ส่งลูกเรียนต่างประเทศ/ภาคอินเตอร์ดียังไง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การศึกษาในต่างประเทศและภาคอินเตอร์เป็นอีกหนึ่งความฝันของเด็กๆ รวมถึงพ่อแม่ที่อยากส่งลูกเรียนต่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ดี และมีโอกาสในชีวิตหลายๆ ด้าน บทความนี้จึงถือโอกาสรวบรวมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศและภาคอินเตอร์มาฝาก ในเรื่องของข้อดีและการเตรียมตัว

ส่งลูกเรียนต่างประเทศ/ภาคอินเตอร์
ดียังไง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เรียนต่ออินเตอร์ดียังไง?

ก่อนไปที่เนื้อหาการส่งลูกเรียนต่างประเทศ ขอเริ่มที่การส่งลูกเรียนอินเตอร์ก่อน เป็นอีกหนึ่งแนวทางดีๆ ที่พ่อแม่หลายๆ คนสนใจ ไปดูข้อดีพร้อมๆ กันได้เลยว่า ส่งลูกเรียนอินเตอร์ดียังไง รวมถึงเด็กๆ ทั้งหลายที่สนใจ ก็สามารถศึกษาไว้พิจารณาเพื่อเลือกแผนเรียนได้

1. ภาษาอังกฤษแข็งแรงกว่าภาคภาษาไทย

การเรียนภาคอินเตอร์ทำให้ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เริ่มต้นที่การฟังเพราะอาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษ ตามด้วยการอ่านเพราะเอกสารและตำราเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด สังคมแวดล้อมมีโอกาสได้เจอเพื่อนต่างชาติ นักเรียนแลกเปลี่ยน ช่วยเพิ่มโอกาสการใช้ภาษาอังกฤษที่เข้มข้นขึ้น ไม่เพียงแต่การใช้ภาษาในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาษาอังกฤษในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร เช่น ภาษาอังกฤษสำหรับแพทย์ ภาษาอังกฤษในแวดวงเศรษฐศาสตร์ ภาษาอังกฤษในแวดวงบัญชี เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานในอนาคต

2. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

การได้เรียนร่วมกับนักเรียนต่างชาติ (Exchange Student) มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แนวคิด และมุมมองต่างๆ ระหว่างกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ ทำให้ได้มุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม เปิดโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น ส่งผลต่อทัศนคติ ความคิด และช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ ได้มากกว่า

3. สร้าง Connection

ในแง่ของการสร้าง Connection หากเรียนหลักสูตรอินเตอร์ จะช่วยให้มีโอกาสเพิ่ม Connection ในแวดวงของคนทำงานในบริษัทต่างชาติ รวมถึงการทำงานต่างประเทศ ซึ่งดีต่อการทำงานในอนาคต ช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน ได้รู้แนวทางและข่าวสารการรับสมัครก่อนคนอื่น

4. เพิ่มโอกาสการสมัครงาน

การเรียนจบจากหลักสูตรอินเตอร์ เมื่อถึงคราวต้องหางานย่อมได้เปรียบมากกว่าคนที่เรียนจบหลักสูตรภาษาไทย ต่อให้นักเรียนคนนั้นมีความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ดี มีเกรดเฉลี่ยนภาษาอังกฤษดี แต่เมื่อต้องแข่งขันกับคนที่เรียนจบหลักสูตรอินเตอร์ คนที่เรียนอินเตอร์ก็ย่อมได้เปรียบกว่า เพราะประสบการณ์แข็งแรงกว่า มีการใช้ภาษาอังกฤษในความถี่สูงกว่า คุ้นเคยกับสำนวนภาษา การอ่านและเขียนเอกสารมากกว่า ก็ย่อมมีโอกาสในการได้งานมากกว่า

5. โอกาสเรียนต่อ/ทำงานต่างประเทศสูง

การเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ ย่อมได้เปรียบเมื่อต้องชิงทุนไปเรียนต่อ หรือแม้แต่โอกาสการสมัครเข้าทำงานในต่างประเทศผ่านโครงการต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่เรียนจบมาจากหลักสูตรภาษาอังกฤษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เชี่ยวชาญมากกว่าคนที่เรียนจบมาจากหลักสูตรภาษาไทย

