เจาะลึก 5 Tenses ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด อยากพูดอังกฤษคล่องต้องรู้!

เจาะลึก 5 Tenses ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด อยากพูดอังกฤษคล่องต้องรู้!

หลังจากครูดิวได้สอน 12 Tenses ภาษาอังกฤษแบบรวบรัดไปแล้ว วันนี้ครูดิวอยากพานักเรียนมาเจาะลึก 5 Tenses ที่ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด โดย 5 Tenses ที่ยกมาถือว่าเป็น Tense ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษไว้ใช้ในชีวิตประจำวันมากเลยค่ะ เดี๋ยวเรามาทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่า 5 Tenses นี้ใช้ยังไงกันบ้างน้า

 

เจาะลึก 5 Tenses ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด
อยากพูดENGคล่องต้องรู้

 

        เดี๋ยวครูจะเริ่มที่ Present Continuous เลยนะคะ เพราะเป็น Tense ที่ใช้บ่อยที่สุดรองจาก Present Simple สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านเรื่อง 12 Tenses ฉบับรวบรัด คลิกได้เลยค่ะ เพราะในหน้านี้ครูจะพามาโฟกัส 5 รูปประโยคที่ฝรั่งใช้บ่อย ซึ่งจะช่วยทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นค่ะ

 

Present Continuous
โครงสร้าง S + is/am/are + V.-ing

        Present Continuous จาก “สรุป 12 Tenses ฉบับรวบรัด” ก่อนหน้าเราได้รู้ไปแล้วว่า Present Continuous เป็นประโยคบอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นใน “ปัจจุบัน” เท่านั้น แต่ตอนนี้ครูดิวจะมาเจาะลึกให้นักเรียนรู้จักวิธีแต่งประโยคภาษาอังกฤษในรูป Present Continuous โดยสอนให้รู้จักการใช้ Verb to be อย่าง Is Am Are ในรูป Present Continuous กันก่อนค่ะ

 

Verb to be กับโครงสร้าง Present Continuous

Verb to be - Am ใช้กับประธานที่เป็น I เท่านั้น ไม่ต้องใช้กับตัวอื่นเลยค่ะ ใช้ I เป็นประธานให้ตามด้วย V. to be “am” เลยค่ะ เป็น I am ….

Verb to be - Is ใช้กับประธานคนเดียว ที่เป็น “คน” ก็ได้หรือ “สิ่งของ” ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น He She It หรือคำนามอะไรก็ตามที่อยู่ในรูปเอกพจน์มีจำนวนหนึ่งเดียวค่ะ

เช่น 
He is ….
She is ….
It is ….
An apple is …..
The computer is ….

Verb to be - Are ใช้กับประธานหลายคน ไม้ว่าจะเป็น “คน” หรือ “สิ่งของ” ถ้าเติม -s หรือที่เรียกกันว่าพหูพจน์ มีมากกว่า 2 จำนวนขึ้นไป ให้ใช้ V. to be ที่เป็น “are” ค่ะ

เช่น 
You are ….
We are ….
They are ….
Oranges are ….
The cars are ….

กริยาเติม -ing ในโครงสร้าง Present Continuous

        Is Am Are เมื่อ + กับ -ing ให้แปลบริบทของประโยคจากโครงสร้างนี้ว่า “กำลัง….” ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะคนกำลังทำอะไรอยู่หรือมีเรื่องอะไรกำลังเกิดขึ้น ในเวลาปัจจุบัน ขอให้ยึดโครงสร้างนี้ไว้เลยค่ะ เวลาแต่งประโยค Subject + V.to be + V.-ing ก็จะสื่อได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันค่ะ

ตัวอย่าง Present Continuous Tense
I am working. ฉันกำลังทำงานอยู่
He is playing football. เขากำลังเตะบอลอยู่
The police are chasing the thief. - ตำรวจกำลังไล่ล่าโจรอยู่

            ดังนั้นถ้าจะพูดว่า “กำลังทำ’ ใช้ Present Continuous โครงสร้าง is/am/are + V-ing ได้เลยค่ะ มาต่อกันที่ Present Perfect กันค่ะ

 

