6 อาชีพสายภาษาจีน ที่งานดี เงินดี เพียงแค่มี HSK5
เพื่อนๆ ที่เรียนภาษาจีนหลายคนคงกังวลกับเรื่องของอาชีพการงานในอนาคตกันไม่น้อยใช่ไหม ว่าอาชีพที่ใช้ภาษาจีนแต่ละอาชีพนั้นมีลักษณะ มีเงื่อนไขในการรับสมัครอย่างไร หรือมีเงินเดือนเท่าไหร่ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 6 อาชีพที่ใช้ภาษาจีนในการทำงานเป็นหลัก และมีเงินเดือนหรือผลตอบแทนที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน รับรองว่าแค่มีคะแนนสอบ HSK5 มาเป็นหลักประกันความสามารถด้านภาษาจีนแล้วก็สามารถทำตามความฝันได้ไม่ยากแน่นอน
สารบัญ
- อาชีพที่ 1 : ล่าม
- อาชีพที่ 2 : มัคคุเทศก์
- อาชีพที่ 3 : ครูสอนภาษาจีน
- อาชีพที่ 4 : แอร์โฮสเตส
- อาชีพที่ 5 : นักแปล
- อาชีพที่ 6 : พนักงานบริษัทจีน
อาชีพที่ 1 : ล่าม (口译员)
เมื่อพูดถึงอาชีพที่เกี่ยวกับภาษาแล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงนึกถึงล่ามขึ้นมาเป็นอาชีพแรก เนื่องด้วยรายได้ที่สูงกว่างานอื่นๆ ในสายภาษาด้วยกัน หรือรายละเอียดของงานที่ไม่ค่อยยุ่งยาก ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้ล่ามนั้นกลายเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ คนได้ไม่ยากเลย
แน่นอนว่าเงินเดือนที่สูงนั้นก็ต้องแลกมาด้วยคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่สูงเช่นเดียวกัน ทำให้การเป็นล่ามมืออาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากอาชีพนี้เป็นอาชีพที่จำเป็นต้องใช้ทักษะทางด้านภาษาอยู่ตลอดเวลา ต้องรู้จักคำศัพท์ของทั้งสองภาษาเป็นจำนวนมาก ต้องสามารถแปลจากภาษาไทยไปเป็นภาษาจีนได้อย่างรวดเร็ว และต้องรู้จักการใช้คำพูดให้ดี ไม่ทำให้ผู้รับสารทั้งสองฝ่ายไม่พอใจเป็นต้น
ซึ่งการเป็นล่ามมืออาชีพนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นล่ามอิสระที่รับงานเป็นชิ้นๆ หรือล่ามประจำที่ทำงานขึ้นตรงกับองค์กรหรือบริษัท แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นล่ามแบบไหน ก็มีค่าตอบแทนที่สูงเหมือนกันหมด โดยเราจะสามารถแบ่งระดับของล่ามออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้ :
- ล่ามพูดตาม
ล่ามพูดตาม หรือล่ามพูดสลับ ก็คือล่ามที่จะรอให้ผู้พูดต้นฉบับพูด หรือสื่อสารให้จบประโยคก่อน จากนั้นค่อยแปลข้อความทั้งหมดที่ได้รับให้เป็นอีกภาษาหนึ่งในภายหลัง ซึ่งการแปลภาษาในรูปแบบนี้จะค่อนข้างง่ายกว่าอีกสองแบบ เนื่องจากสามารถจดบันทึกช่วยจำ ทำความเข้าใจ และตีความเนื้อหาก่อนที่จะพูดแปลได้
- ล่ามกระซิบ
ล่ามกระซิบ ก็คือล่ามที่จะพูดแปลเนื้อหาที่ได้รับไปพร้อมกับผู้พูดต้นฉบับ โดยเนื้อหาที่พูดนั้นอาจจะการตกหล่นของเนื้อหาบางส่วน หรือมีใจความที่ไม่ครบสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นการแปลในรูปแบบที่ล่ามจะพูดแปลด้วยเสียงเบาๆ อยู่ด้านหลังหรือด้านข้าง ซึ่งล่ามกระซิบนั้นจะไม่มีอุปกรณ์เครื่องเสียงช่วยในการแปลเหมือนกับล่ามพูดพร้อม
- ล่ามพูดพร้อม ที่สามารถแปลไปพร้อมกับผู้พูด และมีเนื้อหาครบถ้วน
