ข้อสอบ IELTS คืออะไร? สอบอะไรบ้าง? (ตัวอย่างข้อสอบ IELTS)
✦ข้อสอบ IELTS คืออะไร? สอบอะไรบ้าง?✦
ข้อสอบ IELTS นั้นจะมีรูปแบบที่หลากหลายมาก ไม่ใช่แค่แบบ "Multiple choices" แบบที่เราคุ้นเคยกัน แต่จะมีทั้งการเติมคำในประโยค แผนภาพ flowchart หรือตาราง และยังมีการจับคู่คำตอบด้วย ดังนั้นถ้าไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไป ก็มีโอกาสที่จะทำไม่ได้ ทำไม่ทันแน่ๆ บทความนี้จะพาไปดูรูปแบบของข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะกันค่ะ
สารบัญบทความ
รูปแบบข้อสอบ IELTS Listening
- Completing information/Labelling
- Multiple-choice questions
- Matching questions
- Sentence completion
- Short-answer questions
รูปแบบข้อสอบ IELTS Reading (Academic)
- Fill-in questions
- Short-answer questions
- Multiple-choice questions
- True/False/Not Given หรือ Yes/No/Not Given
- Matching questions
- Sentence completion
รูปแบบข้อสอบ IELTS Writing (Academic)
รูปแบบข้อสอบ IELTS Speaking
- ตัวอย่างคำถาม IELTS Speaking Part 1
- ตัวอย่างคำถาม IELTS Speaking Part 2
- ตัวอย่างคำถาม IELTS Speaking Part 3
✦IELTS LISTENING✦
จำนวนข้อ | นาที |
40 |
30 (+10 นาที สำหรับ transfer คำตอบ แบบ Paper-based) |
ข้อสอบ IELTS Listening นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 Parts ซึ่งเนื้อหาของแต่ละ part นั้นก็จะมีความยากง่าย เนื้อเรื่องต่างกันดังนี้
Part 1 |
บทสนทนา 2 คนคุยกัน หัวข้อเป็นเรื่องทั่วๆ ไป |
Part 2 |
บทพูดคนเดียว (monologue) หัวข้อเรื่องทั่วๆ ไป เช่นแนะนำ local facilities |
Part 3 |
บทสนทนาหลายคน (สูงสุด 4 คน) หัวข้อยากขึ้น เช่นการถกกันระหว่างอาจารย์ กับนักศึกษาในหัวข้อทางวิชาการ |
Part 4 |
บทพูดคนเดียว (monologue) หัวข้อทางวิชาการ เช่นการบรรยายในระดับมหาวิทยาลัย |
รูปแบบคำถามใน ข้อสอบ IELTS Listening
IELTS Listening สรุปให้เข้าใจง่ายๆ จะมีคำถามทั้งหมด 5 แบบ
1. Completing information/Labelling
รูปแบบนี้จะเป็นการเติมข้อมูล หรือใส่ข้อมูลในรูปภาพให้สมบูณ์ โดยจะมีทั้ง
-
Plan
แผนผังห้อง อาคารต่างๆ โดยให้ใส่ว่าจุดไหนเรียกว่าอะไร
-
Picture diagram
ไดอะแกรมของโครงสร้างเช่น พวกเครื่องจักร หรือกลไกการทำงานต่างๆ
-
Map
แผนที่เมือง ถนน
-
Form
ฟอร์มเช่น ฟอร์มการเช่ารถ ฟอร์มจองทัวร์ หรืออื่นๆ โดยจะเป็นการกรอกข้อมูลพวกชื่อ เบอร์โทร ระยะเวลา ราคา และอื่นๆ
-
Note
โน๊ตสรุปเนื้อหาเช่น เนื้อหาเป็นการบรรยายในมหาวิทยาลัย ตัวโน๊ตก็จะเป็นการสรุปเนื้อหาออกมาเป็น bullet points หรือสรุปข้อความเป็นข้อๆ
-
Table
ตารางสรุปข้อมูลต่างๆ
-
Flow-chart
ขั้นตอน กระบวนการต่างๆ ที่ชัดเจน
-
Summary
เนื้อหาสรุปส่วนมากจะเป็นการสรุปเนื้อหาจากบทบรรยายเชิงวิชาการ
รูปแบบหลายตัวเลือก ให้เลือกคำตอบ ซึ่งปกติเราจะชินว่าให้เลือกคำตอบเดียวเท่านั้นในข้อสอบส่วนใหญ่ แต่ใน IELTS นั้นจะมีทั้ง
- ให้เลือก 1 คำตอบ จาก 3 ตัวเลือก
- ให้เลือก 2 หรือ 3 คำตอบ จาก 5 ตัวเลือก
รูปแบบนี้เป็นการจับคู่ information เช่น
- ชื่อคน กับ ideas
- ประเภทหัวข้อ กับ ข้อมูล
- โครงสร้างเครื่องจักร กับ ชื่อเรียกส่วนประกอบ
เป็นการเติมคำลงในประโยคให้สมบูรณ์ โดยอิงจากสิ่งที่ได้ยินในเนื้อหา
รูปแบบนี้จะเป็นคำถามสั้นๆ แล้วให้เขียนตอบ (ส่วนมากไม่เกิน 3 คำ และตัวเลข) โดยคำถามมักจะเป็นการถามรายละเอียดต่างๆ
✦IELTS READING✦
สำหรับข้อสอบ IELTS Reading แบบ Academic นั้น จะมีทั้งหมด 3 passages (ซึ่งแต่ละอันยาวมาก) มาพร้อมกับรูปแบบคำถามที่หลากหลายเหมือนกับคำถามในส่วน Listening และมีเวลาให้ 60 นาที กับคำถาม 40 ข้อ
ข้อสอบ IELTS Reading วัดอะไร?