Present Perfect
โครงสร้าง S + have/has + V.3

        Present Perfect ให้ยึดบริบทความหมายว่า “สมบูรณ์แล้ว” หรือ “จบแล้ว” ให้จำไว้ว่า รูป Perfect ต้องมีกริยาช่อง 3 อยู่เสมอพร้อม have/has นำหน้า ดังนั้นถ้าใครอยากพูดภาษาอังกฤษว่าเคยทำแล้ว ทำเสร็จไปแล้ว นอกจาก Already ก็ให้ใช้แค่โครงสร้าง Present Perfect ได้เลยค่ะ

 

การใช้ Have / Has ในโครงสร้าง Present Perfect

        ในการใช้ Have / Has ให้ยึดหลักการเดียวกับประธาน + กริยาช่อง 1 ใน Present Simple ค่ะ He She It หรือประธานเอกพจน์ให้เปลี่ยน Have เป็น Has ค่ะ ส่วน I You We They ประธานพหูพจน์เติม -s ให้ใช้ Have เหมือนเดิมค่ะ

ความหมายที่ 1 แปลว่า ….เสร็จแล้ว ทำเรียบร้อยแล้ว

I have played this game. เราเล่นเกมนี้จบแล้ว
We have arrived home. พวกเราถึงบ้านแล้ว
He has sent me a gift. เขาส่งของขวัญไปแล้ว

ความหมายที่ 2 แปลว่า เคยทำแล้ว เคยเจอแล้ว เคย…แล้ว

We have met. เราเคยเจอกันแล้ว
I have seen you before. ฉันเคยเจอคุณมาก่อน

ความหมายที่ 3 แปลว่า อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและยังดำเนินอยู่ในปัจจุบันค่ะ

They have lived in London for 3 years. พวกเขาอยู่ที่ลอนดอนมา 3 ปีแล้ว
She has learned this since 2010. หล่อนได้ศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2010

 

✿อยากพูดอังกฤษคล่องต้องหนังสือ+คอร์ส 4 Skills New Normal✿

 

Present Perfect Continuous
โครงสร้าง S + have/has + been + V-ing

        Present Perfect Continuous โครงสร้างมีแค่ have/has + been + V-ing เลยค่ะ ให้เรายึดบริบทความหมายว่า “ทำมาโดยตลอดและยังคงทำต่อไป” 

ตัวอย่าง Present Continuous Tense
I have been watching the movie for 2 hours.

        จำง่าย ๆว่า ทำมาในอดีต ถึงในปัจจุบันก็ยังทำอยู่ และยังไม่หยุดทำคงทำต่อไป ไม่ว่าประธานจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ใช้โครงสร้างนี้ได้เลยค่ะ

 

คำเชื่อมที่มักใช้กับ Present Perfect กับ Present Perfect Continuous

For แปลว่า เป็นเวลา…

We have been living here for 10 years and don’t think of moving out anywhere else.
พวกเราอยู่ที่นี่มาเป็นเวลา 10 ปีแล้วและไม่คิดย้ายออกไปอยู่ที่ไหนอีกเลย

Since แปลว่า ตั้งแต่….
He has done this business since 2010.
เขาทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว

 

Past Simple
โครงสร้าง S + V.2

        Past Simple มาต่อในรูปของการบอกเล่าในเรื่องอดีตที่โครงสร้างง่ายมาก คือยึดบริบทไว้ว่าใช้ V.2 มันคืออดีตที่จบไปแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ถ้าได้กระทำหรือมีอะไรเกิดขึ้นแต่จบไปแล้ว S + V.2 ค่ะ รู้เรื่องเลย ฝรั่งเก็ททันทีว่ามันจบไปแล้ว เป็นอดีตไปแล้วค่ะ

 

เห็นคำเหล่านี้ให้นึกถึง Past Simple

Yesterday - เมื่อวาน
Lately - เมื่อไม่นานมานี้
Last night - เมื่อคืน
Last week - สัปดาห์ที่แล้ว
Last month - เดือนที่แล้ว
Last year - ปีที่แล้ว
วัน/เวลา/ + ago - …ที่แล้ว เช่น 5 minutes ago เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว หรือ 3 years ago เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