ล่ามพูดพร้อม หรือล่ามฉับพลัน ก็คือล่ามที่จะทำการพูดแปลเนื้อหาข้อความที่ได้รับไปพร้อมกับผู้พูดต้นฉบับ โดยเนื้อหาที่แปลนั้นจะมีใจความที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งปกติแล้วล่ามพูดพร้อมจะมีอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ เช่นตู้เก็บเสียง หรือชุดหูฟังในการช่วยแปลข้อความ เนื่องจากล่ามพูดพร้อมเป็นล่ามที่มีประสบการณ์มาก จึงมักถูกจ้างให้ไปเป็นล่ามในการประชุมระดับนานาชาติเป็นส่วนใหญ่
คนที่อยากทำอาชีพล่ามแปลภาษาจีนนั้นจะต้องสอบ HSK5 ให้มีคะแนนมากกว่า 180 หรือ มีคะแนนในระดับที่สูงกว่าอย่าง HSK6 ถึงจะสามารถสมัครหรือรับงานได้ โดยส่วนใหญ่เงินเดือนของล่ามจะเริ่มที่ 20,000 บาท โดยค่าจ้างของล่ามพูดพร้อมจะสูงกว่าล่ามพูดกระซิบ และค่าจ้างของล่ามพูดกระซิบจะสูงกว่าล่ามพูดตาม นอกจากนี้แล้ว ยิ่งถ้าเรามีความรู้ทางภาษาเฉพาะทาง อย่างเช่นการรู้จักคำศัพท์ในแวดวงแพทย์ หรือยานยนต์แล้วล่ะก็ เงินเดือนที่ได้ก็สามารถอัพขึ้นไปถึง 30,000-50,000 ได้เลยเช่นกัน
____________________________________________________________________________
อาชีพที่ 2 : มัคคุเทศก์ (导游)
นอกจากการเป็นล่ามแล้ว อาชีพอีกอย่างๆ ที่คนเรียนสายภาษาส่วนใหญ่ต่างก็เฝ้าฝันคงหนีไม่พ้นการเป็นมัคคุเทศก์ หรือที่เรารู้กันว่าไกด์แน่นอน เนื่องจากอาชีพนี้ไม่เพียงแต่จะมีเงินเดือนที่สูงแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นโชคสองชั้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเลยแน่นอน ซึ่งการเป็นมัคคุเทศก์นั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้ :
- มัคคุเทศก์นำเที่ยวในประเทศ
การเป็นมัคคุเทศก์ หรือไกด์นำเที่ยวภายในประเทศนั้นสามารถถือได้ว่าเป็นบันไดขั้นแรกสำหรับอาชีพสายนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งการนำเที่ยวในประเทศนั้นไม่จำกัดอยู่ที่การพานักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ซึ่งการเป็นไกด์นำเที่ยวในประเทศนั้นต้องมีการสอบบัตรมัคคุเทศก์ก่อน จึงจะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้ แน่นอนว่าผู้ที่จะเป็นไกด์ได้นั้นไม่จำเป็นต้องจบจากคณะที่เกี่ยวกับการนำเที่ยวโดยเฉพาะ แต่ควรมีใจรักและได้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สามเป็นอย่างน้อย
- หัวหน้าทัวร์
หัวหน้าทัวร์ หรือที่เพื่อนๆ หลายคนเข้าใจว่าเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวในต่างประเทศนั้น คือสายงานที่พัฒนาต่อยอดมาจากไกด์นำเที่ยวในประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้วหน้าที่ของหัวหน้าทัวร์คือการรับผิดชอบ ดูแล และช่วยประสานงานต่างๆ ให้กับลูกทัวร์ตลอดการทริปเดินทาง ซึ่งในส่วนของการนำเที่ยวนั้น ไกด์ของท้องถิ่นของแต่ละที่จะเป็นคนรับผิดชอบ ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าทัวร์ได้นั้นต้องมีการสอบเอาบัตรผู้นำเที่ยวก่อนจึงจะสามารถทำงานนี้ได้ ซึ่งความยากของการได้รับบัตรนั้นก็จะสูงกว่าบัตรมัคคุเทศก์เป็นเท่าตัว
สำหรับปัญหาที่ทุกคนให้ความสนใจอย่างค่าจ้างนั้น เนื่องจากเวลาทำงานของไกด์นั้นจะไม่แน่นอนเหมือนงานประจำทั่วๆ ไป ในหนึ่งทริปของการเที่ยวนั้น ไกด์จะต้องทำงานทุกวัน และคอยดูแลลูกค้าตลอดเวลา ทำให้อาชีพมัคคุเทศก์นั้นจะคิดค่าจ้างเป็นรายวัน โดยปกติแล้วจะตกวันละ 1,500-3,000 บาท ถึงแม้ว่าดูไปแล้วจะไม่ค่อยเยอะ แต่ว่าอาชีพมัคคุเทศก์ยังได้เงินค่าตอบแทนจำนวนมากเพิ่มเติมจากร้านค้า หรือบริษัทที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมอีกด้วย เมื่อรวมๆ แล้วก็ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่เงินเดือนสูงอีกอาชีพหนึ่งเลย
