คำศัพท์ที่แปลว่า “ห้าม” ในภาษาจีน เจอบ่อยทั้งในชีวิตประจำวัน และการสอบ HSK5
เพื่อนๆ บางคนคงอาจจะเคยเห็นป้ายเตือนต่างๆ ในภาษาจีน แต่ก็อาจสงสัย และไม่เข้าใจว่าทำไมคำว่า “ห้าม” หรือ “อย่า” นั้นถึงไม่เหมือนกันเลย วันนี้เราเลยได้รวบรวมคำศัพท์ที่มีความหมายว่า “ห้าม,อย่า” ที่พบเห็นได้บ่อยในภาษาจีนมาแชร์ให้ทุกๆ คนได้เข้าใจถึงความแตกต่างของคำศัพท์แต่ละคำและวิธีการใช้ พร้อมแบ่งระดับความรุนแรงของ “ห้าม” ในแต่ละตัวมาให้เข้าใจได้ง่ายๆ แบบที่ไม่ว่าจะเจอตามป้ายห้ามต่างๆ บนเว็บไซต์ บนบทความ หรือกระทั่งในข้อสอบ HSK5 ก็เข้าใจและใช้ได้ถูกต้อง
สารบัญ
- ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 1 : 别、不要
- ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 2 : 不准
- ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 3 : 不许
- ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 4 : 请勿
- ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 5 : 禁止
ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 1
ในระดับนี้ เราสามารถแบ่งคำศัพท์ได้ออกเป็น 2 คำ ซึ่งก็คือคำว่า 别 และ 不要 นั่นเองค่ะ
别 (bié) อย่า
คำว่า 别 นี้เพื่อนๆ หลายคนคงคุ้นเคย และรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งเราจะสามารถพบเห็นคำนี้ได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในภาษาพูดทั่วไป ซึ่งหลักการใช้ก็ไม่ได้เข้าใจยาก โดย 别 เป็นคำวิเศษณ์บอกปฏิเสธ ที่สามารถใช้ในการตักเตือน ห้ามปราม หรือไม่อนุญาต โดย 别 จะมีรูปแบบการใช้ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบด้วยกันดังนี้
รูปแบบที่ 1 : (ประธาน) + 别 + คำกริยา |
รูปแบบแรกนี้จะมีหรือไม่มีประธานในประโยคก็ได้ จากนั้นจะตามด้วยคำว่า 别 และคำกริยา เพียงเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น :
- 别走!
Bié zǒu!
อย่าไปนะ!
- 别怕!
Bié pà!
อย่าไปกลัว!
- 你别动!
Nǐ bié dòng!
คุณอย่าขยับ!
รูปแบบที่ 2 : (ประธาน) + 别 + กริยาวลี |
รูปแบบที่ 2 นี้จะมีหรือไม่มีประธานในประโยคก็ได้เหมือนเดิม จากนั้นจะตามด้วยคำว่า 别 และกริยาวลี ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 别喝太多!
Bié hē tài duō!
อย่าดื่มมากเกินไป!
- 你别走过来!
Nǐ bié zǒu guò lai!
เธออย่าเดินเข้ามานะ!
- 你别打孩子!
Nǐ bié dǎ háizi!
เธออย่าตีเด็ก!
รูปแบบที่ 3 : (ประธาน) + 别 + กริยา/กริยาวลี + 了 |
รูปแบบที่ 3 นี้จะต่างจาก 2 แบบแรกตรงที่จะมี 了 ตามหลัง ซึ่งจะมีความหมายต่างจากสองรูปแบบ ตรงที่จะมีความหมายว่า อย่าทำสิ่งนั้นๆ อีกต่อไปเลย แทนการบอกว่าห้าม หรืออย่าทำเพียงอย่างเดียวนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างเช่น :
- 别哭了!
Bié kū le!
ไม่ต้องร้องไห้แล้ว!
- 你别再喝了!
Nǐ bié zài hē le!
เธอเลิกดื่มได้แล้ว!
- 你别开车了!
Nǐ bié kāi chē le!
เธออย่าขับรถเลย!
不要 (búyào) อย่า
คำว่า 不要 ก็คงเป็นอีกคำหนึ่งที่เพื่อนๆ หลายคนคงคุ้ยเคยกันดี เนื่องจากเป็นคำที่เรามักพบเห็นได้บ่อย ใช้ง่าย และเป็นภาษาพูดทั่วไป ซึ่งคำว่า 不要 นี้จะมีหลักการใช้ที่ใกล้เคียงกับคำว่า 别 ในบางครั้งเราก็สามารถใช้แทนกันได้เลย โดย 不要 จะมีรูปแบบการใช้ทั้งหมด 3 แบบเหมือนกับ 别 ดังนี้
รูปแบบที่ 1 : (ประธาน) + 不要 + คำกริยา |
รูปแบบแรกนี้จะมีหรือไม่มีประธานในประโยคก็ได้ จากนั้นค่อยตามด้วยคำว่า 不要 และคำกริยา
ตัวอย่างเช่น :
- 不要走!