ตัวอย่าง Past Simple Tense

I did my homework yesterday. เมื่อวานฉันทำการบ้านแล้ว
Last month we had a lot of fun. เดือนที่แล้วพวกเราสนุกกันมากเลย
The presentation started 10 minutes ago. การนำเสนอเริ่มไปแล้วเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว
I heard about the news. ฉันได้ยินข่าวมา (ถึงไม่ใส่วันเวลาอดีต แต่บริบทยังเป็นอดีตได้เพราะกริยาช่อง 2 ของคำว่า hear → heard ค่ะ) 

 

ความต่างระหว่าง Past Simple กับ Present Perfect

        ประเด็นนี้ครูดิวอยากหยิบยกขึ้นมาเพราะมีคนถามเข้ามาเยอะจากความสงสัยว่าถ้าเราแปลไทย Past Simple กับ Present Perfect ออกมาจะมีคำว่า “แล้ว” เหมือนกันทำให้สับสน แต่จริง ๆในรูปภาษาอังกฤษความหมายต่างกันค่ะ โดยขอยกตัวอย่างจากประโยคต่อไปนี้

I saw this movie last night. ฉันดูหนังเรื่องนี้เมื่อคืน
I have seen this movie. ฉันเคยดูหนังเรื่องนี้แล้ว

        ความแตกต่างของ 2 ประโยคนี้คือ ประโยคแรกเป็น Past Simple เพราะมีคีย์เวิร์ดบอกเวลามาให้ค่ะ มันจะอธิบายได้ทันทีว่าเป็นเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้วค่ะ เกิดขึ้นในช่วงไหนในอดีต ในขณะที่ประโยคที่ 2 ใช้ Present Perfect เป็นการบอกว่าเคยดูแล้วเป็นการสื่อเฉย ๆว่า แค่ทำสำเร็จไปแล้วไม่ได้ตั้งใจบอกเวลาว่าทำตอนไหนแค่บอกว่าได้ทำแล้วเท่านั้นค่ะ นี่คือความแตกต่าง ดังนั้นถ้าเจอคำศัพท์ที่แปลออกมาเป็นช่วงเวลาในอดีตเลือก Past Simple ถ้าแปลออกมาไม่มีการบอกในเวลาอดีต มี have + ช่องว่าง แสดงว่ากริยาต้องการ V.3 Present Perfect ค่ะ

 

Future Simple
โครงสร้าง S + will + V. inf

        Future Simple มาถึง Tenses ที่ 5 ที่ใช้บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตแบบง่าย ๆ แค่บอกว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้นหรือแปลเป็นไทยว่า “จะ” นั่นเองค่ะ โครงสร้างจำง่ายมากไม่ต้องกังวลเรื่องผันกริยาตามประธานเลยเพราะ Will สามารถใช้ได้กับประธานทุกตัวไม่ว่าจะเป็น I You We They He She It คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์ ใช้แค่ Will คำเดียวแล้วตามด้วยกริยาไม่ผันหรือ Infinitive Verb (V. inf) ค่ะ การใช้โครงสร้างประโยคนี้ง่ายมากเลย สามารถเรียงแบบไทยก็ได้เลยค่ะว่า ฉัน(ประธาน) + จะ(will) + ทำ(กริยา) แล้วตามด้วยกรรมหรือคำอื่น ๆได้เลยค่ะ ง่ายมาก

 

เห็นคำเหล่านี้ให้นึกถึง Future Simple

Tomorrow - พรุ่งนี้
Next week - สัปดาห์หน้า
Next month - เดือนหน้า
Next year - ปีหน้า
In + เลขปี - ในปี .... (ปีที่ยังไม่ถึงเมื่อนับดูจากเวลาปัจจุบัน) เช่น In 2030
Later - ทีหลัง ภายหลัง
Soon - เร็ว ๆนี้
In the next + เวลา - ในอีก…ข้างหน้า
เช่น In the next 5 days ใน 5 วันข้างหน้า หรือ In the next 2 hours ในอีก 2 ช่วงโมงข้างหน้า ใช้เวลาไหนก็ได้ค่ะ แค่เห็น In the next + เวลาปุ๊บ มันคืออนาคตค่ะ

 

ตัวอย่าง Future Simple Tense

I will do it tomorrow. ฉันจะทำพรุ่งนี้
He will come next week. เขาจะมาสัปดาห์หน้า
They will go to New York City next month. พวกเขาจะไปนครนิวยอร์กเดือนหน้า

