How to แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษ ช่วงกักตัว ใช้ได้ทั้ง IELTS และ SAT อัพคะแนนรัวๆ

จากสถานการณ์ Covid 19 ระบาดอีกระลอก ทำให้ต้องกักตัวอยู่บ้านกันอีกตามเคย ช่วงเวลาเหล่านี้สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ดี โดยเฉพาะในคนที่กำลังเตรียมสอบภาษาอังกฤษ อย่างเช่นการสอบ IELTS และ SAT ครั้งนี้ก็เลยถือโอกาส นำวิธีการแบ่งเวลาในหนึ่งวันมาฝาก สำหรับการติวภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ครบทั้ง 4 ทักษะ ไม่ว่าจะฟัง พูด อ่าน หรือเขียน

How to แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษ ช่วงกักตัว ใช้ได้ทั้ง IELTS และ SAT อัพคะแนนรัวๆ

7:00 น. ตื่นนอน

7:00-7:30 อาบน้ำแต่งตัว

7:30-8:00 กินข้าว

ก่อนอื่นทำธุระส่วนตัวให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หากตื่นสัก 7 โมงเช้า ก็ควรจัดการเรื่องส่วนตัวให้เสร็จภายใน 8 โมง แล้วเข้าสู่กระบวนการติวภาษาอังกฤษตามลำดับ

8:00-11:00 ดูหนัง/ซีรีย์ ภาษาอังฤษ

หลังจากนั้น สำหรับการแบ่งเวลาติวภาษาอังกฤษ แนะนำให้ดูหนังหรือซีรีย์ภาษาอังกฤษ ยาวๆ ไปสัก 3 ชั่วโมง หากเริ่มดูตอน 8 โมงเช้าก็ยาวไปถึง 11:00 น. แต่ดูแล้วต้องไม่ดูเปล่า หัดฟังจับใจความและพูดตามไปด้วย หรือจะจดประโยคที่น่าสนใจเก็บไว้ในสมุดด้วยก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ วิธีนี้ถือเป็นการฝึกความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษทั้งด้านการฟังและการพูด

11:00-12:30 ตะลุยโจทย์ Reading

หลังจากนั้นอีกสัก 1 ชั่วโมงครึ่ง ให้ไปตะลุยโจทย์ข้อสอบ Reading ควรเลือกตัวอย่างข้อสอบเก่าของประเภทข้อสอบนั้นๆ กล่าวคือถ้าจะติว SAT ก็หาข้อสอบเก่าของ SAT Reading มาฝึกหัด ถ้าจะฝึก IELTS ก็หาข้อสอบ IELTS มาทำ ไม่แนะนำให้เอาข้อสอบ Reading ภาษาอังกฤษทั่วไปมาฝึกหัด เพราะไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ข้อสอบทั่วไปอาจง่ายเกินไปที่จะฝึกหัด แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษ Reading สักหนึ่งชั่วโมงครึ่งหรือจะเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมงก็ได้ ตามความเหมาะสม จากนั้นพักสัก 1 ชั่วโมง ช่วง 12:30-13:30 น.

13:30-15:30 ตะลุยโจทย์ Writing

แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษช่วงบ่าย หลังพักเสร็จแล้ว มาลุยโจทย์ Writing กันต่อ ลองไปค้นหาพวกข้อสอบเก่า แล้วมาฝึกหัดทำ สำหรับข้อสอบ SAT Writing จะเน้น Grammar ก็ฝึก Grammar เยอะๆ แต่ถ้าเป็น IELTS ต้องฝึกการเขียนบรรยาย พยายามท่องศัพท์ยากที่อัพคะแนนได้เอาไว้มากๆ เป็นคลังศัพท์ติดตัว รวมถึงพวก Pattern การเขียนอธิบายในรูปแบบต่างๆ เช่น กราฟ ภาพวาด ฯลฯ

