พูดจีนได้ทันทีแม้ไม่มีพื้นฐาน พร้อมสื่อสารกับคนจีนแบบ 100%
พูดจีนได้ทันทีแม้ไม่มีพื้นฐาน พร้อมสื่อสารกับคนจีนแบบ 100%
อยากพูดประโยคภาษาจีนได้คล่องจนสื่อสารกับคนจีนได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่การเรียนภาษาจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะเรื่องคำศัพท์เยอะ ตัวอักษรจำยาก หรือจะเรื่องไม่มีเวลาว่างมาเรียนไปทีละสเต็ปอีก หรือกระทั่งเคยเรียนภาษาจีนมาแล้ว แต่พอเจอหน้าคนจีนก็เรียบเรียงประโยคไม่ถูก พูดไม่ได้ไปไม่เป็น ดังนั้นเพื่อให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเหล่านี้อีก วันนี้เราเลยมีวิธีฝึกพูดภาษาจีนใน 5 ขั้นตอนมาให้ เพียงทำตามนี้ ต่อให้ไม่เคยเรียนภาษาจีน ไม่มีพื้นฐานแม้แต่นิดเดียว ก็สามารถต่อบทสนทนาภาษาจีนได้ชัวร์
สารบัญ
- ไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนจะสามารถพูดได้จริงเหรอ
- 5 ขั้นตอนพูดจีนได้ แม้ไม่เคยเรียนมาก่อน
- ถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค ช่วยให้พูดจีนได้ยังไง
ไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนจะสามารถพูดได้จริงเหรอ
ในปัจจุบัน ภาษาจีนเป็นหนึ่งในภาษาที่คนไทยจำนวนมากสนใจ และอยากพูดได้เป็นภาษาที่สาม แต่ในขณะเดียวกัน การเรียนภาษาจีนเป็นภาษาที่สามก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้เหมือนกัน เพราะภาษาจีนต้องจำคำศัพท์เยอะมาก และใช้เวลาในการเรียนค่อนข้างนาน ทำให้หลายคนคิดว่าถ้าตัวเองไม่ได้เรียนภาษาจีนมาก่อน หรือเพิ่งเริ่มเรียนจีนได้ไม่นาน ความรู้ยังไม่เยอะมากพอ คงไม่สามารถเรียบเรียงประโยคภาษาจีนเอง และต่อบทสนทนาภาษาจีนกับคนจีนให้รู้เรื่องได้อย่างแน่นอน
แต่รู้ไหมว่า การพูดประโยคในภาษาใดสักภาษาหนึ่ง ในหลาย ๆ ครั้งเราไม่จำเป็นต้องแต่งประโยคขึ้นมาใหม่เองก็ได้นะ ถ้าเราลองหัดเรียนรู้ประโยคภาษาจีนใหม่ ๆ ไม่ว่าจะจากบนอินเตอร์เน็ต หรือในซีรีส์จีน แล้วทำความเข้าใจถึงความหมายของมัน ฝึกท่องจำจนสามารถจำได้ขึ้นใจแล้ว ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้ถูกต้องตามสถานการณ์ได้ รวมไปถึงสามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษานั้น ๆ ได้จริงเหมือนกัน
อย่างในภาษาจีนก็มีบทสนทนาภาษาจีนหลายประโยค ที่คนไม่เคยเรียนจีนมาก่อนก็รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น “หนีห่าว” ที่แปลว่าสวัสดี “หว่ออ้ายหนี่” ที่แปลว่าฉันรักเธอ หรือ “หนีชือฟ่านเลอมา” ที่แปลว่าคุณทานข้าวหรือยัง ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่เคยมีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อน หรือรู้สึกว่าตนยังไม่แม่นภาษาจีนมากพอที่จะแต่งประโยคเองได้นั้น ก็สามารถลองจำประโยคภาษาจีนที่เคยได้ยินมา แล้วฝึกพูดฝึกจำประโยคนั้น ๆ เท่านี้ก็สามารถพูดภาษาจีนได้แล้ว
บางคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเรียนภาษาจีนด้วย ในเมื่อภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล ก็น่าจะใช้ภาษาอังกฤษคุยกับคนจีนได้สิ เรื่องนี้จริง ๆ ก็ถูกต้องนะ แต่เพราะคนจีนไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน บางคนก็ได้ภาษาอังกฤษแบบงู ๆ ปลา ๆ ทำให้สื่อสารด้วยได้ยาก ยิ่งถ้าเราไปเที่ยวที่ประเทศจีน การหาคนจีนที่พูดภาษาอังกฤษได้ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปอีก บางคนถึงขั้นไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งคนจีนมักคิดว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่มีคนพูดได้เยอะที่สุดของโลก ดังนั้นคนไทยก็คงจะพูดภาษาจีนได้ด้วยเหมือนกัน ทำให้มีคนจีนเลือกใช้ภาษาอังกฤษน้อยมาก ดังนั้นการพูดจีนได้ ก็สามารถลดความยุ่งยากในการสื่อสาร แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสดีให้เราได้อีกด้วยนะ โดยเฉพาะกับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องค้าขายกับคนจีน อาจทำให้ยอดขายของพุ่งขึ้นสูงอีกได้เลย
5 ขั้นตอนพูดจีนได้ แม้ไม่เคยเรียนมาก่อน
สำหรับใครที่อยากพูดภาษาจีนได้เร็ว ๆ หรือไม่ได้สนใจภาษาจีนแต่อยากพูดภาษาจีนได้นั้น มันก็มีวิธีง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้อยู่ 5 สเต็ป ที่แค่ทำตามก็สามารถทำให้ตัวเองพูดประโยคภาษาจีนได้ และพร้อมที่จะสนทนาภาษาจีนอยู่เหมือนกันนะ โดยจะมีขั้นตอนตามนี้เลย!
1. หาประโยคภาษาจีนที่คิดว่าได้ใช้บ่อยแน่ ๆ
ขั้นตอนแรกเลยก็คือการหาประโยคภาษาจีน ปัจจุบันนี้มีเว็บสอนภาษาจีนมากมายในอินเตอร์เน็ต ที่มีประโยคภาษาจีนพร้อมความหมายไว้ให้แล้วเรียบร้อย ซึ่งใครที่อยากพูดภาษาจีนได้ หรือกำลังเรียนภาษาจีนอยู่นั้น ก็สามารถเอาประโยคเหล่านี้ไปใช้ได้เลย แต่มันก็จะมีข้อเสียอย่างเช่นว่า ประโยคไม่หลากหลาย ไม่สามารถนำไปปรับใช้กับสถานการณ์ที่เราต้องเจอได้ หรือประโยคภาษาจีนมันกระจัดกระจาย กว่าจะหาประโยคทั้งหมดที่คิดว่านำไปใช้ก็ทำเอาเหนื่อยได้เลย
ตัวอย่างประโยคที่คิดว่าได้ใช้แน่ ๆ
2. คัดลอกประโยคไปให้กูเกิลอ่านให้ฟัง
หลังจากที่เลือกประโยคได้แล้ว ให้คัดลอกเอาประโยคภาษาจีนที่เลือกไว้ไปวางในแอปแปลภาษา ให้แอปแปลภาษาอ่านให้เราฟังว่าประโยคนั้น ๆ ต้องออกเสียงว่าอะไร แต่ว่าต้องเตือนไว้ก่อนนะ ว่าแอปแปลภาษาส่วนใหญ่แล้วจะพูดเร็วมาก อาจทำให้ฟังไม่ทันได้ อีกทั้งบางครั้งเสียงที่ AI พูดอาจไม่ถูกต้อง 100% ด้วยเหมือนกัน เพราะในภาษาจีนมีคำที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ๆ แต่สามารถอ่านได้มากกว่า 1 แบบ ซึ่งอาจทำให้เราจำประโยคจีนไปแบบผิด ๆ ได้เหมือนกันนะ
ตัวอย่างประโยคที่แอปแปลภาษาอ่านผิด
แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่ากรณีนี้ไม่ได้เจอได้บ่อย ๆ ดังนั้นเพื่อน ๆ ยังคงวางใจให้แอปแปลภาษาออกเสียงให้ฟังได้
3. แกะคำอ่านที่ได้ยินเป็นภาษาไทย
หลังจากที่ลองให้แอปแปลภาษาอ่านประโยคภาษาจีนที่เลือกไว้ให้ฟังแล้ว ก็ให้ลองแกะคำอ่านเหล่านั้นเป็นภาษาไทยดูนะ เพื่อที่จะได้สามารถฝึกพูดตามได้ง่ายขึ้น และไม่ลืมวิธีอ่านที่ถูกต้องไป แน่นอนว่าวิธีนี้อาจไม่ได้ทำให้ออกเสียงได้เหมือนคนจีนแบบเป๊ะ ๆ นะ เพราะเสียงภาษาไทย และภาษาจีนมีการออกเสียงที่ต่างกันพอสมควร แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราออกเสียงได้ใกล้เคียงที่สุด