Búyào zǒu!
อย่าไปนะ!
- 不要怕!
Búyào pà!
อย่าไปกลัว!
- 你不要动!
Nǐ búyào dòng!
คุณอย่าขยับ!
รูปแบบที่ 2 : (ประธาน) + 不要 + กริยาวลี |
รูปแบบที่ 2 นี้จะมีหรือไม่มีประธานในประโยคก็ได้เหมือนเดิม จากนั้นจะตามด้วยคำว่า 不要 และกริยาวลี ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 不要喝太多!
Búyào hē tài duō!
อย่าดื่มมากเกินไป!
- 你不要走过来!
Nǐ búyào zǒu guò lai!
เธออย่าเดินเข้ามานะ!
- 你不要打孩子!
Nǐ búyào dǎ háizi!
เธออย่าตีเด็ก!
รูปแบบที่ 3 : (ประธาน) + 不要 + กริยา/กริยาวลี + 了 |
รูปแบบที่ 3 นี้จะมีการเพิ่ม 了 เข้าไปด้านหลังประโยคของรูปแบบที่ 1 และ 2 ซึ่งจะทำให้ความหมายมีความแตกต่างจากสองรูปแบบแรกตรงที่จะแปลว่า อย่าทำสิ่งนั้นๆ อีกต่อไปเลย
ตัวอย่างเช่น :
- 不要哭了!
Búyào kū le!
ไม่ต้องร้องไห้แล้ว!
- 你不要再喝了!
Nǐ búyào zài hē le!
เธอเลิกดื่มได้แล้ว!
- 你不要开车了!
Nǐ búyào kāi chē le!
เธออย่าขับรถเลย!
ข้อควรระวัง เนื่องจาก 不要 นั้นไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ “ห้าม, อย่า” เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถแปลว่า “ไม่ต้องการ” ได้อีกด้วย ดังนั้นหากต้องการใช้ 不要 แทนที่ 别 แล้ว ก็ควรดูให้ดีก่อนว่าประโยคนั้นๆ เป็นการห้ามปราม หรือเป็นการปฏิเสธ
ตัวอย่างเช่น :
我不要这本书了。(ฉันไม่อยากได้หนังสือเล่มนี้แล้ว)
ในประโยคข้างต้น เราจะไม่สามารถใช้ 别 มาแทนที่ 不要 ได้เนื่องจาก 不要 ในที่นี้มีความหมายว่า “ไม่ต้องการ” นั่นเองค่ะ
ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 2
不准 (bùzhǔn) ห้าม, ไม่อนุญาต
คำว่า 不准 นั้นเป็นคำที่ใช้ทั่วไปในภาษาพูด ซึ่งจะมีความจริงจังมากกว่า 别 และ 不要 ตรงที่จะเป็นการเน้นว่าห้ามทำ หรือไม่อนุญาตให้ทำสิ่งนั้นๆ และเราควรที่จะต้องปฏิบัติตามนั่นเองค่ะ โดย 不准 จะมีรูปแบบด้วยกันทั้งหมด 2 แบบดังนี้
รูปแบบที่ 1 : (ประธาน) + 不准 + กริยา/กริยาวลี |
รูปแบบแรกนั้นจะมีหรือไม่มีประธานของประโยคก็ได้ จากนั้นตามด้วย 不准 แล้วค่อยเป็นกริยา หรือกริยาวลี ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 不准吸烟!
Bùzhǔn xīyān!
ห้ามสูบบุหรี่
- 上课时不准说话。
Shàngkè shí bùzhǔn shuōhuà.
เวลาเรียนห้ามคุยกัน
- 教室里不准吃东西。
Jiàoshì lǐ bùzhǔn chī dōngxi.
ไม่อนุญาตให้กินของกินในห้องเรียน
รูปแบบที่ 2 : (ประธาน) + 不准 + อนุประโยค |
ในรูปแบบที่สองนั้นจะมีหรือไม่มีประธานของประโยคก็ได้ จากนั้นจะตามด้วย 不准 แล้วค่อยตามด้วยอนุประโยค ซึ่งก็คือประโยคที่มีหน้าที่มาขยาย หรือเสริมประโยคหลักให้มีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น :
- 不准外人进入大门。
Bùzhǔn wàirén jìnrù dàmén.
ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าประตูหลัก
- 此处不准小孩入内。
Cǐ chù bùzhǔn xiǎohái rù nèi.
ที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้เด็กเข้า
- 爸爸不准哥哥和她结婚。
Bàba bùzhǔn gēgē hé tā jiéhūn.
คุณพ่อไม่อนุญาตให้พี่ชายกับหล่อนแต่งงานกัน
ข้อควรระวัง 不准 นอกจากจจะมีความหมายว่า “ห้าม, ไม่อนุญาต” แล้ว ยังมีความหมายอื่นๆ ด้วย ดังนี้
- ถ้า 不准 ทำหน้าที่ขยายกริยา โดยวางไว้ด้านหลัง 得 จะทำให้มีความหมายว่า “ไม่ตรง ไม่ถูกต้อง” เช่น
- 发音发得不准 (ออกเสียงได้ไม่ถูกต้อง)
- 手表走得不准 (นาฬิกาข้อมือเดินไม่ตรง)
- ถ้ามีคำกริยานำหน้า 不准 จะทำให้มีความหมายเปลี่ยนเป็น “ไม่แน่นอน, ไม่แน่ใจ” เช่น
- 说不准 (พูดไม่ถูกเพราะไม่แน่ใจ)
ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 3
不许 (bùxǔ) ห้าม, ไม่อนุญาต
คำว่า 不许 นี้จะมีความหมายและการใช้ที่ใกล้เคียงกับคำว่า 不准 แต่จะแตกต่างกันตรงที่ 不许 มักจะใช้ในภาษาทางการ ทำให้ดูจริงจัง และมีความรุนแรงที่มากกว่า 不准 นั่นเอง โดย 不许 จะมีรูปแบบด้วยกันทั้งหมด 2 แบบดังนี้
รูปแบบที่ 1 : (ประธาน) + 不许 + กริยา/กริยาวลี |
รูปแบบแรกนั้นจะมีหรือไม่มีประธานของประโยคก็ได้ ตามด้วย 不许 จากนั้นค่อยตามด้วยกริยา หรือกริยาวลี ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 不许拍照!
Bùxǔ pāi zhào!
ห้ามถ่ายรูป!
- 不许浪费食物。
Bùxǔ làngfèi shíwù.
ห้ามกินทิ้งกินขว้าง
- 起飞时不许吸烟。
Qǐfēi shí bùxǔ xīyān.
ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ระหว่างที่เครื่องขึ้นบิน
รูปแบบที่ 2 : (ประธาน) + 不许 + อนุประโยค |
ในรูปแบบที่สองนี้ จะมีหรือไม่มีประธานก็ได้เหมือนเดิม จากนั้นจะตามด้วย 不许 แล้วค่อยตามด้วยอนุประโยค หรือประโยคที่ทำหน้าที่ขยายประโยคหลักให้มีความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น :
- 不许你告诉老师!
Bùxǔ nǐ gàosù lǎoshī!
ห้ามเธอบอกคุณครูเด็ดขาด
- 大学校园不许私人汽车入内。
Dàxué xiàoyuán bùxǔ sīrén qìchē rù nèi.
ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัย
- 老师不许学生在图书馆大声喧哗。
Lǎoshī bùxǔ xuéshēng zài túshūguǎn dà shēng xuānhuá.
คุณครูไม่อนุญาตให้นักเรียนส่งเสียงดังในห้องสมุด
ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 4
请勿 (qǐngwù) กรุณาอย่าทำ
คำว่า 请勿 นั้นจะเป็นคำในภาษาทางการที่ใช้กันทั่วไป จะไม่ใช้ในภาษาพูด โดยคำว่า 请勿 นั้นจะเป็นการห้ามปราม ไม่ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเชิงขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตาม โดยรูปแบบส่วนใหญจะเป็นดังนี้
รูปแบบ : (ประธาน) + 请勿 + กริยา/กริยาวลี |
ส่วนมากแล้ว 请勿 นั้นมักจะไม่มีประธานอยู่ด้านหน้าของประโยค แต่ก็มีบางกรณีที่มีประธานนำหน้า จากนั้นแล้วจึงค่อยตามด้วย 请勿 และกริยาหรือกริยาวลี ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 请勿抚摸展品!
Qǐngwù fǔmō zhǎnpǐn!
กรุณาอย่าจับสินค้าจัดแสดง
- 请勿在公共场所吐痰。
Qǐngwù zài gōnggòng chǎngsuǒ tǔ tán.
