พูดภาษาอังกฤษให้คล่องด้วย 10 ประโยคฝรั่งใช้ประจำ

พูดภาษาอังกฤษให้คล่องด้วย 10 ประโยคฝรั่งใช้ประจำ

ใครกำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษต้องมารู้จัก 10 ประโยคที่ฝรั่งใช้บ่อย จำไว้เอาไปใช้พูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งคล่องแน่นอน

พูดภาษาอังกฤษให้คล่องด้วย 10 ประโยคฝรั่งใช้ประจำ

1. I have no idea.

อ่านว่า /ไอ-แฮฟ-โน-ไอเดีย/ แปลว่า ฉันไม่รู้, ฉันไม่มีไอเดียเลย

ถ้าจะพูดว่า “ไม่รู้” ในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงคำว่า “I don’t know.” แต่จริง ๆแล้ว “ไม่รู้” ในภาษาอังกฤษก็พูดว่า “I have no idea.” ได้เหมือนกันค่ะ เป็นประโยคที่ฝรั่งใช้บ่อยที่ไม่ได้แปลว่าฉันไม่มีไอเดียอย่างเดียวค่ะแต่แปลว่า “ไม่รู้” หรือ “ไม่ทราบ” ได้ด้วยค่ะ เดี๋ยวมาลองดูตัวอย่างประโยคกันค่ะว่าเขาใช้พูดกันยังไง

ตัวอย่างบทสนทนา 

A: Why did he do that? (ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น)
B: I have no idea. (ฉันไม่รู้แฮะ)

ใครกำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่ต้องเอาไปใช้นะเธอ มาต่อกันที่ประโยคที่สองกันเลยค่ะ

 

2. Do you have the time?

อ่านว่า /ดู-ยู-แฮฟ-เดอะ-ไทม์/ แปลว่า คุณรู้ไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว

เวลาเราถาม “กี่โมง” ในภาษาอังกฤษเนี่ย เราจะนึกถึกคำว่า “What time is it?” ใช่ไหมคะ ซึ่งก็พูดได้ค่ะ แต่ครูมีอีกประโยคนึงมาแนะนำค่ะ คือ “Do you have the time?” ไว้ใช้ถามว่า “กี่โมงแล้ว” ในภาษาอังกฤษเหมือนกันและเป็นประโยคที่ฝรั่งใช้พูดบ่อยค่ะ บางคนที่ฝึกพูดภาษาอังกฤษอาจจะสับสนว่าประโยคนี้แปลว่า “คุณมีเวลาไหม” ใช่ไหมคะ จริง ๆแล้วถ้าอยากถามว่าคุณมีเวลาไหมให้ตัด the ออกค่ะ เป็น “Do you have time?” ถึงจะถามว่า “คุณมีเวลาให้ไหม” แต่ถ้ามี the จะแปลว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว” นะคะ เดี๋ยวครูจำลองบทสนทนาให้ดูค่ะว่าประโยคนี้ใช้พูดยังไงน้า

ตัวอย่างบทสนทนา

A: Excuse me, do you have the time? (ขอโทษนะคะ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว)
B: It’s half past three. (ตอนนี้ 3 โมงครึ่งแล้วครับ)
A: Thank you so much. (ขอบคุณมากค่ะ)

ตามนี้เลยค่ะนักเรียน ใช้ขึ้นเป็นประโยคคำถามไว้ถามเรื่องเวลาได้เลย อย่าลืมเอาไปฝึกพูดกันนะคะ มาต่อกันที่ประโยคที่สามกันเลย

 

3. It’s a pleasure to + (V.1).

อ่านว่า /อิทส-เสอะ-เพลเชอรฺ-ทู…../ แปลว่า ยินดีที่ได้_(ทำอะไร)_

คำว่า Pleasure แปลว่าความปิติยินดี ถ้าเรายินดีที่เราได้ทำอะไรสักอย่าง ก็แค่เติมกริยาช่อง 1 เข้าไปค่ะไม่ต้องผันอะไรเลย เช่น อยากพูดภาษาอังกฤษว่า ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับคุณก็ให้พูดว่า “It’s a pleasure to work with you.” ได้ค่ะ เป็นคำที่ใช้พูดได้หลายอย่างมาก หรือจะพูดว่า “It’s a pleasure to meet you.” เพื่อใช้แทน “Nice to meet you.” ได้ค่ะแถมฟังดูจริงใจขึ้นด้วย เดี๋ยวมาลองใช้ pleasure ในบทสนทนาดูนะคะ