IELTS Reading นั้นจะเป็นการวัดทักษะการอ่านหลายๆ รูปแบบเช่น
- การอ่านเพื่อหาแก่นของเรื่อง
- การอ่านเพื่อหาใจความ
- การอ่านเพื่อหาข้อมูล รายละเอียด
- ทักษะการอ่านแบบ Skimming (รู้ว่าต้องมองหาคำตอบที่ตรงไหน ไม่ได้อ่านทั้งหมดทีละบรรทัด)
- การอ่านเพื่อหาความรู้สึก ความคิดเห็น จุดประสงค์ของผู้เขียน
รูปแบบคำถามใน ข้อสอบ IELTS Reading
เป็นการเติมคำลงในช่องว่าง ตารางต่างๆ โดยจะมีรูปแบบย่อยๆ อีกเช่น
-
summary (เติมคำในบทสรุปเนื้อหาย่อ)
-
note (เติมคำลงในสรุปโน๊ตจากเรื่อง)
-
table (เติมคำลงในตาราง)
-
flow-chart (เติมคำลงในภาพขั้นตอน กระบวนการต่างๆ)
- diagram (เติมคำลงในภาพ ชี้ส่วนประกอบต่างๆ เช่นเครื่องจักร อุปกรณ์บางส่วน)
เป็นคำถามสั้นๆ ให้ตอบคำถาม โดยส่วนมากจะเป็นพวกรายละเอียดต่างๆ โดยให้เราหาคำจาก text ที่อ่านมาเติม ซึ่งต้องอ่านคำสั่งดีๆ เช่นกันว่าให้เติมได้กี่คำ
- เลือก 1 คำตอบ จาก 4 ตัวเลือก
- เลือก 2 คำตอบ จาก 5 ตัวเลือก
- เลือก 3 คำตอบ จาก 7 ตัวเลือก
4. True/False/Not Given หรือ Yes/No/Not Given
รูปแบบนี้ โจทย์จะให้ประโยค (Statements) มา แล้วให้เราเลือกว่าข้อมูลไหนที่เป็นความจริง ไม่จริง หรือไม่มีข้อมูลระบุ ซึ่งต้องอิงจากเนื้อหาที่เราอ่าน
หรืออีกแบบคือให้ข้อมูลมา แล้วให้เลือกว่าตรง หรือไม่ตรงกับ Views/Claims ของผู้เขียน หรือว่าไม่ได้ระบุ
-
information (ให้ข้อมูลมา กับตัวอักษรกำกับ paragraphs ให้เลือกว่าข้อมูลนี้อยู่ใน paragraph ไหน)
-
headings (จับคู่หัวเรื่องกับ paragraph ซึ่งหัวเรื่องก็คือ main ideas ของแต่ละ paragraph นั่นเอง)
-
features (มี list ชื่อ กับข้อมูลมาให้เช่น ชื่อนักวิทยาศาสตร์ ให้จับคู่กับข้อมูล)
-
sentence endings (มีส่วนหนึ่งของประโยคมาให้ และตัวเลือกจะเป็นส่วนท้าย ให้จับคู่เพื่อให้แต่ละประโยคสมบูรณ์)
เติมคำลงในประโยคเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ โดยต้องอ่านคำสั่งดีๆ ว่าให้เติมไม่เกินกี่คำ เช่น
- ‘NO MORE THAN THREE WORDS AND/OR A NUMBER from the passage’
- ‘ONE WORD ONLY’ or ‘NO MORE THAN TWO WORDS’
✦IELTS WRITING✦
IELTS Writing Task 1 (150 words)
ในการเขียน IELTS Writing Task 1 (Academic) นั้น ควรใช้เวลา ไม่เกิน 20 นาทีเพราะควรแบ่งเวลาไปโฟกัสกับ Task 2 ที่ต้องเขียนยาวกว่า และสัดส่วนคะแนนก็มากกว่าด้วย
IELTS Writing Task 1 นั้นมีลักษณะดังนี้
- ให้ภาพกราฟ ชาร์ท หรือตารางข้อมูล และตัวเลข เพื่อให้เขียนบรรยายตามข้อมูลที่เห็น
- หรืออาจเป็นภาพไดอะแกรมของเครื่องจักร อุปกรณ์ หรือกระบวนการ และให้เขียนบรรยายการใช้งาน
- ให้เขียนถึงภาพรวม และ main features ของข้อมูล รวมถึง points อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- อาจจะไม่ต้องเขียน points เล็ก หรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด ให้เลือกเขียนถึงข้อมูลที่เห็นได้ชัด และสำคัญที่สุด