กรุณาอย่าถ่มน้ำลายในพื้นที่สาธารณะ
- 此网址含有成人资讯,未成年者请勿进入!
Cǐ wǎngzhǐ hányǒu chéngrén zīxùn, wèi chéngnián zhě qǐngwù jìnrù!
เว็บไซต์นี้มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะกรุณาอย่าเข้าชม
ความรุนแรงของ “ห้าม” ในระดับที่ 5
禁止 (jìnzhǐ) ห้าม, ไม่อนุญาต
คำว่า 禁止 นั้นเป็นภาษาทางการ ซึ่งจะมีความจริงจังมากที่สุด มีความหมายห้ามปรามในเชิงบังคับ และต้องปฏิบัติตาม โดยส่วนใหญ่จะมีรูปแบบด้วยกันทั้งหมด 2 แบบดังนี้
รูปแบบที่ 1 : (ประธาน) + 禁止 + กริยา/กริยาวลี |
รูปแบบที่ 1 ของ 禁止 นั้นจะมีหรือไม่มีประธานก็ได้ จากนั้นตามด้วย 禁止 และกริยาหรือกริยาวลี ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้ง กริยา+บทเสริมกริยา หรือเป็น กริยา+กรรม
ตัวอย่างเช่น :
- 该池塘禁止钓鱼!
Gāi chítáng jìnzhǐ diàoyú!
ไม่อนุญาตให้ตกปลาในสระนี้!
- 这条街道禁止通行。
Zhè tiáo jiēdào jìnzhǐ tōngxíng.
ไม่อนุญาตให้ผ่านถนนเส้นนี้
- 禁止向海洋排放工业废水和生活垃圾。
Jìnzhǐ xiàng hǎiyáng páifàng gōngyè fèishuǐ hé shēnghuó lājī.
ห้ามปล่อยน้ำเสียจากอุตสาหกรรมหรือของเสียจากครัวเรือนลงสู่มหาสมุทร
รูปแบบที่ 2 : (ประธาน) + 禁止 + อนุประโยค |
รูปแบบที่ 2 ของ 禁止 นั้นจะมีหรือไม่มีประธานก็ได้เช่นเดิม จากนั้นตามด้วย 禁止 แล้วค่อยเป็นอนุประโยค หรือก็คือประโยคที่มีหน้าที่มาขยาย หรือเสริมประโยคหลักให้มีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น :
- 禁止外国记者进入该国。
Jìnzhǐ wàiguó jìzhě jìnrù gāi guó.
ห้ามนักข่าวต่างชาติเข้าประเทศ
- 学校禁止学生携带手机进入学校。
Xuéxiào jìnzhǐ xuéshēng xiédài shǒujī jìnrù xuéxiào.
โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาในโรงเรียน
- 禁止驾驶人于行车中使用手持电话。
Jìnzhǐ jiàshǐ rén yú xíngchē zhōng shǐyòng shǒuchí diànhuà.
ห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์ในขณะที่รถเคลื่อนที่
เชื่อว่าหลังจากที่เพื่อนๆ อ่านจบแล้ว ก็คงเข้าใจคำว่า “ห้าม” ในภาษาจีนมากขึ้นระดับหนึ่ง แน่นอนว่าวิธีการใช้ “ห้าม” ยังมีอีกมายมายหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับคำศัพท์ภาษาจีนที่มีความหมายว่า “ห้าม” นั้นก็ยังมีอีกมากมายหลายคำรอให้เราไปรู้จัก ถึงแม้ตอนนี้เพื่อนๆ อาจจะยังรู้จัก “ห้าม” ในภาษาจีนเพียงแค่ 6 คำเท่านั้น แต่เราเชื่อว่าแค่ 6 คำนี้ก็ทำให้เพื่อนๆ พูดได้ ใช้คล่อง ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง หรือใช้ไปสอบ HSK5 ได้แบบไม่มีปัญหา
แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากเก่งจีนให้มากขึ้น เข้าใจทุกคำศัพท์ แม่นทุกไวยากรณ์ภาษาจีน หรือต้องการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบ HSK5 แล้วล่ะก็ ต้องเรียนคอร์สติว HSK5 กับครูพี่นิวเลย เพราะในคอร์สไม่เพียงแต่จะมีสอนคำศัพท์ ไวยากรณ์ และเทคนิคการทำข้อสอบ แต่ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ น่าสนใจที่มาให้พร้อม รับรองว่าช่วยให้เก่งจีนขึ้นได้แน่นอน สอบ HSK5 ผ่านได้แบบฉลุย คะแนน 200+ ชัวร์!