พิชิตอังกฤษด้วยวิธีเหล่านี้ ทำต่อเนื่องเก่งอังกฤษใน 3 เดือน

พิชิตอังกฤษด้วยวิธีเหล่านี้ ทำต่อเนื่องเก่งอังกฤษใน 3 เดือน

ฝึกภาษาทั้งที ก็ต้องมีเทคนิคกันสักนิดหน่อย เพื่อให้การฝึกฝนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ต้องการอัพ Skill ด้านทักษะภาษาอังกฤษ ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ที่สำคัญต้องทำอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าภาษาอังกฤษดีขึ้นแน่นอน


 

1.ฝึกจากหนัง/ซีรีย์

แนะนำให้น้องๆ ที่กำลังจะเตรียมตัวสอบภาษา ฝึกภาษาอยู่บ้านด้วยการดูหนัง วิธีนี้ช่วยในเรื่องของการฟังได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าอยากจะหัดพูดด้วย ก็ให้พูดตามตัวละครไปเรื่อยๆ ทำสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น พยายามเลือกหนังหรือซีรีย์ที่ตัวเองชอบจะได้ดูได้ซ้ำๆ แบบไม่เบื่อด้วยนะคะ สำหรับทริคการฝึกภาษาจากหนังหรือซีรีย์ ได้แก่

 

1) ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

ตั้งโจทย์ว่าฝึกไปเพื่ออะไร อาทิ เพื่อท่องเที่ยว เพื่อสมัครงานบริษัทต่างชาติ เพื่อนำเสนองานในที่ประชุมกับเจ้านายต่างชาติ เพื่อสร้างสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์ต่างชาติ และอื่นๆ เพื่อเลือกหนังหรือซีรีย์ที่เหมาะสมค่ะ

2) เครื่องเขียนต้องพร้อม

ระหว่างดูการดำเนินไปของเรื่องราวที่ฉายบนจอ อาจมีเครื่องเขียนไว้ข้างๆ กาย เพื่อจดบันทึกบางคำ หรือบางวลีที่น่าสนใจเก็บไว้ ก็จะช่วยให้การฝึกภาษามีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ นอกจากเครื่องเขียนแนะนำ Dictionary ไว้ใกล้มือด้วยก็ดี

3) เวลาในการฝึกที่แนะนำ

ขอแนะนำเวลาในการฝึกภาษาเอาไว้ที่ 3-5 วัน/สัปดาห์ เวลาอาจจะอยู่ที่ 20-40 นาที/วัน วันไหนว่างเยอะหน่อยก็ดูให้จบตอนหรือจบเรื่องไปเลย ที่แนะนำคือต้องทำสม่ำเสมอนะคะ

4) เลือกประเภทหนัง/ซีรีย์ที่ตรงกับเป้าหมาย

โดยปกติแล้ว ซีรีย์หรือหนัง จะมีประเภทอยู่แล้ว แนะนำให้เลือกประเภทให้เหมาะกับจุดประสงค์ แต่ช่วงเริ่มต้น แนะนำให้ดูหนังเด็กๆ วัยรุ่น ซึ่งจะเป็นคำศัพท์ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เมื่ออยากอัพเวลก็ลองหันไปดูพวกหนังแนวคนทำงาน ตัวละครใช้ชีวิตในที่ทำงานเยอะๆ ก็จะช่วยให้ได้คำศัพท์ในการทำงานมากขึ้น หรือถ้าอยากได้ศัพท์แนวแพทย์ ก็ดูหนังที่ตัวละครอยู่ในแวดวงนั้น เป็นต้น

5) Step การเปิด Subtitle

ช่วงการฝึกเริ่มต้นให้เปิด Sub ภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องก่อน ต่อมาให้เปลี่ยนเป็น Sub อังกฤษ เพื่อเรียนคำศัพท์และฟังไปพร้อมๆ กัน สุดท้ายให้ปิด Sub ไปเลย เพื่อหัดฟังแบบตั้งใจ สามารถหัดพูดได้ด้วยการฝึกพูดตามไปด้วย

 

 

2.ฟังคลิปเสียง

คลิปเสียงอาจจะไม่ได้ประสิทธิภาพมากเท่ากับการดูหนังเพราะไม่เห็นภาพ แต่เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ต้องทำอย่างอื่นไปด้วย อย่างเช่นบางครั้งอาจต้องทำงานบ้านต่างๆ การเปิดคลิปเสียงภาษาอังกฤษทิ้งไว้ ก็เป็นเป็นการฝึกภาษาได้เช่นกัน โดยวิธีนี้จะช่วยในเรื่องของการฟัง แต่เพราะไม่ได้ดูภาพประกอบ อาจทำให้คาดเดาความหมายได้ยาก ทริคที่จะช่วยให้การฟังมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ

 

1) ต้องรู้ Topic ของเรื่องก่อน

เพื่อช่วยในการคาดเดาความหมายของคำศัพท์ ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า Topic ของเรื่องคืออะไร หรืออย่างน้อยๆ ก็ควรรู้ว่ากำลังฟังเนื้อหาประเภทไหน เช่น ข่าว เรื่องเล่า รายการเพลง และอื่นๆ หากรู้หัวข้อหรือประเภทของเนื้อหา ก็จะช่วยให้สามารถคาดเดาคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น

2) พยายามฟังคำพูดให้ออก

การฟังมีหลายประเภท มีทั้งการฟังแบบผ่านๆ เปิดให้มันมีเสียงเท่านั้น และฟังแบบตั้งใจ แต่ถ้าหากต้องการจะฝึกภาษา ขอแนะนำว่าควรจะพยายามฟังอย่างตั้งใจ หากทำอย่างอื่นไปด้วย ไม่สามารถตั้งใจฟังได้มาก อย่างน้อยๆ ก็ควรพยายามที่จะแยกแยะคำให้ออกว่าสิ่งที่ดังออกมาจากในคลิปเสียงนั้น พูดคำว่าอะไร อาจจะใช้วิธีจดบันทึกเก็บไว้หาความหมายต่อในภายหลังก็ได้ 

3) พยายามพูดตาม

เพื่อฝึกการออกเสียง ระหว่างที่ฟังคลิปเสียงให้พยายามพูดตามไปด้วย อาจจะไม่ต้องเป๊ะมากก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้เลียนเสียงและได้ฝึกสำเนียงไปพลางๆ 

4) ช่องทางแนะนำ

แนะนำให้เลือกฟังจากช่องทางที่มีเนื้อหาประเภท Poscast ให้เลือกฟัง อาทิ YouTube Spotify BBC CNN เป็นต้น 

 

 

3.อ่านข่าว/นิยาย

วิธีเบสิคที่สามารถทำที่บ้านได้ ก็คืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ช่วยให้ได้รับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังได้ทำความคุ้นเคยกับรูปประโยคมากขึ้นด้วย ทริคการฝึกภาษาจากการอ่าน ได้แก่

 

1) อ่านหนังสือง่ายๆ ช่วงเริ่มต้น

หากเป็นช่วงเริ่มต้น แนะนำให้หาหนังสือหรือบทความง่ายๆ อ่าน อาจจะเป็นหนังสือนิทาน หนังสือการ์ตูนง่ายๆ เน้นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน การพูดคุยด้วยภาษาง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

2) เริ่มอ่านหนังสือที่ยากขึ้น

เมื่อสกิลเพิ่มขึ้น แนะนำให้อ่านหนังสือที่ยากขึ้น เพื่อเรียนรู้พวกวลีและสำนวนที่ยากขึ้น แนะนำให้อ่านพวกบทความปรนะชาสัมพันธ์ บทความ How to เป็นต้น 

3) อ่านข่าวช่วยได้ดี

การอ่านข่าวถือเป็นการช่วยฝึกภาษาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากข่าวเป็นสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้คาดเดาคำศัพท์ได้ง่าย อย่างเช่นในช่วงเวลานี้ หากเลือกอ่านข่าว Covid 19 จะทำให้เข้าใจได้ง่าย ดีต่อการเรียนรู้คำศัพท์และรูปประโยค 

4) อ่านนิยายช่วยเรื่องสำนวน

การอ่านนิยายจะช่วยให้ได้เรียนรู้วลีและสำนวน เพราะนิยายจะมีทั้งประโยคการดำเนินเรื่อง การบรรยายฉาก หรือความรู้สึกของตัวละคร อีกทั้งยังมีบทสนทนา จึงเหมาะสำหรับการฝึกภาษาเช่นกัน 

5) จดบันทึกเสมอ

ระหว่างการอ่าน ควรจดบันทึกทั้งคำศัพท์ที่ไม่คุ้น และจดบันทึกพวกประโยคและสำนวนเอาไว้ เพื่อใช้ในการทบทวนเมื่อมีเวลาว่าง นอกจากนี้การจดบันทึกโดยเฉพาะประโยค ยังช่วยฝึกเขียนได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย พยายามเขียนบ่อยๆ เพื่อเป็นการทำความคุ้นเคยกับประโยคและสำนวนดังกล่าว ก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน 

