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไปเหมือนกับการอ่านไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมาย

 

2. พยายามทำความเข้าใจ อย่าเน้นท่องจำ

เมื่อน้อง ๆ วางแผนการเรียนเรียบร้อยแล้ว ให้เราลงมืออ่านเนื้อหาได้เลย แต่พี่จะบอกว่าน้อง ๆ ต้องพยายามทำความเข้าใจเนื้อหา พยายามจับต้นชนปลาย หรือดูที่ความสัมพันธ์แต่ละองค์ประกอบ อย่าเน้นการท่องจำ เพราะการท่องจำจะทำให้เราลืมเรื่องนั้น ๆ ได้ง่ายเมื่อเวลาผ่านไป หรือยิ่งไปกว่านั้น การท่องจำอาจทำให้เราไม่เข้าใจเมื่อต้องนำไปใช้ใช้บริบทที่ต่างไป ตัวอย่างเช่น น้อง ๆ อาจจะจำว่าใน Past Simple Tense เมื่อประธานเป็นเอกพจน์ เราต้องใช้ “was” เท่านั้น แต่เมื่อน้องมาเจอการใช้ Verb to Be ใน If-Clause แบบที่ 2 แล้วน้องจะเกิดข้อสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องใช้ If I were you ทั้ง ๆ ที่น้องก็จำมาว่า “I” ต้องใช้กับ “was” ใน Past Simple Tense ด้วยเหตุนี้น้อง ๆ จึงต้องพยายามทำความเข้าใจว่าการใช้สองรูปแบบนี้มีความแตกต่างกัน เพราะ I was ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่เป็นความจริง ส่วน I were ใช้กับเหตุการณ์ที่สมมติที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรทำความเข้าใจมากกว่าการท่องจำ

 

3. ทำ Short Notes สรุปตามที่เข้าใจ

หลังจากที่น้อง ๆ อ่านเนื้อหาแต่ละเรื่องจบ น้อง ๆ ต้องทำสรุปเนื้อหาในรูปแบบที่ตัวเองถนัด โดยเนื้อหาที่น้อง ๆ ทำอาจจะเป็น Mind Map ตาราง หรืออะไรก็ตามที่น้อง ๆ สามารถเข้าใจได้ง่าย ทำเสร็จก็อย่าลืมกลับมาทวนให้บ่อย ๆ นะ เพราะมันจะทำให้เราจำเนื้อหาได้ดีขึ้นและยังสามารถลดระยะเวลาในการอ่านได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การทำสรุปยังทำให้เราสามารถตัดเนื้อหาหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไปได้ในระดับนึงเลยแหละ

 

4. เรียนเสร็จต้องลองวิชา

การอ่านเนื้อหาอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถนำมาใช้ทำข้อสอบได้ น้อง ๆ ต้องนำสิ่งที่น้อง ๆ ได้อ่านมาลองฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆ เพราะ “Practice makes improvement.” (การฝึกฝนทำให้เกิดการพัฒนา) ถ้าฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอ น้อง ๆ จะสามารถจับจุดหรือแพทเทิร์นของข้อสอบได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น น้อง ๆ จะสามารถรู้ได้ว่าเราพลาดตรงไหนและทำให้เรารู้ทันข้อสอบว่าจะมันหลอกเรายังไง เพื่อที่ว่าครั้งหน้าน้อง ๆ จะได้ไม่ผิดในจุดเดิมอีก หรือถ้าน้องทำอะไรผิดซ้ำ ๆ มันจะทำให้เราเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ สมมติว่าถ้าน้องทำข้อสอบ แล้วผิดเรื่อง Tenses บ่อย ๆ เราจะรู้ว่าเราพลาดตรงไหนและควรกลับไปอ่านทวนจุดไหนเพิ่มเติม เทคนิคข้อนี้มีความเกี่ยวข้องกับเทคนิคข้อที่ 1 และน้อง ๆ ควรทำสลับกันไปมาเพื่อให้แม่น Grammar มากยิ่งขึ้น

 

 