 

คำว่า Shall ใช้ตอนไหน

        Will กับ Shall สามารถใช้ร่วมกับได้ค่ะ โดย Shall แปลว่า “จะ” เหมือนกัน แต่เป็นคำภาษาอังกฤษที่ใช้กันในสมัยก่อน ตอนนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้วค่ะ แถม Shall จะสามารถใช้ได้แค่ I กับ We เท่านั้นค่ะ

เช่น
I shall go now. ฉันจะต้องไปแล้ว
We shall move on. พวกเราจะต้องไปต่อแล้ว

        สรุปแล้ว 5 Tenses ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด ต่อยอดจาก 12 Tenses ฉบับรวบรัด ก็จบไปแล้วค่ะ ครูหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับพวกเรามาก ๆ โดยเฉพาะกับคนที่กำลังฝึกพูดหรือฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษ การที่เราจำ 5 Tenses นี้ได้ก็ถือว่าเราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ใกล้ระดับกลางแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากต่อยอดให้สื่อสารเป๊ะ คล่อง ใช้ได้ทุกคำ แต่งประโยคได้ พูดคล่อง ฟังรู้เรื่อง เขียนเลิศ อ่านจับใจความได้ทันที หนังสือ 4 Skills New Normal ของครูดิวช่วยได้ค่ะ ช่วยปูพื้นฐานสำหรับคนที่พื้นฐานภาษาอังกฤษน้อยมาก ๆ พอพูดโต้ตอบได้แค่ Yes No Okay Thank you ได้ หนังสือและคอร์ส 4 Skills จะช่วยให้เราพัฒนาจนสื่อสารได้มากกว่า Yes No Okay Thank you แม้ตัว 5 Tenses ใช้บ่อยก็รวมอยู่ในหนังสือด้วยค่ะ

 

✿หนังสือและคอร์ส 4 Skills New Normal✿

- สำหรับคนที่ต้องการปูพื้นฐานตั้งแต่ต้น -
- เรียนครบทุก 4 ทักษะสำคัญอย่าง ฟัง พูด อ่าน เขียน -
- คอร์สเรียนสนุก ครบถ้วนกว่า 9 ชั่วโมง ทบทวนได้ตลอดชีพ-
- มีฟีเจอร์ AI ตรวจจับคำพูดตอบโต้ภาษาอังกฤษกับฝรั่ง เหมือนได้ลองพูดจริง ๆ -
- อัดแน่นไปพร้อมแบบฝึกหัด เฉลยและคำอธิบายในคอร์สเรียนครบถ้วน -

 

ดูคลิปครูดิวเจาะลึก 5 Tenses ฝรั่งใช้บ่อยที่สุด

 

แต่ถ้าอยากติวคอร์ส KruDew ติว TOEIC® มีให้ครบทุกอย่าง! 

ติว TOEIC ครูดิว พร้อมลองทำข้อสอบเหมือนจริง

ติว TOEIC กับครูดิว ดียังไง?

  • คอร์สติว TOEIC ของครูดิวนั้น เรียน Online
  • แบ่งบทเรียนชัดเจน เรียนง่ายไม่งง คลิ๊กเลือกบทเรียนที่ต้องการได้ทันที
  • สามารถหยุด, เล่นซ้ำบทเรียนที่ต้องการได้แบบไม่อั้น! (ตลอดระยะเวลาคอร์ส)
  • อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ใหม่ล่าสุด! ครบชุด!
  • มีไฟล์ E-Book (PDF) ประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด (และมีหนังสือเรียนเป็นเล่มส่งให้ถึงบ้าน)
  • เรียนเวลาไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ แค่มี Internet

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเรียน สามารถส่งคำถามหาทีมงานได้

การันตีคะแนน 750+ (หากสอบแล้วไม่ถึง สามารถแจ้งทวนคอร์สได้ฟรี!)

 

ถ้ายังไม่แน่ใจ? ทดลองติวฟรีก่อนได้ที่ >>> คอร์ส KruDew TOEIC®

 

TOEIC® and TOEFL® are registered trademarks of Educational Testing Service (ETS). This product is not endorsed or approved by ETS.