ตัวอย่างบทสนทนา

A: This is a friend of mine. His name is Smith. (นี่เพื่อนของฉันชื่อสมิธ)
B: Hello, I’m Craig. It’s a pleasure to meet you. (สวัสดีครับผมเครก ยินดีที่ได้รู้พบคุณครับ)
A: Me either. (เช่นกันครับ)

 

อยากพูดภาษาอังกฤษได้ ต้องเล่มนี้เลย!

 

 

ตามนี้เลยค่ะนักเรียนลองเอาไปใช้ดูน้า มาค่ะมาดูประโยคต่อไปกันเลยค่ะ

 

4. What do you do for a living?

อ่านว่า /วอท-ดู-ยู-ดู-ฟอร์-เออะ-ลิฟวิง/ แปลว่า คุณทำอาชีพอะไร

ประโยคนี้อาจไม่คุ้นสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนหรือพูดภาษาอังกฤษ เวลาถามว่า “คุณทำอาชีพอะไร” ในภาษาอังกฤษก็จะถามว่า “What is your job?” หรือ “What do you do?” เฉย ๆ แต่คำถามที่เป็นทางการและมีมารยาทที่สุดของฝรั่งจะใช้ “What do you do for a living?” เป็นหลักค่ะ แถมเป็นคำถามที่เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว ตม. จะชอบถามเราด้วยค่ะ จำไปฝึกพูดเลยนะคะเวลาได้ยินใครถามจะได้ฟังออกค่ะว่าเราต้องตอบอาชีพของเรานะ เดี๋ยวมาดูตัวอย่างการใช้ประโยคนี้กันค่ะ

ตัวอย่างบทสนทนา

A: What do you do for a living? (คุณทำอาชีพอะไรครับ)
B: I’m a teacher. (ฉันเป็นครูค่ะ)

ตามนี้เลยค่ะถาม What do you do for a living? ตอบอาชีพเราได้เลย ลองท่องไปฝึกใช้ได้เลย เอาล่ะไปประโยคต่อไปกันเลยค่ะ

 

5. I will give you a ride.

อ่านว่า /ไอ-วิล-กิฟ-ยู-เออะ-ไรดฺ/ แปลว่า ฉันจะไปส่งคุณเอง

เคยสงสัยไหมว่า “เดี๋ยวไปส่ง” จะพูดภาษาอังกฤษว่ายังไงดี และครูมั่นใจว่าพวกเราต้องเคยคิดว่าเป็น “I will send you.” แน่ ๆ แต่ไม่ใช่ค่ะ send you มันแปลว่าส่งคุณไปในแบบพัสดุนะหรือจะแปลว่าส่งให้ไปทำงานที่ไหน แต่ถ้าเราหมายถึง “เราจะขับรถไปส่ง” เราต้องพูดว่า “I will give you a ride.” นะ สมมติว่าเพื่อนจะไปสนามบินแล้วเราจะไปส่ง เราก็ใส่ to the airport ตามหลังเข้าไปได้เลย เป็น “I will give you a ride to the airport.” ฉันจะไปส่งคุณที่สนามบินเอง ดังนั้นรูปประโยคสามารถต่อเติมได้หลากหลายเลย “I will give you a ride to + _(สถานที่)_.” นะ เรามาดูกันดีกว่าว่าในบทสนทนาเราจะพูดประโยคนี้ตอนไหนได้บ้างในภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างบทสนทนา

A: Where are you going? (จะไปไหนเหรอเธอ)
B: I’m going to the convenience store. (ฉันกำลังจะไปร้านสะดวกซื้อน่ะ)
A: Come on, I will give you a ride. (มาสิ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง)
B: Thank you. (ขอบคุณน้า)