 

 

4.หัดทำแบบฝึกหัด 

วิธีนี้ค่อนข้างเหมาะสำหรับคนที่กำลังจะเตรียมตัวไปสอบ โดยเฉพาะใน Part ของ Grammar สำหรับทริคการฝึกภาษาด้วยการหัดทำแบบฝึกหัด มีดังนี้

 

1) ฝึกจากแบบฝึกหัดพร้อมเฉลย

แบบฝึกหัดที่ใช้ควรมาพร้อมเฉลยละเอียด มีการอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมคำตอบถึงเป็นแบบนั้น เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น 

2) เลือกแบบฝึกหัดที่เชื่อถือได้

พยายามเลือกแบบฝึกหัดที่มีการการันตีด้วยองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่ทำหนังสือออกมา หรืออาจารย์ผู้เขียนหนังสือเล่มนั้น 

3) เลือกให้ตรงกับจุดประสงค์

ก่อนอื่นตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะฝึกภาษาไปทำอะไร หากจะฝึกไปสอบ ควรเลือกแบบฝึกหัดให้ตรงกับข้อสอบ เช่น TOEIC TOEFL IELTS SAT และอื่นๆ 

4) เนื้อหาครอบคลุม

การเลือกแบบฝึกหัด ควรเลือกที่มีเนื้อหาการฝึกฝนที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Verb, Tense, Phrase, Sentence และอื่นๆ หากมีพวกเทคนิคการทำข้อสอบด้วยจะดีมาก 

 

 

5.ติวจากวิดีโอ 

การติวช่วยอัพเกรดคะแนนสอบได้มาก แต่สถานการณ์แบบนี้ใครก็ไม่อยากออกจากบ้าน ถ้างั้นแนะนำให้ติวออนไลน์ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ 

 

1) ติวฟรี 

มีหลากหลายช่องทางที่เปิดให้ติวฟรี ทั้ง Channel บน YouTube หรือติวฟรีจากสถาบันสอนต่างๆ รวมถึงทางเพจของเราเปิดให้ติวฟรีทุกสัปดาห์เช่นกัน 

2) ติวแบบมีค่าใช้จ่าย

สำหรับเนื้อหาเชิงลึกและละเอียด หรือเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงเพื่อนำไปใช้ ก็มีหลายสถาบันเปิดให้บริการแบบออนไลน์เช่นกัน ข้อแนะนำสำหรับการเลือกใช้บริการ แนะนำให้อ่านรีวิวเยอะๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ควรเลือกอาจารย์ที่มีเทคนิคการสอนเหมาะกับการรับรู้ของผู้เรียนด้วย เพราะผู้เรียนแต่ละคนชอบสไตล์การติวที่แตกต่างกัน มีการรับรู้ไม่เหมือนกัน มีความเข้าใจต่างกัน ดังนั้นแนะนำให้ทดลองเรียนฟรีจากสถาบันต่างๆ ที่เปิดติวฟรีดูก่อน เพื่อประเมินสไตล์การสอนว่าเข้ากับเราหรือไม่ ที่สำคัญคือคอร์สติวต้องมีความน่าเชื่อถือ มีการการันตีผลลัพธ์ประกอบด้วย

 

✅ อยากเรียนต่อต่างประเทศ
✅ อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยดัง
✅ อยากสอบติด ม.ดัง ระดับโลก
✅ ต้องมีคะแนน IELTS ติดไว้

  • คอร์ส IELTS ครูเจี๊ยบติวจัดให้ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
  • ติวละเอียดรูปแบบข้อสอบทุกแบบที่ต้องเจอ ไม่ต้องเสียเวลางมเอง
  • เทคนิคการทำโจทย์แบบที่ต่างกันเช่น การทำโจทย์แบบ Yes/No/Not Given
  • วิธีเก็งคำตอบ และ pattern ในการเขียน และพูด
  • ตรวจ แนะนำงานเขียน (จากในคอร์ส) ฟรี!
  • ครูเจี๊ยบมีประสบการณ์ติว IELTS มายาวนานกว่า 20 ปี

 

ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย https://www.opendurian.com/ielts_fullcourse/
 

 

 

สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น

โทร : 098-281-3164




โดย Wowprae.m
สินค้าที่เกี่ยวข้อง