ตัวอย่างการจดคำอ่าน
4. ฝึกฝนพูดประโยคภาษาจีนบ่อย ๆ
พอได้คำอ่านภาษาไทยแล้ว ก็ฝึกอ่านประโยคนั้นซ้ำ ๆ ให้จำได้ขึ้นใจ โดยเวลาฝึกพูดอย่าพูดแค่ในใจนะ แต่ให้เปล่งเสียงออกมาด้วย เพราะวิธีนี้จะช่วยให้เราจำประโยคภาษาจีนนั้นได้เร็วและดียิ่งขึ้นอีกด้วย หรือถ้าใครรู้สึกไม่มั่นใจในการออกเสียงของตัวเอง แนะนำให้ลองอ่านให้แอปแปลภาษาฟังก่อนก็ได้นะ โดยกดไปที่ตรงไมโครโฟนแล้วพูดประโยคที่เรียนมาให้แอปฟัง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเราพูดถูกหรือไม่ถูก
5. ลองต่อบทสนทนาภาษาจีนในชีวิตจริง
เรียนแล้ว ฝึกพูดแล้ว ก็ต้องเอาไปปฏิบัติจริง ลองหาโอกาสเอาประโยคภาษาจีนที่ได้เรียนไปลองพูดกับคนจีนจริง ๆ ใครที่กังวลกลัวพูดผิด กลัวพูดไม่ครบ หรือกังวลที่จะต้องต่อบทสนทนาภาษาจีนกับคนจีน ก็อย่าเพิ่งกลัวไป มั่นใจเข้าไว้ เราฝึกมาดีแล้ว หรือต่อให้ครั้งนี้เผลอพลาดไป ครั้งหน้าก็ไม่มีทางพลาดแน่นอน
แค่ทำตาม 5 สเต็ปนี้ได้ ก็มั่นใจได้เลยว่าเพื่อน ๆ สามารถพูดภาษาจีนได้แล้ว แม้ตัวเองจะไม่เคยเรียนหรือมีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อน แต่ถ้าใครรู้สึกว่า 5 สเต็ปนี้ยุ่งยาก ชวนสับสนมากเกินไป แนะนำให้มีหนังสือที่จะสอนประโยคภาษาจีนใช้บ่อย เจอบ่อยในบทสนทนาของคนจีน อย่างถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค หมวดชีวิตประจำวัน เล่มนี้เลย!
ถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค ช่วยให้พูดจีนได้ยังไง
หนังสือถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค หมวดชีวิตประจำวัน คือหนังสือที่รวมประโยคภาษาจีนสำหรับสนทนาเบื้องต้นในชีวิตประจำวันมาให้มากกว่า 500 ประโยค ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนก็สามารถใช้ได้ ด้วยจุดเด่นที่มีมากถึง 9 ข้อ รับรองว่าเรียนแล้วพูดจีนได้แน่นอน!
1. รวมประโยคจีนในชีวิตประจำวันมากกว่า 500 ประโยค
ในเล่ม “ถามจีน ตอบจีน” ได้มีการรวบรวมประโยคภาษาจีนที่คนจีนมักใช้กันในชีวิตประจำวันมาให้มากถึง 540 ประโยค โดยประโยคทั้งหมดนี้จะเป็นรูปประโยคแบบที่คนจีนใช้กันจริง ๆ ซึ่งจะมีตั้งแต่ประโยคที่มีความเป็นทางการ เช่นประโยคที่ใช้คุยกับลูกค้า ไปจนถึงประโยคที่มีคำศัพท์สแลงของวัยรุ่นจีน ให้ผู้เรียนได้เลือกใช้ รับรองว่าทำให้พูดได้ดูเป็นธรรมชาติ และดูเก่งจีนมากขึ้นแน่นอน
โดยในเล่มนี้จะเป็นการรวมประโยคภาษาจีนที่สามารถพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน สามารถใช้สื่อสารได้กับทุกผู้ทุกวัย เหมาะกับคนที่อยากพูดภาษาจีนได้ครบครอบคลุมทุกด้าน แบบที่ใช้เวลาไปเที่ยวก็ได้ เวลาทำงานก็ได้ เอาอยู่ได้ในเล่มเดียว
2. เปลี่ยนประโยคภาษาจีนได้ตามบริบทของผู้พูด
นอกจากจะมีประโยคภาษาจีนมากถึง 540 ประโยคแล้ว ในเล่มยังมีการเพิ่มคำศัพท์ และกลุ่มคำให้เราได้เลือกเปลี่ยนเนื้อหาของประโยคที่จะใช้พูดได้อีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะมีสัญลักษณ์คอยบอกให้รู้ว่าส่วนไหนของประโยคสามารถเปลี่ยนเนื้อหาได้บ้าง
ตัวอย่างเช่น ประโยคหลักคือ Jīntiān tài máng le.