เห็นไหมคะนักเรียน ประโยคนี้เป็นการที่เราแสดงน้ำใจให้กับเพื่อนว่าเราจะช่วยไปส่งให้ถึงที่ ถ้าเราได้ยินประโยคนี้หรืออยากแสดงน้ำใจให้เพื่อนฝรั่งพาไปส่งที่ไหนก็เอาประโยคนี้ไปใช้ได้เลยน้า มาต่อกันที่ประโยคต่อไปกันค่ะ

 

6. I’m not a fan.

อ่านว่า /ไอม-นอท-เออะ-แฟน/ แปลว่า ฉันไม่ชอบ

หลายคนเวลาบอกว่า “ไม่ชอบ” ในภาษาอังกฤษมักจะใช้ “I don’t like.” กันตลอดใช่ไหมคะ แต่ครูแนะนำประโยคที่ดีกว่าให้ค่ะ “I’m not a fan” แปลว่า “ฉันไม่ชอบ” ครูเองก็ใช้บ่อยเพราะประโยคนี้จะทำให้ความหมายดูไม่แรงเท่าพูดตรง ๆว่า “Don’t like” ค่ะ ถ้าเราจะบอกว่าไม่ชอบอะไรเข้าไปด้วยโครงสร้างประโยคคือ I’m not a fan of + _คำนาม_. เช่น ถ้าเราอยากพูดว่า “ฉันไม่ชอบคนหยาบคาย” ให้พูดว่า “I’m not a fan of rude people.” เดี๋ยวลองไปดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ

ตัวอย่างบทสนทนา

A: I want to eat salmon sushi. You want one? (ฉันอยากกินซูชิแซลม่อน อยากกินด้วยไหม)
B: No, I'm not a fan of sushi. (ไม่อะ ฉันไม่ชอบกินซูชิ)

เรื่องชอบไม่ชอบเป็นเรื่องแล้วแต่คน แต่จะพูดยังไงให้ดูดีก็ต้อง I’m not a fan of + _คำนาม_. นะคะ มาดูประโยคต่อไปกันเลยดีกว่า อันนี้แนะนำให้เอาไปพูดเลยค่ะ

 

7. Have you met ....?

อ่านว่า /แฮฟ-ยู-เมท…./ แปลว่า คุณรู้จักกับ....หรือยัง

เวลาเราจะพูดแนะนำใครให้รู้จักใครในภาษาอังกฤษปกติเราจะใช้ “Let me introduce you to __.” แต่ครูดิวมีประโยคที่ทั้งสั้นและกระชับมากกว่านี้ให้ค่ะแถมใช้ได้ทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการได้เลยค่ะ นั่นคือ “Have you met __?” เป็นประโยคแนะนำใครให้รู้จักกันที่ฝรั่งใช้พูดกันบ่อยค่ะ
โครงสร้างประโยคคือ Have you met + ชื่อคน ได้เลยค่ะ เช่น คุณรู้จักแจ็คหรือยัง ก็ให้พูดว่า “Have you met Jack?” แค่นี้ค่ะ ใส่แค่ชื่อลงไปได้เลย เราลองมาดูตัวอย่างบทสนทนาที่ใช้คำนี้กัน

ตัวอย่างบทสนทนา

A: Hey, Jane, have you met John? (เฮ้ เจน คุณรู้จักจอห์นหรือยัง)
B: No, I haven’t. Hello, I’m Jane. (ยังเลย สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจนนะ)
C: I’m John. It's a pleasure to meet you. (ผมชื่อจอห์นครับ ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ)

เห็นไหมคะ สั้น ๆแค่นี้ก็ใช้พูดได้เป็นพิธีเลยค่ะ ต้องจำไปใช้นะคะ มาค่ะประโยคต่อไป

 

