โค้งสุดท้าย TCAS66 รู้ทันข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ และวิธีเตรียมตัวให้ทันใน 1 เดือน
สารบัญ
- รู้ก่อน! ข้อสอบใหม่แตกต่างจากข้อสอบเก่ายังไง
- สิ่งที่น้อง ๆ ห้ามพลาดในข้อสอบ A-Level
- จะเตรียมตัวยังไงดีถ้ามีเวลาไม่เยอะ
- A-Level ภาษาอังกฤษอัปเดตแนวข้อสอบใหม่ที่สุด! อ่านทันใน 1 เดือน
รู้ก่อน! ข้อสอบใหม่แตกต่างจากข้อสอบเก่ายังไง
1. A-Level คืออะไร
ข้อสอบ A-Level หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของข้อสอบวิชาสามัญแบบเก่า เป็นข้อสอบที่ทำให้น้อง ๆ หลาย ๆ คนสงสัยมากว่ามันคืออะไรและมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ก่อนอื่นเลย A-Level ย่อมาจาก Applied Knowledge Level ซึ่งเป็นข้อสอบที่วัดความรู้เชิงวิชาการที่ได้เรียนในหลักสูตร มีการเคลมว่าข้อสอบที่ออกจะเป็นเนื้อหาที่น้อง ๆ ได้เรียนตั้งแต่ ม.4-ม.6 เลย สรุปเลยก็คือ A-Level เป็นข้อสอบที่มีเนื้อหาอ้างอิงมาจากหลักสูตรแกนกลาง สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน) มีทั้งหมด 80 ข้อคะแนนเต็ม 100 คะแนน เวลาในการทำข้อสอบคือ 90 นาทีจ้าและเป็นการสอบด้วยกระดาษเท่านั้นน้า
2. A-Level vs วิชาสามัญ!
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง A-Level และวิชาสามัญเลยก็คือมีการเพิ่มพาร์ตใหม่ ๆ ในข้อสอบเช่น Visual (ภาพประกอบบทความ), Product or Service Review (บทวิจารณ์สินค้าและบริการ) และมีการตัดบางพาร์ตออกไปเช่น Joke (เรื่องตลก) และ Poem (กลอน) นั่นหมายความว่าน้อง ๆ จะต้องเตรียมตัวตัวให้พร้อมในการทำข้อสอบพาร์ตใหม่ให้ได้ แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่นะเพราะตัวเลือกในข้อสอบ A-Level เหลือแค่ 4 ตัวเลือกเท่านั้นจากที่ปีก่อน ๆ มีถึง 5 ตัวเลือกเลย ข้อดีของการลดตัวเลือกลงก็คือน้อง ๆ สามารถตัดตัวเลือกในการทำข้อสอบได้เร็วขึ้นนั่นเอง
สิ่งที่น้อง ๆ ห้ามพลาดในข้อสอบ A-Level
1. รู้ทันข้อสอบให้ได้ว่าแต่ละพาร์ตวัดอะไร!
สิ่งที่น้อง ๆ ห้ามพลาดในการทำข้อสอบ A-Level อย่างแรกเลยก็คือ น้อง ๆ ต้องรู้ว่าแต่ละพาร์ตวัดทักษะด้านไหนไม่งั้นตอนทำข้อสอบจริงจะเสียเวลามากและอาจจะทำผิดได้ เช่น ข้อสอบ Visual (ภาพประกอบบทความ) เป็นการวัดทักษะการอ่าน เวลาที่น้อง ๆ ทำพาร์ตนี้ น้อง ๆ ก็ไม่ต้องสนใจ Grammar เลย แค่ดูรูปที่ข้อสอบให้มาและตีโจทย์ให้แตก ในทางกลับกัน ถ้าน้อง ๆ ทำพาร์ต Text Completion (การเติมบทความให้สมบูรณ์) น้อง ๆ จะต้องใช้ความรู้ทั้ง Grammar และ Vocab ในการทำพาร์ตนี้ สรุปเลยก็คือน้อง ๆ ต้องรู้ว่าข้อสอบในแต่ละพาร์ตวัดอะไรบ้าง น้อง ๆ จะได้ประหยัดเวลาและดึงทักษะที่สะสมมามาใช้ให้ถูกต้องนั่นเองจ้า
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าข้อสอบ A-Level มีหลายพาร์ตมากแถมเวลาทำก็ยังน้อยมาก ๆ อีก ถ้าจะมาโฟกัสทุกพาร์ตก็อาจจะเตรียมตัวไม่ทัน ดังนั้นสิ่งที่น้อง ๆ ต้องทำเลยคือลองศึกษาตัวข้อสอบ A-Level ว่าพาร์ตไหนสามารถฝึกโดยใช้เวลาน้อยที่สุด เช่น พาร์ต Short Conversation (บทสนทนาแบบสั้น) เพราะเป็นบทสนาทั่วไปที่น้อง ๆ สามารถใช้เทคนิคในการเดาได้ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือน้อง ๆ จะต้องรู้ว่าตัวเองถนัดทักษะไหนที่สุดเพราะน้อง ๆ จะได้ฝึกทักษะที่ตัวเองปังอยู่แล้วให้ปังขึ้นไปอีกได้
2. ศัตรูหลักของข้อสอบนี้คือเวลา!