ตัวอย่างโจทย์ Writing Task 1
☛ ตัวอย่างโจทย์ IELTS Writing Task 1 พร้อมคำตอบ
IELTS Writing Task 2 (250 words)
ส่วนนี้โจทย์จะเป็นการให้ประเด็นมา Task นี้ควรใช้เวลา ไม่เกิน 40 นาที โจทย์จะบอกชัดเจนว่าให้เราเขียนแสดงอะไรเช่น
- Discuss both these views and give your own opinion. (เขียนถึงทั้งสองไอเดียที่ให้มา พร้อมแสดงความเห็นตัวเอง)
- To what extent do you agree or disagree with this opinion? (ต้องเลือกว่าเห็นด้วยหรือไม่ พร้อมให้เหตุผล)
- causes/effects/solutions (ให้เขียนถึงสาเหตุ ผล หรือวิธีการแก้ปัญหาจากโจทย์)
- answer questions (เขียนเพื่อตอบคำถาม)
ตัวอย่างโจทย์ Writing Task 2
ในส่วนของ IELTS Writing นั้น นอกจากต้องเขียนให้ได้ตามจำนวนคำที่กำหนดแล้ว ยังต้องคำนึงถึง
- ความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กันของคำตอบกับสิ่งที่โจทย์ถามหรือต้องการ
- ต้องเขียนเป็นประโยคเต็มๆ ห้ามเขียนแบบเป็น bullet points หรือเป็น note
- หากคำตอบที่เขียนไป หลุดประเด็น หรือไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โจทย์ถาม ก็จะถูกตัดคะแนน (ถึงแม้ว่าจะเขียนถูกหลักไวยากรณ์ และใช้โครงสร้างได้ดีก็ตาม)
✦IELTS SPEAKING✦
Speaking Section จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที นี้จะวัดการใช้ภาษาพูด โดยผู้สอบจะได้รับการทดสอบจากกรรมการที่เป็นเจ้าของภาษา ที่จะเป็นคนถามคำถาม และทำการทดสอบ Speaking Skill ของเรา โดยการสอบจะแบ่งเป็น 3 พาร์ทที่ต่อเนื่องกันคือ
Part 1 |
Introduction and interview: จะเริ่มถามจากเรื่องทั่วไปเช่น ครอบครัว, งาน, การเรียน, หรือความชอบส่วนตัว (พาร์ทนี้ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที) |
Part 2 |
Long turn: ผู้สอบจะได้รับการ์ดคำถามที่มีหัวข้อกำหนดมาให้ มีเวลาเตรียมตัว 1 นาที และต้องพูดเกี่ยวกับหัวข้อที่ได้มาเป็นเวลา 2 นาที |
Part 3 |
Discuss: กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติมจากหัวข้อที่ให้มาใน Part 2 โดยลักษณะคำถามจะเกี่ยวข้องกับไอเดีย ความคิดเห็น เพื่อทดสอบการพูดในเชิงนามธรรมมากขึ้น ตอบคำถามในเชิงลึกขึ้น (พาร์ทนี้ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที) |
ตัวอย่างคำถามใน IELTS Speaking Part 1
Hometown (บ้านเกิด)
I’d just like to ask you some questions about your hometown.
- Where is your hometown?
(บ้านเกิดคุณอยู่ที่ไหน) - What was it like growing up there?
(คุณเติบโตที่นั่น มันเป็นอย่างไรบ้าง) - Has it changed much since you were a child?
(มันเปลี่ยนไปเยอะไหม ตั้งแต่ตอนคุณยังเด็ก) - What do you like most about living there?
(คุณชอบอะไรที่สุด ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น) - What kinds of things can visitors to your hometown go and see?
