เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล ด้วย 4 เทคนิคง่าย ๆ พูดได้ชัวร์!

เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล ด้วย 4 เทคนิคง่าย ๆ พูดได้ชัวร์!

เริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ใช้วิธีไหนให้ได้ผลจริง ลองมาดู 4 เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ กัน! พร้อมแนะนำตัวช่วยฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

UPDATE! คลิปวิดีโอฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษกับครูดิว

3 เทคนิคแต่ง "ประโยคบอกเล่า" ภาษาอังกฤษ โคตรง่าย! | KD's English Classroom

3 เทคนิคแต่ง "ประโยคคำถาม" ภาษาอังกฤษ ใครก็ทำได้! | KD's English Classroom

 

เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล
ใน 4 ขั้นตอน

เริ่มจาก 0 ไปจนพูดภาษาอังกฤษได้!

 

หลายคนประสบปัญหาเรียนภาษาอังกฤษมาหลายปีแต่ทำไมไม่เห็นผล พูดไม่เป็น ไม่กล้าพูด แต่งประโยคไม่ได้สักทีก็เพราะ 3 สาเหตุหลัก ดังต่อไปนี้

1. เรียนท่องจำเพื่อสอบอย่างเดียวไม่ได้ใช้จริง

2. เรียนผิดขั้นตอน โฟกัสผิดจุดไปที่แกรมมาร์ก่อนจนเรียนแล้วงง

3. ขาดความมั่นใจในการนำไปใช้สื่อสาร

ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องการคือแผนขั้นตอนการเรียนที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเรียนภาษาอังกฤษให้เห็นผล สามารถฝึกฝนได้ทุก ๆวัน และโฟกัสเริ่มต้นได้ถูกจุด ทางเราจึงขอแนะนำ 4 ขั้นตอนเรียนภาษาอังกฤษให้เห็นผล ซึ่งจะเป็นไกด์แนะแนวทางการเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้องให้เราทุกคนได้นั่นเองค่าา มาดูกันเลย

 

📌4 ขั้นตอนเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล📌

 

 

1. เรียนรู้คำศัพท์ในชีวิตประจำวันและฝึกออกเสียงทีละคำ 👄

ขั้นแรกแรกในการเรียนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติของมนุษย์คือการทำความรู้จักคำศัพท์และฝึกออกเสียง ฝึกมองสิ่งของและเรียกเป็นคำศัพท์คำนั้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบมีภาพจำในหัว พร้อมฝึกแกะรูปคำเพื่อดูว่าแต่พยางค์อ่านออกเสียงอย่างไรบ้าง เช่นคำว่า Apple

Apple /แอพ-เพิล/ แปลว่า แอปเปิ้ล 

- เป็นคำนาม
- ap ออกเสียงว่า /แอพ/ ตัว A เป็นเหมือนสระแอและตัว P เป็นเหมือนตัวสะกด พ.พาน
- ple ออกเสียงว่า /เพิล/ ตัว P ออกเสียง พ.พาน และ LE เมื่อรวมกันกลายเป็นเสียงสระเ-ิล ในภาษาอังกฤษ

หากทุกคนหมั่นท่องศัพท์บ่อย ๆเริ่มจากคำที่ง่าย ๆ คำศัพท์สิ่งของหรือเรื่องที่เจอในชีวิตประจำวันและฝึกฝนด้วยแนวทางนี้กับศัพท์ทุกคำ ก็จะช่วยปูทางให้ทุกคนเริ่มอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ ได้ฝึกใช้ศัพท์ที่มากกว่าท่องจำแล้วจบไปนั่นเอง

:star: ดูหนังสือศัพท์พื้นฐาน 500 คำ:star:

 

2. ฝึกพูดประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันแบบง่าย ๆ 💬

เมื่อพอรู้ศัพท์เบื้องต้นแล้วและเริ่มอ่านออกแล้ว การเรียนภาษาอังกฤษขั้นตอนต่อมาคือการหาประโยคง่าย ๆมาลองฝึกพูดและสร้างบทสนทนาตอบโต้ไปมา เช่น

  • ประโยคทักทาย
    Good morning. อรุณสวัสดิ์
    /กูด-มอร์นิง/
  • ประโยคถามไถ่
    How are you? คุณเป็นยังไงบ้าง
    /ฮาว-อาร์-ยู/
  • ประโยคตอบรับ
    I'm feeling good. ฉันสบายดี
    /ไอม-ฟีลิง-กูด/
  • ประโยคถามกลับ
    What about you? แล้วคุณล่ะ
    /วอท-เออะเบาทฺ-ยู/
  • ประโยคตอบรับแบบที่สอง
    Yeah, I'm fine. ก็สบายดี
    /เยียห์-ไอม-ไฟนฺ/
  • ประโยคบอกลา
    I have to go. Goodbye. ฉันต้องไปแล้ว ลาก่อน
    /ไอ-แฮฟ-ทู-โก-กูด-บาย/

เมื่อนำมาต่อกันเราจะได้บทสนทนาภาษาอังกฤษง่าย ๆดังนี้

A: Good morning. How are you? (อรุณสวัสดิ์ คุณเป็นยังไงบ้าง)
B: I’m feeling good. What about you? (ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ)
A: Yeah, I’m fine. (ก็สบายดี)
B: I have to go. Goodbye. (ฉันต้องไปแล้ว ลาก่อน)
A: Goodbye. (ลาก่อน)

ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงเป็นการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น แค่ลองพูดกับตัวเองไปมาก็ได้ค่ะเพราะยังถือว่าเป็นการฝึกฝนอยู่ ขอแค่ได้ออกเสียง ได้ลองสร้างบทสนทนา เพียงเท่านี้เราก็จะได้เข้าใจว่าการสื่อสารภาษาอังกฤษช่วงแรก ๆมีแนวทางยังไง พูดอย่างไรได้บ้างนั่นเองค่ะ

