วิธีสมัครสอบ IELTS (IDP) และ (British Council)
วิธีสมัครสอบ IELTS
★IELTS Academic vs General Training ต่างกันยังไง?
ก่อนอื่นต้องดูที่จุดประสงค์ของเราว่าต้องการ คะแนน IELTS ไปใช้ “ทำอะไร” เช่นเรียนต่อในระดับปริญญาตรีขึ้นไป หรือต้องการสอบเพื่อนำผลคะแนนไปยื่นย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เป็นต้น **ทั้งนี้ให้ตรวจสอบกับสถาบัน องค์กร หรือหน่วยงานที่ต้องการสมัครหรือยื่นเอกสารให้ดี ว่าต้องใช้คะแนน IELTS แบบไหน
ลองดูสรุปความแตกต่างระหว่าง IELTS Academic และ IELTS General Training ได้จากตารางด้านล่างเลยค่ะ
IELTS Academic | IELTS General Training |
• สำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ (ตรี/โท/เอก) • สำหรับทำงาน ที่ต้องการทักษะภาษาขั้นสูง |
• สำหรับศึกษาต่อต่างประเทศในระดับที่ต่ำกว่าปริญญา • สำหรับย้ายถิ่นฐานไปประเทศออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และอังกฤษ |
ความแตกต่างของข้อสอบ LISTENING | |
**เหมือนกันทั้ง Academic – General** 30 นาที/40 ข้อ] มีทั้งหมด 4 sections Section 1: บทสนทนาระหว่าง 2 คน เนื้อเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน Section 2: บทพูด 1 คน เกี่ยวกับเรื่องทั่วไปเช่น แนะนำศูนย์กีฬาในชุมชน Section 3: บทสนทนาสูงสุด 4 คน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาหรือการฝึกอบรมต่างๆ เช่นถกเรื่องรายงานที่อาจารย์สั่ง Section 4: บทพูด 1 คน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเรื่องวิชาการเช่น เล็คเชอร์ในมหาวิทยาลัย |
**เหมือนกันทั้ง Academic – General** 30 นาที/40 ข้อ] มีทั้งหมด 4 sections Section 1: บทสนทนาระหว่าง 2 คน เนื้อเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน Section 2: บทพูด 1 คน เกี่ยวกับเรื่องทั่วไปเช่น แนะนำศูนย์กีฬาในชุมชน Section 3: บทสนทนาสูงสุด 4 คน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาหรือการฝึกอบรมต่างๆ เช่นถกเรื่องรายงานที่อาจารย์สั่ง Section 4: บทพูด 1 คน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเรื่องวิชาการเช่น เล็คเชอร์ในมหาวิทยาลัย |
ความแตกต่างของข้อสอบ READING | |
60 นาที/40 ข้อ] 3 บทความทางวิชาการ หัวข้อหลากหลายเช่น วิทยาศาสตร์, ธรรมชาติ, ประวัติศาสตร์, การท่องเที่ยว, เศรษฐกิจ เป็นต้น โดยโจทย์ทั้ง 40 ข้อจะมีลักษณะที่ต่างกันออกไปคือ 1. Multiple Choice 2. True/False/Not Given หรือ Yes/No/Not Given 3. Fill-in 4. Short-answer 5. Matching 6. Sentence Completion ระดับเนื้อหา และความยาวของบทความจะยาว และยากกว่าแบบ General Training |
Section 1: ‘Social Survival’ เป็นบทความสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องในชีวิตประจำวันเช่น ประกาศ, ใบโฆษณา, ตารางข้อมูลต่างๆ Section 2: ‘Workplace Survival’ บทความจะเกี่ยวข้องกับบริบทการทำงานมากขึ้นเช่น ข้อมูลตำแหน่งงาน, ข้อมูลเกี่ยวกับการอบรมพนักงาน Section 3: ‘General Reading’ ใน section นี้บทความจะยาวที่สุด โดยเนื้อเรื่องจะกว้างขึ้น ระดับภาษายากขึ้น |