สิ่งที่น้อง ๆ ห้ามลืมอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ “เวลา” นั่นเอง ข้อสอบ A-Level มีทั้งหมดถึง 80 ข้อแต่ให้เวลามาแค่ 90 นาที (1ชั่วโมงครึ่ง) ถ้าลองคำนวนแล้วน้อง ๆ จะมีเวลาทำแค่ข้อละ 1.75 นาทีเท่านั้น! ที่สำคัญบางพาร์ตอย่างเช่น Article (บทความ) น้อง ๆ ต้องอ่านบทความ 500-600 คำเลย เท่ากับว่าการที่น้อง ๆ จะโฟกัสทุกพาร์ตเป็นเรื่องที่ยากมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือน้อง ๆ ต้องมีเทคนิคในการทำข้อสอบในแต่ละพาร์ตไว้ให้พร้อมเพื่อที่จะใช้เวลาให้ได้น้อยที่สุด เช่นพาร์ต Short Conversation (บทสนทนาแบบสั้น) เป็นพาร์ตที่เนื้อหาน้อยที่สุด น้อง ๆ ควรใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีต่อ 1 บทสนทนา หรืออย่างพาร์ต Article (บทความ) การอ่านครบทั้งหมดอาจจะไม่ใช่คำตอบ สิ่งที่น้อง ๆ ต้องทำก็คือการอ่านย่อหน้าแรกและอ่านแค่ประโยคแรกของทุกย่อหน้าก็พอ เทคนิคนี้ก็จะช่วยให้น้อง ๆ ประหยัดเวลาในการทำข้อสอบไปมากเลยแหละ
จะเตรียมตัวยังไงดีถ้ามีเวลาไม่เยอะ
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าอยากได้คะแนนเท่าไหร่!
ก่อนที่น้อง ๆ จะเตรียมตัวสอบ น้อง ๆ ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าสอบไปเพื่ออะไร อยากยื่นคณะไหน และอยากได้คะแนนเท่าไหร่ เพราะการที่น้อง ๆ มีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้น้อง ๆ มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ยิ่งถ้าน้อง ๆ มีเป้าหมายที่ชัดมากเท่าไหร่ น้อง ๆ ก็ยิ่งรู้ว่าจะต้องเตรียมมากน้อยแค่ไหน อ่านโพสต์นี้จบให้น้อง ๆ หยิบกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ มาแปะที่โต๊ะและจดเลยว่าเราอยากได้คะแนนเท่าไหร่และมุ่งไปให้ถึง!