5. ฝึกวิเคราะห์ประโยคที่เราไม่คุ้น

เทคนิคสุดท้ายที่จะทำให้ Grammar ของน้อง ๆ เป๊ะปังอลังเว่อร์คือการฝึกวิเคราะห์ประโยคภาษาอังกฤษที่เราไม่คุ้นเคยจากแหล่งต่าง ๆ เช่น จากสิ่งที่เราชอบหรือจากข้อสอบเก่า การฝึกวิเคราะห์โครงสร้างภาษาอังกฤษจะทำให้เราเชื่อมโยงเนื้อหาแต่ละเรื่องเข้าด้วยกันได้ดียิ่งขึ้น เช่น ถ้าเรากำลังฟังเพลงอยู่ แล้วดันไปได้ยินประโยคภาษาอังกฤษประโยคหนึ่งว่า “What doesn't kill you makes you stronger.” น้อง ๆ ก็อาจสงสัยว่าประธานของในประโยคนี้เป็นคำหรือวลีไหน เพราะน้อง ๆ อาจจะเรียนมาว่าคำที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคได้มี คำนาม คำสรรพนาม นามวลี Gerund หรือ To Infinitive แต่ในประโยคนี้ไม่มีสิ่งที่กล่าวมาเลย สิ่งนี้จึงทำให้เราต้องไปศึกษาต่อว่าจริง ๆ แล้ว Noun Clause “What doesn't kill you” ก็สามารถทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคได้เช่นเดียวกัน เมื่อเรารู้เช่นนั้นแล้วเราก็สามารถเชื่อมโยงได้ว่าจริง ๆ แล้วประธานของประโยคเป็นประโยคย่อยที่ขึ้นต้นด้วย What ได้ด้วย การฝึกวิเคราะห์ประโยคที่เราไม่คุ้นเช่นนี้จะช่วยให้ Grammar เราเริ่ดเว่อร์ยิ่งขึ้น

 

 

เทคนิคทั้ง 5 เทคนิคที่พี่เอามาฝากน้อง ๆ ในวันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น น้อง ๆ ยังจะต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ บวกกับทักษะด้านอื่น ๆ ที่สำคัญอีก เช่น คลังคำศัพท์ หรือทักษะการคิดวิเคราะห์ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจาก Grammar ภาษาอังกฤษมีเยอะแยะมากมาย น้อง ๆ อาจจะต้องวางแผนการเรียนให้ดี โดยการจัดกลุ่มส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกันเข้าด้วย จึงจะทำให้น้องเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากน้องไม่รู้ว่าว่าควรจัดกลุ่มหรือเรียงลำดับการเรียนอย่างไร พี่ขอแนะนำหนังสือเรียนแกรมมาร์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมทุกเรื่องแกรมมาร์สำคัญที่จะออกสอบ ซึ่งถูกจัดเรียงเนื้อหามาเป็นลำดับขั้นตอนและมีความสัมพันธ์กัน ทำให้น้อง ๆ สามารถเรียนแล้วต่อยอดความรู้ไปใช้ทำข้อสอบได้ หนังสือหน้าตาจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลย!

 

จบทุกปัญหาแกรมมาร์ต้อง TCAS Grammar Handbook

 

หนังสือ TCAS Grammar Handbook ดียังไง

ไอเท็มสุดปังที่คนอยากเลิกงงแกรมมาร์ต้องมี โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วต้องการเข้าใจแกรมมาร์ขั้นสุดต้องไม่พลาด ด้วยการอธิบายที่เข้าใจง่าย เรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยากและเชื่อมโยงกันทุกบท มาพร้อมคอร์สเรียนฟรีสรุปเนื้อหาให้เข้าใจง่ายจากครูพี่วัน แบบฝึกหัดทั้งในเล่มและบนเว็บรวมกว่า 300 ข้อและที่ขาดไม่ได้เลยคือแผ่นพับสรุปแกรมมาร์ที่น้อง ๆ สามารถพกไปอ่านก่อนเข้าห้องสอบเพียง 15 นาที ก็อ่านครบเก็บหมดทุกแกรมมาร์