ความแตกต่างของข้อสอบ WRITING | |
Task 1 (150 words): บรรยาย graph, chart, diagram โดยควรใช้เวลาประมาณ 20 นาทีสำหรับงานเขียนชิ้นนี้ ลักษณะการเขียนคือเขียนตามข้อมูลที่เห็น เปรียบเทียบข้อมูล หรือบรรยาย trend หรือการทำงานของระบบ Task 2 (250 words): โจทย์จะตั้งหัวข้อมาให้ เพื่อให้เราเขียนแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่โจทย์ให้มา โดยจะมีทั้งเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย, ให้อภิปรายทั้งสองมุมแล้วแสดงความเห็น, แสดงความเห็นในการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นต้นชิ้นนี้ควรเผื่อเวลาประมาณ 40 นาทีในการเขียน |
Task 1 (150 words): โจทย์จะให้สถานการณ์สมมติมา ให้เราเขียนจดหมายตอบโต้ โดยอาจเป็นได้ทั้งเขียนแบบไม่เป็นทางการ, กึ่งทางการ, แบบทางการ เช่นเขียนจดหมายหาเจ้าหน้าที่หอพักถึงปัญหาห้องพักของมหาวิทยาลัย หรือเขียนจดหมายเพื่อแนะนำบุคคลในชุชมที่ควรได้รับรางวัล เป็นต้น Task 2 (250 words): โจทย์จะตั้งหัวข้อเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ให้เราเขียนแสดงความคิดเห็น แสดงวิธีการแก้ปัญหา หรืออภิปรายมุมมองต่างๆ หัวข้อเช่น กิจกรรมสันทนาการของเด็ก ควรบรรจุการการเรียนของโรงเรียนไหม เป็นต้น |
ความแตกต่างของข้อสอบ SPEAKING | |
**เหมือนกันทั้ง Academic – General** Part 1: เป็นการถามเรื่องส่วนตัว ทั่วๆ ไปเช่นครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน เพื่อน สิ่งที่ชอบ Part 2: จะได้รับ card ที่เป็นคำถาม พร้อมประเด็นให้พูด โดยให้เวลาเตรียมตัว 1 นาที และพูดอีก 2 นาที Part 3: กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่เราได้จาก Part 2 ซึ่งคำถามในพาร์ทนี้จะเป็นแนวให้พูดถึงความคิดเห็น ไอเดีย (คือเป็นคำตอบที่นามธรรมมากขึ้น) |
**เหมือนกันทั้ง Academic – General** Part 1: เป็นการถามเรื่องส่วนตัว ทั่วๆ ไปเช่นครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน เพื่อน สิ่งที่ชอบ Part 2: จะได้รับ card ที่เป็นคำถาม พร้อมประเด็นให้พูด โดยให้เวลาเตรียมตัว 1 นาที และพูดอีก 2 นาที Part 3: กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่เราได้จาก Part 2 ซึ่งคำถามในพาร์ทนี้จะเป็นแนวให้พูดถึงความคิดเห็น ไอเดีย (คือเป็นคำตอบที่นามธรรมมากขึ้น) |
★สอบ IELTS แบบ Paper หรือ Computer
ปัจจุบันการสอบ IELTS นั้นเราสามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบ 'กระดาษ' (IELTS Paper-based) หรือแบบ 'คอมพิวเตอร์' (IELTS Computer-Delivered) โดยการสอบทั้งสองแบบนั้น รูปแบบข้อสอบ และระดับความยาก-ง่ายของเนื้อหาจะเหมือนกัน และการสอบส่วน IELTS Speaking นั้นจะยังสอบกับ IELTS Examiner เหมือนเดิม (สอบพูดกับคน ไม่ใช่คอมพิวเตอร์)
แล้วเราควรจะเลือกสอบแบบไหนดีกว่ากัน?