เมื่อน้อง ๆ จะเริ่มเตรียมตัวสอบแล้ว ให้ลองตั้งเป้าหมายการอ่านในแต่ละวันจนไปถึงวันสุดท้ายก่อนสอบ น้อง ๆ อาจจะจดในปฎิทินหรือสมุดโน้ตก็ได้และตั้งไว้ในที่ที่ตัวเองเห็นบ่อย ๆ เพราะการตั้งเป้าหมายในการอ่านแต่ละวันจะทำให้น้อง ๆ เห็นภาพรวมว่าเหลือเวลาอีกกี่วันถึงจะสอบ รวมถึงเนื้อหาที่เหลือที่น้อง ๆ จะต้องอ่าน ถ้าอยากให้เจาะจงลงไปอีก น้อง ๆ ลองตั้งเป้าหมายการอ่านในแต่ละวันให้เป็นขั่วโมงให้ได้ เช่นวันนี้จะลองทำข้อสอบพาร์ต Long Conversation (บทสนทนาแบบยาว) 2 ชม. ท่องคำศัพท์เพิ่มอีก 1 ชม. การทำแบบนี้จะทำให้น้อง ๆ รู้ว่าเวลาที่เหลือเราจะต้องโฟกัสไปกับอะไร และไม่ใช้เวลาไปกับอะไรที่มากเกินจำเป็น
2. ฝึกทำข้อสอบ A-Level เพื่อประเมินตัวเอง
อีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสุด ๆ เลยก็คือให้น้อง ๆ ลองทำข้อสอบ A-Level เพื่อให้จับทางข้อสอบได้ ยิ่งน้อง ๆ ทำข้อสอบมากเท่าไหร่ น้อง ๆ ก็จะยิ่งชินกับตัวข้อสอบมากเท่านั้น สิ่งที่น้อง ๆ ไม่ควรทำเลยก็คือไปเจอข้อสอบในวันสอบจริงเพราะมันจะทำให้น้อง ๆ เครียดและอาจจะทำข้อสอบไม่ทันได้ ถ้าน้อง ๆ หาข้อสอบ A-Level ทำไม่ได้ การทำข้อสอบเก่าก็ถือว่าเป็นการซ้อมมือที่มีประโยชน์ต่อน้อง ๆ เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่น้อง ๆ ควรต้องทำก็คือฝึกทำข้อสอบไว้ให้ชิน และเมื่อน้องทำข้อสอบจนชินแล้ว น้อง ๆ อาจจะลองจับเวลาเสมือนจริงตอนทำควบคู่ด้วยจะยิ่งทำให้น้อง ๆ ไม่ตกใจตอนเจอข้อสอบจริงได้จ้า
นอกจากการฝึกทำข้อสอบจะทำให้น้อง ๆ จับทางข้อสอบและสามารถกะเวลาตอนทำจริงได้แล้ว น้อง ๆ ยังสามารถรู้ได้อีกด้วยว่าน้อง ๆ ยังต้องฝึกทักษะไหนเพิ่มอีกและใช้เวลาที่เหลือให้เป็นประโยชน์โดยการฝึกทักษะที่น้อง ๆ ไม่มั่นใจ เชื่อเถอะยิ่งเรารู้ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองเร็วแค่ไหน เราก็ยิ่งพัฒนาตัวเองให้เก่งเร็วได้ขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเจออะไรยาก ๆ น้องต้องอย่าเพิ่งยอมแพ้นะ เก็บแรงทั้งหมดมาฝึกพัฒนาตัวเองเพื่อให้ฝันของน้อง ๆ เป็นจริงกัน!
A-Level ภาษาอังกฤษอัปเดตแนวข้อสอบใหม่ที่สุด! อ่านทันใน 1 เดือน
ถึงจะเหลือเวลาอีกแค่อึดใจเดียว ก็สามารถสอบได้คะแนนสูงสูงด้วยตัวช่วยเด็ดของน้อง ม.6 รุ่น Dek66-67 โดยเฉพาะ
“สรุปแนวข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ” ดีอย่างไร
4 เหตุผลหลักที่น้องๆ ม.6 หรือใครที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ไม่ควรพลาด
1. รู้แนวข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษอัปเดตใหม่ที่สุดก่อนใคร!
