7 สาขาแพทยศาสตร์ จบมาเงินดี

ถึงจะเรียนหนัก แต่ค่าตอบแทนไม่ธรรมดา ไปดูเล้ยยยย

1.✨

        ศัลยกรรมตกแต่ง “Plastic Surgery” เพราะเป็นที่รู้กันมาแต่ไหนแต่ไร ว่าเป็นสาขาที่จบออกมาแล้วเงินดีมาก ๆ แล้วถ้ายิ่งเปิดคลีนิคเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็.. พูดเลยว่าเงินเข้าไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว และสาขานี้ก็เป็นสาขาที่นักศึกษาแพทย์ แย่งกันเรียนเป็นลำดับต้น ๆ เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าเรียนยากแต่จบมาค่าตอบแทนสูงจริง ๆ แล้วยิ่งยุคนี้สมัยนี้ ผู้คนก็คนต่างยอมรับ และเปิดใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมกันอย่างกว้างขวางแล้วด้วยนั้น น้อง ๆ ที่อยากเรียนหมอ ก็ลองมองสาขานี้ไว้เป็นอีก 1 ตัวเลือกก็จะดีไม่น้อย

        “Plastic Surgery” คือ แขนงวิชาเฉพาะสาขาของ “ศัลยศาสตร์ (Specialized Branch of Surgery)” ก็มีขอบข่ายการที่กว้างมาก ไม่ว่าจะ ศัลยกรรมจมูก ตา ปาก หน้าอก และ อื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยจ้า

อยากเป็นหมอ ต้องรีบติวแต่เนิ่นๆ กดทดลองเรียนฟรี คอร์สปั้นหมอ

2.✨

        ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedics) หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกัน ในชื่อหมอกระดูกนั่นเอง แพทย์ในสาขานี้จะต้องทำการวินิจฉัยความผิดปกติ เกี่ยวกับกระดูก ข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกาย

        โดยในปัจจุบันเราปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อและกระดูก รวมถึงอุบัติเหตุทางร่างกายและกระดูกหักสูงขึ้นทุกปี นอกจากผู้สุงอายุที่จะมีปัญหาด้านกระดูกแล้ว เดี๋ยวนี้เด็ก ๆ ก็มีปัญหาด้านนี้กันเยอะมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้นี่เองก็ทำให้ศัลยแพทย์กระดูก มีความต้องการสูงมากขึ้นทุกปี ยิ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก ต้องการแพทย์เพิ่มขึ้น รายได้ของแพทย์สาขานี้จึงมากขึ้นตามไปด้วยจ้า
 

3.✨

        อวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะ หู ตา คอ จมูก ล้วนแต่มีความสำคัญมากในการดำเนินชีวิต เมื่ออวัยวะเหล่านี้สำคัญ แพทย์สาขานี้จึงสำคัญมาก ๆ เช่นกัน โดยอวัยวะเหล่านี้มีความซับซ้อน และต้องการความละเอียดละอ่อนในการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งเราจะสังเกตได้เลยว่า หากเรามีความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งจากที่กล่าวมาเราจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด และทรมานอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตา หู คอ จมูก หรือ (โสตศอนาสิกวิทยา Otolaryngology) จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงสมน้ำสมเนื้อกับความยาก และความละเอียดอ่อนที่แพทย์ด้านนี้ได้ศึกษาเล่าเรียนมา

        และหน้าที่สำหรับแพทย์ในสาขานี้ ได้แก่ ทำการวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของหู จมูก กล่องเสียงหรือช่องคอ ศีรษะ และคอ โดยโรคที่เจอได้บ่อย ๆ ก็คือ โรคไซนัสอักเสบ โรคนอนกรน โรคหูน้ำหนวก เจ็บในลำคอ ต่อมไทรอยด์ หรือโรคภูมิแพ้หู คอ จมูก เป็นต้น

อยากเป็นหมอ ต้องรีบติวแต่เนิ่นๆ กดทดลองเรียนฟรี คอร์สปั้นหมอ

4.✨

        ถ้าหัวใจไม่สำคัญ แล้วอะไรจะสำคัญใช่ไหมจ๊ะ? ศัลยแพทย์หัวใจ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ “ศัลยแพทย์หัวใจ (Cardiac Surgeon)” หรือบางครั้ง จะเรียกว่า “ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Surgeons)” ชื่อก็บอกตรงตัวอยู่แล้วว่า เป็นการแพทย์ที่ศึกษาเกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ วินิจฉัย และทำการรักษา

        เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และลิ้นหัวใจรั่ว และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ฉะนั้นแน่นอนว่า คุณหมอด้านนี้จึงต้องเชี่ยวชาญ และชำนาญในการผ่าตัดเป็นอย่างมากด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยถึงค่าตอบแทนที่ศัลยแพทย์หัวใจจะได้รับเลยว่า จะมีจำนวนเท่าใด?

5.✨

         หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอดมยา หรือ หมอวางยาสลบ” ไม่ต้องบอกเลยว่าสำคัญขนาดไหน เพราะในการผ่าตัดแต่ละครั้ง ที่ต้องมีการวางยาสลบ ยาชา บล็อกไขสันหลัง ฯลฯ ก็เป็นหน้าที่ของวิสัญญีแพทย์นี่แหละ ที่จะทำอย่างไรให้คนไข้ปลอดภัยจากการผ่าตัด และให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุด ทั้งในขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ต้องเลือกยา รวมถึงวิธีการให้เหมาะสมกับเคสและกายภาพของผู้ป่วย มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว

         และแน่นอนว่าการผ่าตัดนั้นเกิดขึ้นทุกวัน วิสัญญีแพทย์ไม่ว่าจะในโรงพยาบาลรัฐบาล เอกชน หรือ คลีนิค จึงมีงานทุกวัน แถมยังเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก ๆ อีกด้วย ดังนั้นเรื่องรายได้ค่าตอบแทนก็ไม่ต้องห่วงเลย คุ้มค่ากับที่เล่าเรียนมาอย่างแน่นอนจ้า

6.✨

        ศัลยแพทย์ช่องปาก (Oral and Maxillofacial Surgeons) เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีพทางด้านทันตแพทย์ แต่จะลงลึกมากกว่านั้นเกี่ยวกับการผ่าตัดเพื่อรักษาความผิดปกติของขากรรไกร ใบหน้า ปากแหว่งเพดานโหว่ ดูแลระบบบดเคี้ยวอาหาร และการทำหน้าที่ของอวัยวะภายในช่องปาก

        ตัวอย่างเช่น การผ่าตัดกระดูกขากรรไกร ผ่าตัดฝังรากฟันเทียมต่าง ๆ ปลูกฟัน ผ่าตัดเนื้องอกในช่องปาก และอื่น ๆ เกี่ยวกับช่องปากทั้งหมด และใช่ค่ะ ที่กล่าวไปทั้งหมดข้างต้น เป็นงานของศัลยแพทย์ช่องปาก ดังนั้นแพทย์เรื่องเกี่ยวกับปากฟันนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรายได้อีกเช่นกัน เพราะในแต่ละวันนั้นมีผู้ป่วยแวะเวียนเข้ามารักษาไม่ขาดสายเป็นลำดับต้น ๆ อีกเช่นกัน

7.✨

        หากผู้หญิงในโลกนี้ยังเป็นเพศที่มีจำนวนมากอยู่เช่นนี้ หมอสูตินารีแพทย์ (Gynecologist) ก็จะมีงานเข้าอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพราะจะมีหน้าที่ในการทำคลอด และตรวจรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับสตรี โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ บางคนจึงมักเรียกพวกเขาว่า “หมอตรวจภายใน”

        แต่สูตินรีแพทย์ ไม่เพียงแต่ตรวจภายในเท่านั้นน้า เพราะครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรและการผ่าตัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงทั้งหมดเลยจ้ะ ในแต่ละวันก็จะมีคนไข้เข้ามาตรวจภายในจำนวนมาก แถมยังไม่รวมเรื่องการให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตร และการผ่าตัดต่าง ๆ อีก หากเคสต่อวันมากขึ้นเท่าไหร่ ดังนั้นค่าตอบแทนของแพทย์ด้านนี้จึงมากตามไปด้วยนั่นเอง

อยากเป็นหมอ ต้องรีบติวแต่เนิ่นๆ กดทดลองเรียนฟรี คอร์สปั้นหมอ