คำตอบคือขึ้นอยู่กับความถนัด และสะดวกของแต่ละคน เช่นบางคนถนัดอ่าน และเขียนบนกระดาษ ก็เลือกสอบ Paper-based ดีกว่า แต่ถ้าใครถนัดพิมพ์มากกว่า การสอบ Computer-Delivered ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ ทั้งนี้สถานที่สอบ และรอบสอบของทั้งสองแบบจะแตกต่างกันออกไปด้วย ลองดูสรุปข้อมูลความแตกต่างระหว่าง IELTS Paper-based กับ IELTS Computer-Delivered ได้ด้านล่างเลยค่ะ
IELTS Paper-based |
IELTS Computer-Delivered |
1.Listening/Reading/Writing *Speaking สอบกับกรรมการ (face-to-face) |
1.Listening/Reading/Writing *Speaking สอบกับกรรมการ (face-to-face) |
2. Listening มีเวลา 30+10 นาที - 30 นาที สำหรับการทำข้อสอบ |
2. Listening มีเวลา 30+2 นาที - 30 นาที สำหรับทำข้อสอบ *มีกระดาษเปล่า ดินสอ ยางลบให้ |
3. Reading ทำบนกระดาษ - แยกเป็นกระดาษคำถาม และกระดาษคำตอบ |
3. Reading ทำบนคอมพิวเตอร์ - หน้าจอจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง บทความอยู่ซ้าย ส่วนทางขวาจะเป็นโจทย์ที่ต้องทำ *มีกระดาษเปล่า ดินสอ ยางลบให้ |
4. Writing ทำบนกระดาษ - ต้องนับคำเอง (ให้ครบตามจำนวนที่กำหนด) |
4. Writing ทำบนคอมพิวเตอร์ - เหมาะกับคนถนัดพิมพ์ *มีกระดาษเปล่า ดินสอ ยางลบให้ |
5. รอบสอบน้อยกว่าแบบ Computer - ต้องวางแผนจองรอบสอบให้ดี |
5. รอบสอบมากกว่าแบบ Paper-based - เปิดสอบเกือบทั้งเดือน (ทั้ง British Council และ IDP) |
6. รับผลคะแนนภายใน 14 วัน |
6. ผลคะแนนออกเร็วกว่า (ภายใน 5 วัน) |
7. ศูนย์สอบ IELTS Paper-based IDP - Westminster (อโศก) British Council - โรงแรม Landmark *ขึ้นอยู่กับรอบสอบที่เลือก และตรวจสอบให้ดีว่าการสอบ Speaking นั้นอยู่ที่เดียวกันหรือคนละสถานที่ |
7. ศูนย์สอบ IELTS Computer-Delivered IDP - CP Tower ชั้น 4 British Council - จามจุรี แสควร์ ชั้น 24 |
8. ค่าสอบ IELTS Papaer-based IDP: 7,100 บาท |
8. ค่าสอบ IELTS Computer-Delivered IDP: 7,100 บาท |
เครื่องเขียนในการสอบ IELTS
สำหรับเรื่องอุปกรณ์เครื่องเขียนนั้น ผู้สอบจะไม่สามารถนำเครื่องเขียนของตัวเองเข้าห้องสอบได้ โดยทางศูนยสอบจะมีเตรียมไว้ให้ค่ะ (ดินสอ และยางลบ) ผู้สอบจะต้องใช้เครื่องเขียนที่ศูนย์สอบเตรียมไว้ให้เท่านั้นนะคะ
★ วิธีสมัครสอบ IELTS
วิธีการสมัครสอบ IELTS กับ IDP (Paper-based: 7,200 บาท / Computer-Delivered: 7,500 บาท)
1. เข้าเว็บไซต์ https://my.ieltsessentials.com/ เพื่อสมัคร
2. เลือกประเภทการสอบ IELTS ที่ต้องการ
ฝั่งซ้ายจะเป็น IELTS Regular (มีทั้ง Academic – General) ฝั่งขวาสำหรับ IELTS for UKVI (มีทั้ง Academic - General)
*ถ้ามหาวิทยาลัย หน่วยงาน องค์กรที่เราจะยื่นคะแนน ไม่ได้ require UKVI โดยเฉพาะ ก็เลือกแบบ Regular ได้เลย
3. เลือกข้อมูลตามที่ขึ้นบนหน้าจอ
เลือกประเทศ จังหวัด ประเภทข้อสอบ (Academic – General) และหากต้องการความช่วยเหลือในการสอบ (สำหรับผู้พิการ) ให้เลือกข้อมูลด้วย ถ้าไม่มีปล่อยไว้ให้เป็น None