8. What’s the weather like in _สถานที่_?

อ่านว่า /วอทส-เดอะ-เวเธอร์-ไลค์-อิน…../ แปลว่า อากาศที่___เป็นอย่างไรบ้าง

ในการถามสภาพอากาศในภาษาอังกฤษ ครูว่านักเรียนต้องใช้ “How is the weather?” กันแน่ แต่จริง ๆแล้วมีประโยคอื่นที่ฝรั่งใช้กันแต่เราอาจไม่รู้อย่าง “What’s the weather like in _สถานที่_?”
เช่น ถ้าเราอยากถามเพื่อนฝรั่งว่าที่ลอนดอนอากาศเป็นอย่างไร เราก็ใช้ประโยคนี้ถามได้เลยค่ะ “What’s the weather like in London?” หรือถ้าจะถามว่าที่นี่อากาศเป็นอย่างไรก็ใช้ได้ค่ะ แค่เปลี่ยน in เป็น here เช่น “What’s the weather like here?” ที่นี่อากาศเป็นอย่างไร หรือ “What’s the weather like today?” วันนี้อากาศเป็นอย่างไร ลองมาดูบทสนทนากันค่ะว่าจะพูดกันยังไงนะคะ

ตัวอย่างบทสนทนา

A: I heard you are from Los Angeles. What’s the weather like there? (ได้ยินว่าคุณมาจากลอสแองเจลลิส อากาศที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ)
B: It’s mostly sunny this time of year. (ส่วนใหญ่ก็ท้องฟ้าแจ่มใสนะครับช่วงนี้)

การถามไถ่อากาศเป็นเรื่องปกติที่ฝรั่งถามกันค่ะ เป็นหัวข้อสนทนาเรื่องนึงเลยที่คุยเล่นกันได้ ใครฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่ก็ลองเอาไปพูดได้เลยนะคะ มาค่ะต่อกันที่ประโยคต่อไปเลย

 

9. Can you do me a favor?

อ่านว่า /แคน-ยู-ดู-มี-เออะ-เฟเวอร์/ แปลว่า ช่วยทำอะไรให้ฉันหน่อยได้ไหม

ประโยคขอความช่วยเหลือในภาษาอังกฤษปกติเราจะใช้ “Can you help me?” กันทั่วไป แต่ถ้าอยากพูดให้ฟังดูโปรเหมือนเจ้าของภาษาครูแนะนำประโยคนี้เลยค่ะ “Can you do me a favor?” ถ้าแปลเป็นไทยก็จะประมาณว่า “กรุณามาช่วยฉันหน่อยได้ไหม” ฟังดูไพเราะและฝรั่งก็ใช้พูดกันปกติค่ะ ถ้าอยากให้สุภาพกว่านี้อีกให้เปลี่ยน Can เป็น Could ค่ะ เพราะเวลาเราร้องขออะไรในภาษาอังกฤษ ถ้าเราเปลี่ยนจาก Can เป็น Could หรือ Will เป็น Would คำขอนั้นจะฟังดูสุภาพมากในวัฒนธรรมฝรั่งค่ะ มาดูบทสนทนากันว่าประโยคนี้ใช้กันยังไง

ตัวอย่างบทสนทนา

A: My car is broken. Can you do me a favor? (รถของฉันพัง ช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ)
B: Sure, I’ll give you a ride. (ได้เลย เดี๋ยวผมไปส่งคุณเองก็ได้)
A: That’s very kind of you. (ใจดีมากเลย ขอบคุณน้า)

ตามนั้นเลยค่ะ รถเสียขอให้เพื่อนช่วยพูดประโยคนี้ได้เลยค่ะ แล้วเราก็รอพึ่งน้ำใจเพื่อนได้เลย ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ ต่อไปเป็นประโยคสุดท้ายค่ะ พร้อมแถมให้อีกคำนึงด้วย

 