ยิ่งรู้แนวโจทย์ที่ตรงกับข้อสอบมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้น้อง ๆ มีความพร้อมก่อนลงสนามสอบจริงมากขึ้นเท่านั้น โดยชีทสรุปแนวข้อสอบ A-Level นี้ ได้สรุปรูปแบบการทำข้อสอบที่อัปเดตใหม่ตรงตาม Blueprint จากทปอ.ปีล่าสุด ทั้งรูปแบบโจทย์ เนื้อหา ระดับความยาก และแนวข้อสอบในแต่ละพาร์ต ได้มีการปรับและอัปเดตใหม่ให้มีความใกล้เคียงกับข้อสอบจริงทั้งหมด รับรองว่าน้อง ๆ ที่อ่านชีทเล่มนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวข้อสอบ A-Level แนวใหม่อีกต่อไป
2. อ่านสอบทันแน่ แม้เหลือเวลาไม่ถึงเดือน
Master Plan ตัวช่วยจัดตารางการอ่านสอบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เหลือเวลาก่อนสอบน้อยแค่ไหนก็อ่านทัน! เพราะ Master Plan ออกแบบมาให้น้อง ๆ รู้ว่าเรื่องไหนที่มีเปอร์เซ็นออกสอบเยอะ และข้อสอบแต่ละเรื่องมีระดับความยากง่ายแตกต่างกันอย่างไร ทำให้น้อง ๆ สามารถเลือกทบทวนเรื่องที่ตัวเองถนัดมากที่สุดและเก็บคะแนนได้ง่ายที่สุดก่อนใคร
หรือถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองถนัดเรื่องไหน ก็สามารถเลือกอ่านตามแผนที่ให้ไว้ได้เลย รับรองคะแนน A-Level ภาษาอังกฤษพุ่งสูงแน่นอน
3. แบบฝึกหัด A-Level โฉมใหม่มากถึง 4 รูปแบบ
ฝึกทำโจทย์ A-Level ภาษาอังกฤษแบบใหม่ล่าสุดรวมกว่า 192 ข้อ และรูปแบบโจทย์ให้ฝึกทำมากถึง 4 รูปแบบด้วยกัน โดยแต่ละรูปแบบจะเป็นโจทย์ที่เก็งมาแล้วว่าใกล้เคียงกับข้อสอบ A-Level จริงมากที่สุด พร้อมทั้งจัดระดับความยาก-ง่ายของโจทย์ตาม Blueprint ที่อัปเดตใหม่ล่าสุดอีกด้วย โดยความแตกต่างของโจทย์แต่ละแบบจะเป็นยังไง ไปดูกันเลย
3.1) ครูพี่วันพาทำ A-Level
เริ่มฝึกทำโจทย์แนวข้อสอบ A-Level รูปแบบแรกไปพร้อม ๆ กับครูพี่วัน ที่มีมินิคอร์สสอนเทคนิคการทำข้อสอบ A-Level ให้โดยเฉพาะ โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปเรียนได้ง่ายๆ แค่สแกน QR code
3.2) ชวนน้องลองทำ A-Level
เมื่อได้ลองทำโจทย์ไปพร้อมกับครูพี่วันแล้ว ต่อมาน้อง ๆ จะได้ลองฝึกทำโจทย์ชวนน้องลองทำ A-Level ด้วยตัวเอง เพื่อเช็กความเข้าใจของตัวเองก่อนจะดูเฉลยที่อธิบายไว้ให้อย่างละเอียดทีละ Step เหมือนพาน้อง ๆ จับมือทำโจทย์ไปด้วยกัน รับรองว่าอ่านแล้วเข้าใจ ไม่มีงงแน่นอน
3.3) ประลองมือ A-Level
โจทย์แบบที่ 3 น้อง ๆ จะได้ฝึกทำโจทย์ที่เทียบเท่ากับข้อยากในข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นระดับความยากตาม Blueprint อัปเดตใหม่ล่าสุด เรียกได้ว่าถ้าทำข้อนี้ได้ ก็สามารถทำโจทย์ A-level ภาษาอังกฤษข้อยากได้แน่นอน และน้อง ๆ ยังสามารถสแกน QR code เข้าไปดูเฉลยอธิบายคำตอบแบบละเอียดยิบบนเว็บไซต์ได้อีกด้วย
3.4) ปราบเซียน A-Level
โจทย์แบบสุดท้ายจะเป็นโจทย์แนวข้อสอบ A-Level ในระดับยากที่สุด ซึ่งถ้าหากน้อง ๆ สามารถทำโจทย์ข้อนี้ได้ ก็มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษได้คะแนนดีแน่นอน แต่น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลไปว่าจะทำไม่ได้ เพราะมีเฉลยไว้ให้อย่างละเอียดพร้อมอธิบายทีละ Step ไว้ให้เพียง สแกน QR code เข้าไปอ่านบนเว็บไซต์
4. เทคนิคทำข้อสอบได้ชัวร์
4.1) สรุป “Grammar ควรรู้” ให้แต่ละเรื่อง
ภายในชีทจะแทรกความรู้เรื่องแกรมมาร์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำข้อสอบประจำแต่ละเรื่อง ซึ่งน้อง ๆ ไม่จำเป็นต้องไปนั่งทบทวนเรื่องแกรมมาร์ทั้งหมดให้เสียเวลา เพียงแค่อ่านกรอบสรุป “Grammar ควรรู้” ท้ายเรื่องนั้น ๆ ก็มีความรู้เพียงพอในการทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษแล้วล่ะ
4.2) แทรกจุดที่ใช้วิเคราะห์โจทย์เพื่อให้ทำข้อสอบได้ง่ายและเร็วขึ้น
ฟีเจอร์พิเศษที่จะช่วยให้การทำข้อสอบของน้อง ๆ ง่ายขึ้น มีอยู่ด้วยกันถึง 4 ฟีเจอร์ด้วยกัน คือ
4.2.1) ครูพี่วัน’s Hack
สอนเทคนิคลัดในการทำข้อสอบและช่วยให้น้อง ๆ สามารถเดาคำตอบได้ง่าย ๆ เมื่อเจอข้อที่ยากมาก ๆ นั่นเอง
4.2.2) ครูพี่วัน’s Guide
บอกจุดที่ต้องสังเกตเป็นพิเศษในการทำข้อสอบ เพื่อให้สามารถหาคำตอบหรือเดาคำตอบได้ง่ายๆ รวมไปถึงบอกเรื่องที่จำเป็นต้องรู้เพื่อให้สามารถทำข้อสอบข้อนี้ได้อีกด้วย ซึ่งน้อง ๆ สามารถกลับไปทบทวนเป็นในเรื่องที่ยังไม่รู้ได้ถูกจุดนั่นเอง
4.2.3) ระวัง!