แน่นอนว่าเงินเดือนที่สูงก็ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขในการสมัครที่สูง ผู้ที่จะทำอาชีพมัคคุเทศก์นั้นถึงแม้ว่าไม่จำเป็นจะต้องจบจากคณะที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องได้ภาษาที่ 2 หรือ 3 ยิ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก ทำให้ความต้องการของไกด์ที่พูดจีนได้ก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งหากต้องการเป็นไกด์นำเที่ยวให้นักท่องเที่ยวจีนแล้วนั้น ก็ต้องมี HSK5 คะแนน 180 เป็นอย่างน้อย
____________________________________________________________________________
อาชีพที่ 3 : ครูสอนภาษาจีน (汉语教师)
หนึ่งในอาชีพที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือครูสอนภาษาจีน เนื่องจากประเทศจีนมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจไทย และทางรัฐบาลไทยเองก็สนับสนุนให้ชาวไทยเรียนภาษาจีน จึงทำให้การเรียนภาษาจีนในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
โรงเรียนไทยส่วนมากในปัจจุบันได้มีการเปิดรับสมัครครูสอนภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล เอกชน หรือนานาชาติ เพื่อปลูกฝังและให้ความรู้กับนักเรียนทั้งในระดับเด็กเล็กอย่างชั้นอนุบาล ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าเมื่อเรียนจบสายภาษาจีนมาแล้วจะหางานทำไม่ได้
ถึงแม้ว่าการเป็นครูสอนภาษาจีนนั้นดูแล้วจะมีเงินเดือนไม่สูงเท่าที่ควร และสตาร์ทอยู่ที่ 18,000 บาทเป็นส่วนใหญ่ แต่เพื่อนๆ ก็อย่าเพิ่งมองว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่น่าสนใจนะ เพราะครูสอนภาษาจีนยังสามารถหารายได้เสริมได้จากการเปิดสอนพิเศษได้อีกด้วย ซึ่งค่าสอนพิเศษส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ที่ประมาณชั่วโมงละ 250-500 บาทเลยทีเดียว จะเลือกเป็นสอนในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน เสาร์-อาทิตย์ หรือตอนปิดเทอมก็ได้หมด ดังนั้นเมื่อมาคิดรวมแล้วๆ ก็ถือว่าครูสอนภาษาจีนนั้นมีรายได้ไม่น้อยเลยเช่นกัน
เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ก่อนที่เพื่อนๆ จะเป็นครูสอนภาษาจีนได้นั้น อย่างน้อยก็ต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอย่างการรักเด็ก และผ่านการสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีน อย่าง HSK ระดับ 5 ขึ้นไป ดังนั้นถึงแม้ว่าครูสอนภาษาจีนนั้นจะเป็นที่ต้องการจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นกันง่ายๆ นะ
____________________________________________________________________________
อาชีพที่ 4 : แอร์โฮสเตส (空姐)
อีกหนึ่งอาชีพที่สามารถไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ได้ด้วยการทำงานได้ก็คือแอร์โฮสเตส แน่นอนว่าอาชีพนี้ก็คงเป็นงานในฝันของใครหลายๆ คนแน่นอน เพราะนอกจากจะได้เที่ยวบ่อยแล้วนั้น แอร์โฮสเตสยังมีเงินเดือนเริ่มต้นที่หลักครึ่งแสนอีกต่างหาก