10. Nice going. / Hats off.

อ่านว่า ไนซ-โก-อิง / แฮทส-สอฟ แปลว่า ทำได้ดีมาก / ยินดีด้วย

เวลาเราจะพูดภาษาอังกฤษว่าดีมากหรืออยากแสดงความยินดีเนี่ย ครูว่านักเรียนต้องชินกับ “Good job.” หรือ “Congratulations.” แน่ ๆ แต่ครูมีคำมาแนะนำให้คนที่กำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษเอาไปใช้ค่ะ คือ “Nice going.” กับ “Hats off.” 2 คำนี้เป็นวลีไว้ใช้พูดแสดงความยินดีในภาษาอังกฤษได้ ฝรั่งฟังแล้วเก็ทค่ะว่าเรากำลังให้กำลังใจหรือแสดงความยินดีให้ แล้วคำว่า “Hats off.” เนี่ยมีที่มาด้วยนะเธอ คือวัฒนธรรมฝรั่งสมัยก่อนที่เขานิยมแฟชั่นใส่หมวกกัน เวลาแสดงความยินดีหรือแสดงความเคารพใคร เขาจะนิยมถอดหมวกให้ค่ะ เช่นเราทำงานได้ดีจนหัวหน้าชม คนที่ใส่หมวกอยู่ก็จะถอดหมวกแสดงความยินดีให้เราค่ะ ตอนนี้ก็เลยกลายมาเป็นวลีให้พูดกันว่า “Hats off.” ค่ะ ลองมาดูบทสนทนาดูนะคะว่า 2 คำนี้ใช้พูดกันยังไง

ตัวอย่างบทสนทนา

A: Nice going, Mick! You have done a good job. (ทำได้ดีมากเลยมิกค์ คุณทำงานได้ดีจริง ๆ)
B: Hats off to you, Mick. Your work is so beautiful. (ยินดีด้วยนะมิกค์ งานคุณสวยมากเลย)
C: Thank you. (ขอบคุณนะครับ)

เห็นไหมคะ Nice going กับ Hats off ใช้พูดทั้งชมและแสดงความยินดีได้เลยค่ะ พูดแล้วดูเป็นธรรมชาติมาก เอาไปพูดได้เลยค่ะ ฝรั่งเข้าใจชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์

 

เป็นไงกันบ้างคะทุกคน กับ 10 ประโยคที่ครูดิวยกมาจากฝรั่ง ครูจะบอกว่าประโยคเดิม ๆที่พวกเราใช้กันไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ที่ครูเอาประโยคอื่นที่ฝรั่งเขานิยมใช้กันมาสอนเพิ่มด้วยเพราะการจะพูดภาษาอังกฤษให้เก่งเนี่ย เราไม่ควรยึดติดอยู่กับประโยคเดียวแล้วใช้ไปตลอดน้า เราต้องรู้จักหลายคำหลายประโยคเอาไว้ เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสให้เราฟังฝรั่งรู้เรื่องมากขึ้นด้วยนะ เหมือนกับภาษาไทยที่เรายังมีคำว่า “กิน” กับคำว่า “รับประทาน” ความหมายเหมือนกันแต่โอกาสในการใช้ต่างกัน ประโยคภาษาอังกฤษก็เหมือนกันค่ะเธอ ต้องท่องไว้เยอะ ๆ ยิ่งรู้เยอะยิ่งพูดคล่องฟังออกมากขึ้นค่ะ ครูเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่ตอนนี้น้า ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มฝึกหรือฝึกนานแล้วหนึ่งในเคล็ดลับที่ครูแนะนำคือการหาประโยคใหม่ ๆที่ฝรั่งใช้บ่อยมาฝึกพูดเยอะ ๆน้า


งั้นครูขอแนะนำหนังสือของครูดิวเอง หนังสือ conver พูดมันส์ 1,000 ประโยค หมวดชีวิตประจำวัน ครูดิวรวมประโยคที่ฝรั่งใช้พูดในชีวิตประจำวันมาให้แล้วถึง 1,000 ประโยคแบ่งหมวดให้ถึง 40 หมวด ตั้งแต่ทักทายกันไปจนถึงพูดให้กำลังใจคนเลยค่ะ 10 ประโยคที่ยกมาในนี้ ส่วนใหญ่ก็รวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วยน้า มีให้พร้อมทั้งคำอ่าน คำแปล แถมไม่ต้องกลัวออกเสียงผิดเพราะในหนังสือมี QR code ให้เราสแกนเข้าไปฟังเสียงเจ้าของภาษาพูดประโยคให้ เราก็ฟังแล้วฝึกพูดเองได้เลยน้า

 

อยากพูดภาษาอังกฤษได้ ต้องเล่มนี้เลย!

 

สั่งซื้อหนังสือ Conver พูดมันส์ 1,000 ประโยค คลิกเลย!

 

ดูคลิปครูดิวสอน 10 ประโยคพร้อมฉากตัวอย่างบทสนทนาจากหนัง