 

1. ปูพื้นฐานแกรมมาร์ครบทุกเรื่องสำคัญ พร้อมต่อยอดเข้ามหาลัยฯ

แกรมมาร์กว่า 16 บทเรียนสำคัญ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานจำเป็นต้องรู้ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งเป็นแกรมมาร์ตัวร้ายที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง เรียกว่าเก็บครบทุกเรื่อง ครอบคลุมทุกแกรมมาร์ที่ใช้สอบแน่นอน
 

2. เข้าใจคอนเซ็ปต์แกรมมาร์แบบเห็นภาพรวม

วางลำดับเนื้อหาความรู้แบบเน้นความเชื่อมโยงให้ผู้เรียนเห็นความเกี่ยวข้องของแกรมมาร์แต่เรื่องและสามารถต่อยอดความรู้ได้ง่าย ๆ พร้อมเรียนผ่านการยกตัวอย่างประโยคให้เข้าใจคอนเซ็ปต์ได้ทันที

 

3. แทรกตัวช่วยพิเศษให้เข้าใจแกรมมาร์ได้ง่ายขึ้น

3.1 Memo

แทรกเนื้อหาความรู้เพิ่มเติมพิเศษ รวมไปถึงกฎข้อยกเว้นต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษที่ควรรู้ พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เข้าใจง่าย

 

3.2 Attention

บอกจุดต่าง ๆ ที่ต้องระวังและมักพลาดบ่อยในการทำโจทย์แกรมมาร์

3.3 พี่วัน’s Hack

เทคนิคการเรียนให้เข้าใจง่ายสุด ๆ โดยครูพี่วัน

 

3.4 Let’s review

สรุปรวมความรู้ที่เพิ่งเรียนไปให้เข้าใจอย่างแท้จริงทันทีที่เรียนจบ เหมือนได้ทบทวนความรู้ ช่วยให้ไม่ลืม
 

 

4. แบบฝึกหัดหลากหลายรูปแบบรวมกว่า 300 ข้อ ทั้งในเล่มและบนเว็บไซต์

4.1 Grammar Exercise

แบบฝึกหัดเช็กความเข้าใจน้อง ๆ ได้ทันทีหลังอ่านจบในเรื่องนั้น ๆ ช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจในเรื่องที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้มากขึ้น ก่อนเริ่มอ่านเรื่องถัดไป
 

 

4.2 Mini Test

แบบฝึกหัดที่ประยุกต์เอาหลาย ๆ เรื่องมารวมกัน เพื่อให้น้อง ๆ ได้เริ่มฝึกการประยุกต์ใช้แกรมมาร์ในลักษณะโจทย์ Cloze Test และ Error Identification ในเล่มหนังสือ มาพร้อม Test Guide ช่วยวิเคราะห์โจทย์และแนะแนวการทำไปพร้อมกับน้อง ๆ ซึ่งถ้าใครอ่าน Test Guide ไปพร้อม ๆ กับฝึกทำ Mini Test แล้วละก็ รับรองว่าจะได้เทคนิคดีดีในการทำข้อสอบไปอย่างไม่รู้ตัวแน่นอน

4.3 Milestone

แบบฝึกหัดประยุกต์แกรมมาร์หลายบทเข้าด้วยกัน ให้น้อง ๆ ได้ฝึกนำความรู้ที่เรียนทั้งหมดมาประยุกต์ใช้ได้อย่างแท้จริง โดยเข้าไปฝึกทำได้ง่ายๆ บนเว็บไซต์พร้อมรู้ผลคะแนนของตัวเองทันทีและเฉลยอย่างละเอียด

 

 

5. คอร์สเรียนสรุปเนื้อหาให้เข้าใจง่ายพร้อมเสริมเทคนิควิชามารโดยครูพี่วัน

สรุปเนื้อหาแต่ละเรื่องแบบเข้าใจง่าย พร้อมเสริมเทคนิควิชามารจากพี่วันช่วยให้จำได้ทุกกฎแกรมมาร์ พร้อมพาเชื่อมโยงความรู้แต่ละเรื่องเข้าด้วยกัน และพาประยุกต์ใช้ความรู้แกรมมาร์อีกด้วย เรียกว่าเนื้อหาอัดแน่น ความรู้จัดเต็ม ซึ่งน้อง ๆ สามารถเข้าเรียนคอร์สครูพี่วันได้ฟรี ตลอดชีพไม่มีวันหมดอายุ

 

 

6. ฝึก Grammar ให้สนุกด้วยเกมบนเว็บไซต์ พร้อมจัดลำดับ Ranking คนเซียนเกม!