今天太忙了。
จินเทียน ไท่ หมาง เลอ
วันนี้งานยุ่งมากเลย
สามารถเปลี่ยนเป็น Jīntiān yìbānbān.
今天一般般。
จินเทียน อี้ปันปัน
วันนี้ก็ธรรมดาอ่ะ
โดยหากผู้เรียนรู้สึกว่ารูปประโยคหลักนั้นไม่ตรงกับบริบท และสถานการณ์ที่ต้องการนำไปใช้ ผู้เรียนสามารถนำเอาคำศัพท์หรือกลุ่มคำที่หนังสือได้มีการจัดเตรียมเอาไว้ให้ ใส่ลงไปในประโยคนั้น ๆ แทนได้เลย ซึ่งก็ถือได้ว่าผู้เรียนจะมีประโยคที่เหมาะแก่การนำไปใช้ในบทสนทนาภาษาจีนมากกว่า 540 ประโยคเลยนะ
3. เนื้อหาครอบคลุมทุกสถานการณ์
ในเล่ม “ถามจีน ตอบจีน” นี้ยังได้มีการแบ่งเนื้อหาบทสนทนาภาษาจีนมาให้ถึง 7 บท โดยแต่ละบทก็จะมีการแบ่งออกเป็นหมวด ๆ ตามแต่ละสถานการณ์ให้ด้วย ซึ่งถ้ารวมสถานการณ์ทั้งหมดที่ให้มาภายในเล่มแล้วก็จะมีมากถึง 31 หมวด
โดยทั้ง 31 หมวดนี้ก็จะครอบคลุมทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ที่คนไทยจะได้มีโอกาสสนทนาภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย การท่องเที่ยว การซื้อ-ขายของ หรือการทำงานเป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
4. พูดจีนได้ทันทีแม้ไม่เคยเรียนภาษาจีน
สำหรับคนที่กังวลว่าตัวเองไม่เคยเรียนภาษาจีน แล้วจะทำให้อ่านหรือพูดประโยคภาษาจีนไม่ได้นั้น ในหนังสือเล่มนี้ก็ได้มีการหาวิธีที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง และคล้ายคนจีนเจ้าของภาษามากที่สุด โดยจะแบ่งวิธีออกเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้
4.1 คำอ่านภาษาไทยของตัวอักษรจีน
ในทุก ๆ ประโยค นอกจากตัวอักษรจีน คำแปล และพินอินสำหรับผู้ที่พอมีพื้นฐานภาษาจีนแล้ว ในเล่มยังได้มีการใส่คำอ่านภาษาไทย หรือที่เข้าใจง่าย ๆ ว่า “คาราโอเกะ” ลงไปให้ด้วย ซึ่งในกรณีนี้ จะไม่ได้ใช้การเทียบตัวพยัญชนะไทยและจีนตามความเคยชินของคนไทย เช่น Sh = ซ, Ch = ช แต่จะอิงตามหลักการออกเสียงที่คล้ายกับภาษาจีนที่สุด เพื่อให้สามารถออกเสียงได้เหมือนเจ้าของภาษามากที่สุด
4.2 การฟังเสียงจาก Native Speaker
หลังจากที่เรียนรู้วิธีการอ่านประโยคภาษาจีนจาก “คำอ่านภาษาไทย” แล้ว ในเล่มยังมี QR Code ให้สแกนเข้าฟังการออกเสียงที่ถูกต้องจากเจ้าของภาษา ซึ่งการฟังเสียง Native Speaker นั้น นอกจากจะช่วยเช็กผู้เรียนว่าออกเสียงได้ถูกหรือผิดแล้ว ยังสามารถช่วยให้ผู้เรียนคุ้นชินกับสำเนียงของคนจีนได้ก่อนที่จะเจอตัวจริงอีกด้วย
โดยในไฟล์เสียงนั้น แต่ละประโยคจะแบ่งออกเป็นการพูดแบบเร็ว ตามความเร็วปกติที่คนจีนมักใช้พูดกัน กับการพูดแบบช้า ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ และเลียนเสียงได้ง่ายขึ้น
5. สนทนาถาม-ตอบภาษาจีนได้