4. เลือกสถานที่สอบที่ต้องการ
ถ้าต้องการสอบแบบ Computer-Delivered ให้ดูสัญลักษณ์ด้านหลังที่เป็นสีแดง (รูปคอมพิวเตอร์) ซึ่งของ IDP การสอบแบบคอมพิวเตอร์จะสอบที่อาคาร CP Tower
5. เลือกรอบสอบ Listening/Reading/Writing
ปกติในแต่ละวันจะมีรอบสอบ 2 รอบคือ 9:00 AM และ 2:00 PM พอเลือกแล้วจะมีขึ้นสรุปรายละเอียดการสอบที่เราเลือกไป (รอบสอบ Speaking จะเลือกแยกต่างหากในหน้าถัดไป)
6. เลือกรอบสอบ Speaking
ให้เลือกรอบสอบ Speaking ที่ต้องการ *ให้สังเกตด้านบนจะมีบอกว่าให้มาถึงศูนย์สอบไม่เกินกี่โมง (เช่นเลือกรอบบ่ายสอง ควรไปถึงไม่เกินบ่ายโมงครึ่ง)
7. สร้าง account
พอเลือกรอบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้เราสร้าง account โดยให้กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ก่อนจะไปในขั้นตอนการชำระเงินค่าสอบต่อไป
วิธีการสมัครสอบ IELTS (British Council)
British Council (Paper-based: 6,900 บาท / Computer-Delivered: 6,900 บาท)
- การสมัครสอบแบบ Computer-Delivered
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ieltsregistration.britishcouncil.org/test-chooser
2. เลือกประเภทของ IELTS ที่ต้องการสอบ (Academic หรือ General Training)
3. เลือกประเทศ และเดือนที่ต้องการสอบ
4. เลือกจังหวัด และศูนย์สอบ
ซึ่งถ้าเป็นการสอบแบบ Computer-Delivered ก็จะมีศูนย์สอบเฉพาะที่กรุงเทพ (จามจุรี แสควร์ ชั้น 24)
5. เลือกวันสอบ และรอบเวลาสอบ
6. เลือกรอบสอบ Speaking
หน้านี้จะขึ้นสรุปข้อมูลการสอบของเรา (ที่เลือกไป) พร้อมให้เลือกรอบสอบ Speaking (ซึ่งอาจจะเป็นวันเดียวกัน หรือคนละวันกัน ตามที่รอบสอบมีเปิด)
7. สร้าง account เพื่อไปชำระเงินค่าสอบต่อไป
หลังว่าจะหายสงสัยกันแล้วนะคะว่า การสอบ IELTS คืออะไร? สอบไปทำไม และถ้าใครที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่ (โดยเฉพาะแบบ Academic) สามารถทดลองเรียนฟรีกับ ครูเจี๊ยบ IELTS ได้นะคะ
★ Kru Jeab IELTS การันตี Band 7.0+ ★
ติว IELTS Online ครบทุกทักษะ เนื้อหาครบ เทคนิคเพียบ เก็งโจทย์แม่น!
★ ติว IELTS ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
★ ติวจากพื้นฐาน เจาะลึกข้อสอบทุกพาร์ท โจทย์ทุกแบบ
★ ตะลุยแนวข้อสอบเหมือนจริง เฉลยโดยครูเจี๊ยบ
★ การันตี 7.0+ (ไม่ถึงสามารถทวนคอร์สได้)
★ เรียนแบบ Online ไม่ต้องเดินทางไปไหน
★ บริการตรวจการบ้าน Writing ฟรี 2 Tasks (จากในคอร์ส)
คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ ติวสอบ IELTS ครบ 4 ทักษะ (Listening/Reading/Writing/Speaking)
คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ Kru Jeab IELTS 4 Skills
ติว Grammar ครบ! เพื่อการสอบ กับครูเจี๊ยบประสบการณ์ติวกว่า 25 ปี
คอร์สติว SAT ออนไลน์ ติวเข้ม เนื้อหาแน่น เทคนิคเพียบ เตรียมตัวเข้าคณะอินเตอร์ในฝัน! โดยสุดยอดอาจารย์คุณภาพมากประสบการณ์ เรียน SAT ที่นี่ที่เดียวจบ มีครบทุกทักษะ การันตีคะแนนไม่ถึงเรียนซ้ำไม่อั้น!