หลายๆ คนคงสงสัยกันว่า “การเป็นแอร์โฮสเตสมันต้องได้ภาษาจีนยังไง ไม่ใช่ว่าเงื่อนไขการสมัครขั้นต่ำมีแค่ต้องได้ภาษาอังกฤษหรอ” ใช่ไหม แน่นอนว่าเพื่อนไม่ได้เข้าใจผิดไปเลย เพราะการได้ภาษาจีนด้วยนั้นเป็นเพียงออฟชั่นเสริมเท่านั้น เพียงแค่ความแตกต่างระหว่างได้ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว กับการที่สามารถพูดภาษาที่สามอย่างภาษาจีนได้นั้นอยู่ที่เงินเดือนค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วแอร์โฮสเตสจะมีเงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณครึ่งแสน แค่ดูก็รู้สึกว่าเยอะแล้วใช่ไหม แต่รู้ไหมว่าหากสามารถพูดภาษาที่สามอย่างภาษาจีนได้อีกนั้น จะสามารถอัพเงินเดือนให้สูงขึ้นไปจนถึงหลักแสนได้เลย
ซึ่งเงื่อนไขในการอัพเงินให้สูงขึ้นนั้นก็จำเป็นต้องมีคะแนนสอบของการวัดระดับภาษาอย่าง HSK มาเป็นเครื่องยืนยัน โดยจะเป็นคะแนนในระดับ 4 หรือสูงกว่านั้นก็ได้เช่นกัน ขอเพียงสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วก็พอ เพราะส่วนใหญ่แล้วแอร์โฮสเตสที่พูดจีนได้จะต้องบินในเส้นทางไทย-จีนโดยเฉพาะ และมีต้องทำหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับภาษาจีน อย่างการประกาศโดยใช้ภาษาจีนบนเครื่องนั่นเอง ดังนั้นหากเพื่อนๆ อยากอัพเงินเดือนแล้วนั้น การเรียนภาษาจีนก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เลยแน่นอน
____________________________________________________________________________
อาชีพที่ 5 : นักแปล (笔译员)
สำหรับคนที่ชอบทำงานฟรีสไตล์นั้น อาชีพนักแปลภาษาจีนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถที่จะทำงานที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งการเป็นนักแปลยังสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ที่เป็นภาษาต้นทางได้ก่อน เรียกว่าได้อ่านก่อน ดูก่อนชาวบ้านเลยก็ว่าได้ พูดได้ว่าเป็นเรื่องน่าอิจฉาของใครหลายๆ คนเลย โดยนักแปลสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามชนิดงานดังนี้ :
- นักแปลบทความ หรือข่าวภาษาจีน
- นักแปลนิยายภาษาจีน
- นักแปลบทภาพยนตร์หรือซีรีส์จีน
ถึงแม้การทำงานแปลนั้นจะทำให้เราสามารถได้อ่านนิยาย หรือดูซีรีส์ก่อนคนอื่นนั้น แต่การทำอาชีพนักแปลนั้นก็ไม่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะไม่เพียงแต่จะต้องเชี่ยวชาญในภาษาจีนแล้ว ยังต้องรู้จักใช้คำในภาษาไทยให้ดีด้วย ไม่ใช่เพียงแค่แปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งแบบคำต่อคำเท่านั้น แต่ต้องสามารถที่จะปรับให้เข้ากับวัฒธรรมของประเทศที่เป็นภาษาปลายทางด้วย ทำให้สายงานนี้ก็จำเป็นต้องมีคะแนน HSK5 ขั้นต่ำ 180 คะแนนในการยื่นสมัครด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การทำอาชีพนักแปลยังมีความกดดันในเรื่องของเวลางานที่เร่งรัดอีกด้วย ในบางครั้งก็ต้องแปลหนังสือเล่มหนึ่งให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่างานที่กดดัน และมีเงื่อนไขที่สูงอย่างนี้นั้น ก็มีเงินเดือนที่สูงด้วยเช่นกัน โดยถ้าเป็นนักแปลประจำบริษัท ก็อาจมีเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน หรือหากเป็นนักแปลอิสระก็อาจมีการคิดค่าจ้างแตกต่างกันไปตามชนิดงาน เช่นถ้าเป็นนิยายก็จะเริ่มต้นที่ประมาณเล่มละ 30,000 บาท หรือหากเป็นซีรีส์จีนหรือรายการจีนก็จะคิดเป็น 2,000-3,000 บาทต่อ 40-60 นาที และถ้าหากเพื่อนๆ มียิ่งมีประสบการณ์สูง หรือเข้าใจในศัพท์เฉพาะทางแล้วนั้น ค่าจ้างก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน
____________________________________________________________________________
อาชีพที่ 6 : พนักงานบริษัทจีน (中国公司职员)
หากเพื่อนๆ รู้สึกว่าอาชีพที่กล่าวมาด้านบนยังไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองอยากทำสักเท่าไหร่ ก็ยังมีสายงานอย่างพนักงานบริษัทจีนให้เพื่อนๆ ได้พิจารณากันด้วยนะ การทำงานในบริษัทจีนไม่เพียงแต่เป็นงานที่เปิดรับสมัครเยอะที่สุดเท่านั้น แต่ยังมีตำแหน่งที่หลากหลายให้เลือกตามความถนัดเยอะอีกด้วย
เนื่องจากในปัจจุบันชาวจีนจำนวนมากเข้ามาเปิดบริษัทในไทย ทำให้มีการเปิดรับสมัครพนักงานที่สามารถใช้ภาษาจีนได้มากขึ้นตามไปด้วย โดยตำแหน่งที่เปิดรับสมัครนั้นมีทั้งเลขานุการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายติดต่อซื้อขาย เจ้าหน้าที่คอยดูแลลูกค้าชาวจีน เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ หรือตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าล้วนแล้วแต่จะต้องใช้ภาษาจีนได้ดีทั้งนั้น เพราะจำเป็นต้องติดต่อกับชาวจีนอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย หรือลูกค้า ดังนั้นเงื่อนไขในการสมัครจึงต้องมี HSK5 คะแนน 180 ขึ้นไปมารับรองความสามารถในการใช้ภาษาจีนของตัวเอง
โดยเงินเดือนของพนักงานในบริษัทจีนนั้นก็อาจแตกต่างกันไปตามตำแหน่ง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักสตาร์ทอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือนเลยนะ ยิ่งถ้าเพื่อนๆ รู้จักคำศัพท์ที่ใช้ในสายงานนั้นๆ เช่นคำศัพท์ที่เดียวกับรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้วนั้น ก็สามารถเรียกเงินเดือนให้สูงขึ้นอีกได้ด้วยนะ
นอกจากอาชีพทั้ง 6 ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีงานอีกมากมายที่สามารถใช้ภาษาจีนในการทำงานได้ ดังนั้นเพื่อนๆ สามารถสบายใจหายห่วงเรื่องการหางานในอนาคตได้เลย อีกทั้งหากเพื่อนๆ มีงานประจำอยู่แล้ว แต่อยากอัพเงินเดือนในสูงขึ้น การได้ภาษาที่สามอย่างภาษาจีนก็เป็นตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะ
แต่ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องมีคะแนน HSK ระดับ 5 ขั้นต่ำมารับประกันทักษะและความสามารถของเพื่อนๆ ด้วยนะ ถึงจะสามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ ซึ่งหากเพื่อนๆ กังวล และไม่รู้ว่าควรที่จะเตรียมตัวสอบ HSK5 อย่างไรแล้วนั้น คอร์สติว HSK5 กับครูพี่นิวสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้อย่างแน่นอน ด้วยเทคนิคการทำข้อสอบแบบอัดแน่นจัดเต็ม คำศัพท์ที่มักออกสอบ ไวยากรณ์จีนที่เจอบ่อยและควรรู้ หรือแนวทางการทำข้อสอบในแต่พาร์ท รับรองว่าช่วยให้เพื่อนๆ สอบ HSK5 ผ่านแบบได้คะแนนมากกว่า 200 แน่นอน