จุดเด่นอีกอย่างของหนังสือเล่มนี้คือมีการจับคู่ประโยคคำถาม และคำตอบภาษาจีนมาให้แล้วเรียบร้อย ซึ่งการที่ในเล่มนี้เขามีการจับคู่มาให้แล้วเรียบร้อยนั้น ก็เพื่อให้ผู้เรียนที่กังวลว่าเมื่อต้องเจอกับคำถามแบบนี้ ๆ แล้วไม่รู้จะต้องตอบยังไงได้มีแนวทางในการนำประโยคนั้น ๆ ไปใช้ตอบคำถามได้ อีกทั้งการกำหนดประโยคคำตอบที่ควรใช้ ก็ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกใช้ประโยคภาษาจีนได้ถูกต้องตามบริบทอีกด้วย เพราะในภาษาจีนนั้น คำศัพท์บางคำก็ไม่เหมาะที่จะใช้กับทุกสถานการณ์ ดังนั้นรูปแบบนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การเข้าใจผิดได้เมื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง
ตัวอย่างเช่น คำว่า “ไม่เป็นไร” ในภาษาจีนนั้น สามารถเป็นได้ทั้ง 不客气 (Bù kèqi ปู๋ เค่อฉิ) และ 没关系 (méiguānxi เหมยกวนสิ) แต่ทั้งสองคำนี้กลับไม่สามารถใช้แทนกันได้นะ เพราะบริบทและสถานการณ์ที่เหมาะสมกับทั้งสองคำนี้ต่างกัน
โดยคำว่า 不客气 (Bù kèqi ปู๋ เค่อฉิ) เหมาะที่จะใช้ในการตอบรับคำขอบคุณ
และคำว่า 没关系 (méiguānxi เหมยกวนสิ) เหมาะที่จะใช้ในการตอบรับคำขอโทษ
การจับคู่บทสนทนาภาษาจีนถาม-ตอบแบบนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจการใช้ประโยคภาษาจีนได้ดียิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าผู้เรียนไม่จำเป็นต้องใช้ประโยคคำถาม และคำตอบภาษาจีนที่ให้มานี้คู่กันเสมอ ผู้เรียนสามารถเลือกแค่ประโยคเดียวในนั้นไปใช้แบบเดี่ยว ๆ หรือจะไปใช้คู่กับบริบท และสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันก็ได้ตามความเหมาะสม
6. ไม่เพียงแค่พูดจีนได้ แชตจีนก็ได้
อีกหนึ่งลูกเล่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ไม่ว่าผู้เรียนจะเคยเรียนภาษาจีนมาก่อนหรือไม่ ก็สามารถนำประโยคภาษาจีนในเล่มไปใช้ในการพูด หรือใช้ในการแชตคุยก็ได้
โดยในส่วนการพูดนั้น นอกจาก “คำอ่านภาษาไทย” ที่ช่วยให้เข้าใจวิธีออกเสียงประโยคภาษาจีนได้ แม้ไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนแม้แต่นิดแล้ว ในเล่มยังมี “พินอิน” ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยให้อ่านตัวอักษรจีนได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 100% อีกด้วย ซึ่งคนที่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนสามารถจำประโยคที่อยู่ในเล่มจากการอ่านพินอินได้เลย แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนจีนมาก่อน อ่านพินอินไม่ออกก็ไม่เป็นไรนะ เพราะคำอ่านภาษาไทยในเล่มก็ได้มีการเทียบเสียงให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดแล้ว รับรองว่าสามารถนำไปใช้ต่อบทสนทนากับคนจีนได้เหมือนกัน
ส่วนของการแชตนั้น หากผู้เรียนอยากที่จะแชตกับคนจีน ก็สามารถเอาพินอินของแต่ละประโยคที่ได้เตรียมไว้ในภายในเล่ม ไปใช้พิมพ์โต้ตอบกับคนจีนก็ได้เหมือนกัน โดยในกรณีนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องอ่านไม่ออกเลย เพราะแค่พิมตามนี้ แล้วหาตัวอักษรจีนที่รูปร่างคล้ายกับประโยคในเล่มก็ใช้ได้แล้ว โดยภายในเล่มจะมีการสอนการตั้งค่าแป้นพิมพ์ภาษาจีนอย่างละเอียด แค่ทำตามทีละสเต็ปก็สามารถพิมพ์ภาษาจีนได้เลย
7. แทรกเกร็ดภาษาจีน ไม่ว่าที่ไหนก็เอาตัวรอดได้