แบบฝึกหัดแกรมมาร์ต้องไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ให้ผู้เรียนได้ทดสอบความรู้แกรมมาร์ที่เรียนมาทั้งหมดแข่งขันกับผู้เรียนคนอื่น ๆ บนเว็บไซต์ พร้อมจัดลำดับผู้ได้คะแนนสูงสุด อ๊ะ! ไม่ได้แข่งขันกันเพื่อกดดันน้อง ๆ หรอกนะ แต่มีไว้เพื่อให้น้อง ๆ สามารถประเมินระดับความรู้ของตัวเองเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ได้ก่อนต้องไปลงสนามแข่งขันจริงนั่นเอง

7. แผ่นพับทบทวน Grammar สำคัญทั้งหมดก่อนสอบได้ในแผ่นเดียว

แผ่นพับดีไซน์เก๋ สรุปเนื้อหาแกรมมาร์สำคัญเอาไว้ในแผ่นเดียวใช้อ่านก่อนเข้าสอบได้ในเวลาสั้นๆ หรือพกพาไปอ่านทบทวนได้ทุกที่

 

8. วางแผนการเรียนของตัวเองได้ด้วย Study Planner

วางแผนการเรียนให้พร้อมก่อนสอบ ด้วย Study Planner สุดน่ารัก มาพร้อมกับสติกเกอร์ตกแต่งสุดปังไม่ซ้ำใคร ทั้งในเล่มและให้ดาวน์โหลดแบบไฟล์ได้อีกด้วย

 

9. อ่านสนุก ไม่มีเบื่อไปกับธีมซีรีส์อีเวนต์สุดหรรษาในโรงเรียนมัธยม

ให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกกับการเรียนแกรมมาร์และอินไปกับตัวละครที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันและมีกำลังใจในการอ่านเหมือนมีเพื่อนเรียนไปด้วย บอกเลยว่าสีสันสวยงามจัดเต็มทั้งเล่ม

สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องแกรมมาร์ เรียนอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักที อย่าเพิ่งท้อและคิดไปว่าเราคงไม่มีทางเข้าใจได้แน่ ๆ เพราะหนังสือ TCAS Grammar Handbook จัดทำมาเพื่อผู้เรียนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนไปจนถึงผู้ที่ต้องการเรียนแกรมมาร์สำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยทีเดียว ทั้งเนื้อหาอัดแน่น คอร์สเรียนฟรี แบบฝึกหัดแบบประยุกต์ เรียนแล้วใช้แกรมมาร์เป็นจริงทั้งในเล่มและบนเว็บไซต์ และแผ่นพับสรุปแกรมมาร์ ที่ตัดเต็มมาพร้อมช่วยน้อง ๆ ให้เข้าใจแกรมมาร์ได้แบบทะลุปรุโปร่งแน่นอน

 

อยากได้หนังสือ TCAS Grammar Handbook ต้องทำยังไง

สามารถสั่งซื้อหนังสือ TCAS Grammar Handbook ได้โดยใช้ส่วนลดพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 890.- เท่านั้นจากราคาเต็ม 1,290 บาท เพียงแจ้งโค้ด “OPENTG600” สิทธิ์มีจำนวนจำกัดรีบสั่งซื้อเลย!!!

 

สั่งซื้อผ่าน Inbox เพจ OpenDurian TCAS คลิก

 

สั่งซื้อผ่าน Shopee ร้าน OpenDurian คลิก

 

หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถพูดคุยกับแอดมินเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่างนะคะ