:star: ดูหนังสือรวมประโยคภาษาอังกฤษ:star:

:star: ดูหนังสือสอนแต่งประโยคง่าย ๆ:star:

 

3. สร้างทักษะการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน ให้พร้อมใช้จริง 🗨 🗯

เมื่อรู้จักคำศัพท์พื้นฐาน เริ่มอ่านออกเสียง และพูดประโยคบทสนทนาง่าย ๆเป็นแล้ว ขั้นต่อมาคือการนำมาฝึกสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยวิธีที่ถูกต้องที่จะฝึกอย่างไรให้เริ่มสื่อสารเป็นและเข้าใจภาษาอังกฤษได้มากที่สุด ซึ่งเราขอแนะนำขั้นตอนง่าย ๆดังนี้

  1. ฝึกทักษะการฟัง - การอ่านก่อน เพราะการรับสื่อโดยการฟังและการอ่านคือการฝึกเบื้องต้นที่ทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษมากขั้น ในชีวิตประจำวันเราสามารถฝึกได้ทั้งจากการดูหนัง ฟังเพลง อ่านข่าวและบทความต่างประเทศนั่นเอง
  2. ฝึกทักษะการพูด - การเขียนทีหลัง เพราะเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความพร้อมของเราหลังจากได้รู้จักบริบทความหมายของประโยคและแนวทางสื่อสารภาษาอังกฤษมาแล้ว ก็ค่อยนำมาฝึกพูดและเขียนออกไปจากความเข้าใจของเรา ในชีวิตประจำวันเราสามารถฝึกได้ทั้งลองแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ลองพูดโต้ตอบภาษาอังกฤษกับตัวเองหน้ากระจก หรือให้ดีที่สุดคือลองหาเพื่อนฝึกด้วยเช่นเพื่อนต่างชาตินั่นเอง

แต่ที่สำคัญที่สุดคือการ "ฝึกฝนและนำไปใช้ในทุก ๆวัน" เพื่อให้เกิดความเคยชินกับภาษาไม่ว่าจะเป็นการออกไปหาเพื่อนต่างชาติหรือแม้แต่เรียนออนไลน์ก็ยังเป็นวิธีที่ใช้ฝึกได้ ซึ่งขั้นตอนที่ 3 นี้จะทำให้เราพูดอังกฤษคล่องชัวร์!

:star: ดูหนังสือสอนสื่อสารภาษาอังกฤษครบ 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน:star:

 

4. ต่อยอดความรู้ให้เป๊ะไว้ใช้ได้ทุกสถานการณ์ 📖📝

ในขั้นตอนสุดท้ายเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างสำคัญเพราะการจะพูดอังกฤษให้คล่องได้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษานอกจากสื่อสารเป็นแล้ว ต้องมีเรื่องความถูกต้องด้วย นั่นคือการเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเช่น 12 Tenses (รูปแบบประโยค 12 แบบ), Conjunction (ตัวเชื่อมประโยค), Part of speech (หน้าที่ของคำ) และ Sentence structure (โครงสร้างประโยค) รวมถึงการหาคำศัพท์ยากใหม่ ๆมาท่องเก็บไว้ใช้ เพื่อให้เราพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้น

ทำไมต้องต่อยอด?

เพราะการเรียนภาษาอังกฤษก็เป็นการเรียนที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน การเรียนไม่ได้จบแค่จำคำว่า Yes, No, Okay, Thank you, Hello, หรือ Goodbye ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการพูดภาษาอังกฤษจริง ๆเราต้องเจอกับอีกหลายคำมากมายที่ใช้แทนคำเหล่านี้ เช่น

  • Absolutely /แอบ-เซอะ-ลูท-ลี/ แน่นอน
    ใช้ตอบรับแทน Yes ได้
  • Apologize /เออะ-พอ-เลอะ-ไจซฺ/ ขอโทษ
    ที่ควรใช้แทน Sorry เมื่อขอโทษในที่ทำงาน

ดังนั้นเราต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมมาคอยต่อยอดตลอดเพื่อให้เราสามารถเข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษได้ครอบคลุมทุกสถานการณ์

:star: ดูหนังสือรวมศัพท์ยาก 500 คำ ต้องท่อง!:star:

:star: ดูหนังสือสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ:star:

 

หนังสือและคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่สามารถช่วยให้เรียนตาม 4 ขั้นตอนได้อย่างครบถ้วน

หนังสือและคอร์สเรียนภาษาอังกฤษรวมทั้งหมด 6 เล่มที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ครบ 4 ขั้นตอนที่แนะนำมาข้างต้น สามารถกดอ่านรีวิวรายละเอียดให้ คลิกตรงนี้เลย หรือคลิกที่รูปด้านบน หากสนใจซื้อให้คลิกที่ชื่อหนังสือได้เลยน้า

สำหรับบางคนที่มีพื้นฐานอยู่แล้วและต้องการเรียนเพิ่มเฉพาะบางจุดก็สามารถดูหนังสือเล่มอื่น ๆได้โดยกดลิงก์ด้านล่างเพื่อหาหนังสือที่สามารถตอบโจทย์เฉพาะจุดที่เราต้องการเรียนเพิ่มเติมได้เลยน้าา

อยากเก่งอังกฤษต้องเริ่มต้นวันนี้! เลือกหนังสือภาษาอังกฤษที่ใช่กับเรา

📚 ดูหนังสือภาษาอังกฤษราคาพิเศษ ได้ที่นี่! 📚