(นักท่องเที่ยวชอบไปที่ไหน หรือเยี่ยมชมอะไรบ้าง เมื่อไปที่บ้านเกิดของคุณ) - Do you think you will live there when you are older?
(คุณคิดว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่นั่นไหม หากคุณอายุมากขึ้น)
Studies (การเรียน)
I’d just like to ask you some questions about your studies.
- What are you studying?
(คุณกำลังเรียนด้านไหนอยู่) - Why did you choose that particular course?
(ทำไมถึงเลือกเรียนวิชานั้น/สาขานั้น) - What is your favourite subject?
(วิชาโปรดของคุณคืออะไร) - Are you friends with many other students on your course?
(คุณมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันเยอะไหม) - What job would you like when you have completed all your studies?
(ถ้าเรียนจบแล้ว อยากทำงานประเภทไหน) - Will you have to do further studies in the future?
(ในอนาคต คุณต้องเรียนต่อไหม)
ตัวอย่างคำถามใน IELTS Speaking Part 2
Sport and Exercise (กีฬา และการออกกำลังกาย)
Describe a type of exercise that you like to do. (อธิบายการออกกำลังกายที่คุณอยากทำ)
You should say:
- What the exercise is (อยากลองออกกำลังกายอะไร)
- When you do it (ทำเมื่อไร)
- Where you do it (ทำที่ไหน)
Explain why you like this particular exercise. (อธิบายว่าทำไมถึงชอบการออกกำลังกายประเภทนี้)
Travel (การท่องเที่ยว)
Describe a country you would like to visit in the future that you haven't been to yet.
(อธิบายประเทศที่คุณไม่เคยไป และอยากไปเที่ยวในอนาคต)
You should say:
- Which country it is (ประเทศไหน)
- Where it is located in the world (อยู่ส่วนไหนของโลก)
- What you could see there (จะได้เห็นอะไรบ้างที่นั่น)
Explain why this country is would be such a good place to visit. (อธิบายว่าทำไมถึงอยากจะไปประเทศนั้นๆ และเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยวเพราะอะไร)
ตัวอย่างคำถามใน IELTS Speaking Part 3
Transport (การขนส่ง)
- How do most people travel long distances in your country?
(คนส่วนใหญ่ในประเทศของคุณเดินทางไกลๆ ด้วยวิธีไหน) - Have the types of transport people use changed much over the last few decades?
(วิธีการเดินทางของผู้คนเปลี่ยนไปเยอะไหม ในช่วงยี่สิบ สามสิบปีที่ผ่านมา) - What kinds of improvement have there been in transport in your country in recent years?
(ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในประเทศของคุณมีการพัฒนาด้านระบบขนส่งอะไรบ้าง) - Do you think transport is likely to continue to improve in the future?
(คุณคิดว่าระบบขนส่งน่าจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไหมในอนาคต)
Education (การศึกษา)
- How are education priorities today different from those in the past?
(ลำดับความสำคัญด้านการศึกษาในปัจจุบัน แตกต่างจากในอดีตอย่างไร) - What is your opinion on the way languages are taught in schools?
(คุณมีความเห็นอย่างไรถึงวิธีการสอนภาษาในโรงเรียน) - How can the type of school you go to affect career success?
(ประเภทของโรงเรียนที่คุณเข้าเรียนมีผลกับความสำเร็จด้านอาชีพการงานในอนาคตอย่างไรบ้าง) - What changes do you think will happen in the classroom in the near future?
(การเปลี่ยนแปลงอะไรที่คุณคิดว่าจะเกิดขึ้นในห้องเรียน ในอนาคตอันใกล้นี้)
★ Kru Jeab IELTS การันตี Band 7.0+ ★
ติว IELTS Online ครบทุกทักษะ เนื้อหาครบ เทคนิคเพียบ เก็งโจทย์แม่น!
★ ติว IELTS ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
★ ติวจากพื้นฐาน เจาะลึกข้อสอบทุกพาร์ท โจทย์ทุกแบบ
★ ตะลุยแนวข้อสอบเหมือนจริง เฉลยโดยครูเจี๊ยบ
★ การันตี 7.0+ (ไม่ถึงสามารถทวนคอร์สได้)
★ เรียนแบบ Online ไม่ต้องเดินทางไปไหน
สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น
โทร : 098-281-3164
ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย
คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ติวสอบ IELTS ครบ 4 ทักษะ (Listening/Reading/Writing/Speaking)
คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ Kru Jeab IELTS 4 Skills
ติว Grammar ครบ! เพื่อการสอบ กับครูเจี๊ยบประสบการณ์ติวกว่า 25 ปี