ในเล่ม “ถามจีน ตอบจีน” ยังมีแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับภาษาและประเทศจีน ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเอาตัวรอดเมื่ออยู่ประเทศจีนได้อีกด้วย ซึ่งแต่ละเรื่องต่างก็เป็นความรู้พื้นฐานที่คนไทยควรระวังและใส่ใจมาก ๆ ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยวประเทศจีนเองก็สามารถเอาเกร็ดความรู้ตรงนี้ไปใช้ได้เลย หรือต่อให้อยู่ที่ประเทศไทยก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน โดยเกร็ดความรู้ทั้งหมดนี้จะมีให้ทุกท้ายบทเลยนะ
8. เตรียมความพร้อม ประลองความจำ
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเช็กความพร้อมของตัวเอง ว่าสามารถจำประโยคภาษาจีนที่เรียนไปได้หรือไม่นั้น เล่มนี้ก็มีแบบฝึกหัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกท้ายบทให้เราได้ลองทำอีกด้วย โดยหากผู้เรียนต้องการทำแบบฝึกหัด ก็การสามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าไปโหลดโจทย์คำถาม ฟังไฟล์เสียง และดูเฉลยได้เลย แบบฝึกหัดภายในเล่มจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
8.1 ประโยคนี้แปลว่าอะไรกันแน่
แบบฝึกหัดนี้จะช่วยเช็กผู้เรียนว่าสามารถจำว่าประโยคนั้น ๆ ว่าแปลว่าอะไรได้หรือไม่ ป้องกันไม่ให้ผู้เรียนจำความหมายของแต่ละประโยคสลับกัน โดยจะให้ผู้เรียนฟังไฟล์เสียงก่อน แล้วค่อยเลือกหาคำแปลที่ถูกต้องจากตัวเลือกที่ได้เตรียมไว้ให้
8.2 ถามแบบนี้ ต้องตอบว่ายังไงนะ
แบบฝึกหัดส่วนที่สองนี้จะเป็นการจำลองสถานการณ์ ว่าหากผู้เรียนต้องเจอคนจีนถามคำถามมาอย่างนี้ ผู้เรียนควรที่จะต้องตอบว่าอะไรจึงจะเหมาะสม และถูกต้องตามบริบท โดยจะให้ผู้เรียนฟังประโยคคำถามจากในไฟล์เสียง แล้วค่อยเลือกหาคำอ่านภาษาไทยที่ถูกต้อง
8.3 ตอบแบบนี้ ต้องถามว่ายังไงนะ
แบบฝึกหัดส่วนสุดท้ายนี้จะคล้ายกับแบบฝึกหัดส่วนที่สอง แต่จะเป็นการสลับจากการให้เลือกคำตอบที่เหมาะสมกับคำถามที่โจทย์ให้มา เป็นการเลือกหาคำถามที่ควรใช้ถามคำตอบที่โจทย์ให้มานั่นเอง
9. ของแถมพิเศษภายในเล่ม
นอกจากประโยคภาษาจีนที่มีมากกว่า 500 ประโยคที่สามารถเอาไปใช้พูดหรือแชตในบทสนทนาภาษาจีนแล้ว ในเล่มยังมีที่คั่นหนังสือฮู้กันลืม ที่ช่วยให้จำประโยคภาษาจีนแม่นขึ้นใจ ไม่ลืม ไม่ออกเสียงเพี้ยน ไม่จำความหมายผิด
และบัตร Exclusive Membership Card ที่ใช้ในการล็อกอินเข้าสู่เว็บไซต์ เพื่อเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ เช่นไฟล์เสียงจาก Native Speaker แถมมาให้ในเล่มอีกด้วย
อยากได้ “ถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค”
สามารถสั่งซื้อหนังสือ “ถามจีน ตอบจีน สนทนาภาษาจีน 500 ประโยค” ได้โดยใช้ส่วนลดพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 390.- เท่านั้นจากราคาเต็ม 790 บาท เพียงแจ้งโค้ด “OPENJT400” สิทธิ์มีจำนวนจำกัดรีบสั่งซื้อเลย!!!
สั่งซื้อผ่าน Inbox เพจ Chinese Hack คลิก
สั่งซื้อผ่าน Shopee ร้าน OpenDurian คลิก