บอกจุดที่ควรระวังในการทำโจทย์ ซึ่งมักเป็นจุดที่น้อง ๆ จะเข้าใจผิดหรือผิด
พลาดบ่อยนั่นเอง
4.2.4) กรอบพี่ทุเรียน
บอกคำศัพท์และสำนวนที่น่ารู้
4.3) สรุปแกรมมาร์และเทคนิคการทำข้อสอบท้ายเล่ม
น้อง ๆ ไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านแกรมมาร์ทั้งหมดเพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้ แค่น้อง ๆ อ่านสรุปแกรมมาร์และเทคนิคการทำข้อสอบที่จำเป็นต้องรู้และใช้ในการทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษที่มีไว้ให้ท้ายเล่ม ก็ครบ จบ ทุกเรื่องที่ควรรู้ในการทำข้อสอบแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทบทวนเยอะ ๆ ที่สำคัญสามารถตัดออกมาพกพาไปอ่านได้ทุกที่ด้วยนะ
5. ฟรี! มินิคอร์สอธิบายเทคนิคการทำข้อสอบครบทุกพาร์ตโดยครูพี่วัน
จัดเต็มเทคนิคการทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ โดยครูพี่วัน อธิบายเทคนิคและขั้นตอนการทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ แบบจับมือทำทีละ Step รับรองว่าไม่มีงง เรียนฟรีมินิคอร์สถึง 3 ชั่วโมง เข้าเรียนได้เรื่อยๆ ไม่มีวันหมดอายุ เรียกว่าคุ้มสุด ๆ
อยากได้สรุปแนวข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษต้องทำยังไง
สามารถสั่งซื้อชีทสรุปแนวข้อสอบ A-Level ENGLISH ได้โดยใช้ส่วนลดพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 390.- เท่านั้นจากราคาเต็ม 790 บาท เพียงแจ้งโค้ด “OPENAE500” สิทธิ์มีจำนวนจำกัดรีบสั่งซื้อเลย!!!
สั่งซื้อผ่าน Inbox เพจ OpenDurian TCAS คลิก
สั่งซื้อผ่าน Shopee ร้าน OpenDurian คลิก
สั่งซื้อผ่าน Lazada ร้าน OpenDurian คลิก
หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถพูดคุยกับแอดมินเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่างนะคะ
คอร์ส TPAT1 ความถนัดแพทย์ กสพท ครบ 3 พาร์ต (เชาวน์ปัญญา จริยธรรมแพทย์ เชื่อมโยง) เนื้อหาและแนวข้อสอบ อัปเดตใหม่ล่าสุด! จัดเต็ม 22 ชั่วโมง ติวจบพร้อมสอบทันที!
คอร์สติวเนื้อหา TGAT 2&3 พาร์ตการคิดอย่างมีเหตุผล และสมรรถนะการทำงาน ทริคทำข้อสอบเพียบ พร้อมแนวข้อสอบแบบจัดเต็ม! เรียนจบ การันตีสอบติด!
คอร์สติวเข้ม สอบเข้าพยาบาล เทคนิคการแพทย์ และสาธารณสุข ติวครบทุกวิชา พร้อมตะลุยข้อสอบ
ติวเนื้อหาแน่น! ครอบคลุม พร้อมพาทำข้อสอบใหม่ เข้าใจง่าย เซฟเวลาติวสอบ เทคนิคลัดเพียบ!