15:30-17:00 ตะลุยโจทย์ Listening

แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษช่วงบ่ายแก่ๆ ไปจนถึงช่วงเย็น แนะนำให้ไปตะลุยโจทย์ Listening ต่อ พวกแบบฝึกหัด ตามเว็บไซต์ศูนย์สอบจะมีไว้ให้ดาวน์โหลด เป็นตัวอย่างข้อสอบ ซึ่งผู้สอบสามารถหามาฝึกได้ รวมถึงพวกหนังสือติว เช่น IELTS Cambridge ที่มีไฟล์เสียงรองรับในเรื่องของการหัดทำทำข้อสอบ Listening จากนั้นพักรับประทานมื้อเย็นสัก 1 ชั่วโมง ช่วง 17:00-18:00 น.

18:00-19:00 น. ฟังข่าวภาษาอังกฤษ

แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษช่วงหัวค่ำ แนะนำให้ไปหาข่าวภาษาอังกฤษฟัง เพื่อสร้างความเคยชินกับสำเนียงภาษา สักประมาณ 1 ชั่วโมง ที่สำคัญบางครั้งการฟังข่าวอาจได้คำศัพท์ทางการด้วย นอกเหนือจากภาษาที่ใช้ในการสื่อสารทั่วไป

19:00-20:00 น. ฝึกพูดตามแบบฝึกหัด Speaking

แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษอีกสัก 1 ชั่วโมง มาฝึกหัดทำข้อสอบ Speaking เว็บศูนย์สอบมีคำถามไว้ให้ดาวน์โหลดอยู่ เป็นพวกคำถามที่เคยถามในห้องสอบจริง จากนั้นก็ลองเรียบเรียงว่าจะตอบอะไร ซึ่งในกรณีข้อสอบ IELTS อย่าคิดแค่ว่าจะตอบอะไร แต่ต้องมีเหตุผลประกอบ มีคำอธิบายเพิ่มเติม หรือการวิเคราะห์ในประเด็นนั้นประกอบด้วย ฝึกบ่อยๆ จะช่วยให้คล่องขึ้น

20:00-21:00 น. อ่านบทความทั่วไป ภาษาอังกฤษ

แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษ นอกจากตะลุยโจทย์แล้ว ลองมาหาบทความภาษาอังกฤษเบาสมองอ่านเพื่อสร้างความคุ้นเคยในภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบหรือสนใจก็ได้ ไม่ต้องคำนึงถึงการสอบมากสำหรับส่วนนี้ แต่เน้นเอาตัวเองไปคลุกคลีกับภาษาอังกฤษมากกว่า ก่อนจะเข้าสู่การพักผ่อนตามอัธยาศัยสัก 1 ชั่วโมง ไปจนถึง 22:00 น.

22:00-22:30 น. ท่องศัพท์ยากก่อนนอน

สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนแบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษ ด้วยการท่องคำศัพท์ยากก่อนนอน พวกศัพท์ Academic ที่สามารถอัพคะแนนได้ ควรท่องเก็บไว้ทุกคืนในช่วงก่อนสอบ นอกจากท่องแล้วเวลาฝึกหัดเขียนหรือพูด อย่าลืมดึงไปใช้ด้วย เพื่อช่วยให้จำได้ ใช้บ่อยๆ ให้ขึ้นใจก็เป็นเรื่องที่ดี อาจจะท่องสักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง

แนะนำให้แบ่งเวลา ติวภาษาอังกฤษต่อวันตามนี้ แล้วทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อทำต่อเนื่องไปสัก 4-5 วัน อาจสังเกตตัวเองว่าอ่อนตรงไหนแล้วปรับเปลี่ยนช่วงเวลาไปเพิ่มการติวส่วนนั้นได้ อาจลดเวลาบางส่วนลง เช่น การดูหนัง/ดูซีรีย์ แล้วไปเอาไปติวเพิ่มส่วนที่อ่อนให้มากขึ้น

★ Kru Jeab IELTS การันตี Band 7.0+ ★