การเตรียมตัวเรียนต่อภาคอินเตอร์

สำหรับคนที่สนใจเรียนภาคอินเตอร์ ก็ต้องเตรียมตัวเรียนต่อ โดยเฉพาะในเรื่องของภาษาอังกฤษ เพราะถ้าไม่มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ รับรองว่ามีปัญหาแน่นอน ดังนั้นพื้นฐานทางภาษาอังกฤษก็ต้องมีไว้ก่อน สำหรับการเตรียมตัวเรียนต่อภาคอินเตอร์มี ดังนี้

1.ศึกษาข้อมูลสาขาที่สนใจกำหนด IELTS ไว้เท่าไร

ก่อนอื่นก็ต้องรู้ว่าสาขาที่จะสมัครเรียน กำหนดคุณสมบัติเอาไว้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะความสามารถทางภาษา โดยส่วนใหญ่ต้องใช้คะแนน IELTS ประกอบการยื่นสมัครเรียน โดยข้อสอบ IELTS เป็นข้อสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสากลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ในประเทศไทยหลักสูตรอินเตอร์เกือบทุกสถาบันก็ยอมรับ IELTS เช่นกัน โดยแต่ละสาขาและสถาบันจะกำหนดคะแนนขั้นต่ำ IELTS เอาไว้แตกต่างกัน

2.ฟิตภาษาเพื่อสอบ IELTS

เมื่อรู้แล้วว่าสาขาที่จะสมัครเรียน กำหนดคะแนน IELTS ขั้นต่ำไว้เท่าไร ก็ต้องเตรียมตัว ฟิตภาษาก่อนสอบ เพื่อพิชิตคะแนนให้ได้ตามเป้า แนะนำให้หาข้อสอบเก่าๆ มาลองทำ จับเวลาเสมือนการสอบจริง หรืออาจเลือกการสมัคร Mock test ซึ่งเป็นการสอบเสมือนจริงเอาไว้ในการประเมินความสามารถในการทำข้อสอบของตัวเองเบื้องต้น นอกจากนี้อาจเลือกติวคอร์สออนไลน์ ที่เป็นคอร์ส IELTS โดยเฉพาะ เพื่อให้ได้เทคนิคการทำข้อสอบที่ตรงกับการสอบจริงๆ

3.สอบ IELTS

สมัครสอบ IELTS ให้ทันยื่นคะแนน สำหรับการสอบ IELTS มีให้เลือก 2 แบบ คือการสอบในคอมพิวเตอร์และการสอบบนกระดาษ ซึ่งเวลาในการประกาศคะแนนต่างกัน หากสอบในคอมพิวเตอร์ ทางศูนย์จะทำการประกาศคะแนนสอบหลังจากสอบไปแล้ว 7 วัน ส่วนการสอบบนกระดาษ ทางศูนย์จะทำการประกาศคะแนนสอบหลังจากสอบไปแล้ว 14 วัน กำหนดการตรงนี้สำคัญมาก ต้องรู้ก่อนว่าสาขาที่สมัครเรียนให้ยื่นเอกสารและคะแนน IELTS ภายในวันที่เท่าไร และคะแนนจะประกาศทันกำหนดหรือไม่ แนะนำให้สอบไว้แต่เนิ่นๆ โดยคะแนน IELTS จะมีอายุการใช้งานอยู่ได้ 2 ปี

4.ยื่นสมัครเรียน

เมื่อทำการสอบเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการยื่นสมัครเรียนตามกำหนดการตามลำดับ โดยการถ่ายสำเนาใบคะแนนเอาไว้ ส่วนใบจริงควรเก็บไว้กับตัว เพื่อการใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อไป คะแนน IELTS สามารถยื่นเรียนต่อภาคอินเตอร์เกือบทุกสถาบันในไทย ทั้งยังสามารถยื่นเรียนต่อต่างประเทศได้ด้วย สอบครั้งเดียวสามารถใช้งานได้หลากหลายภายใน 2 ปี ทั้งยังใช้ประกอบการสมัครทุนเรียนต่อได้ หรือใช้ประกอบการสมัครงานก็ได้

การส่งลูกเรียนต่างประเทศดียังไง?

ต่อด้วยการส่งลูกเรียนต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต และได้มีโอกาสเรียนในหลักสูตรคุณภาพ จากสถาบันชั้นนำของโลก สามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลาย เพิ่มโอกาสให้ชีวิตได้อย่างน่าสนใจ

1. พัฒนาทักษะภาษา

บอกได้เลยว่าไปเรียนเมืองนอกนั้น จะให้เราได้พัฒนาทักษะภาษาได้ดีกว่าการเรียนที่ไทยแน่นอนค่ะ เพราะว่าน้องๆ จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาที่ 3 ซึ่งจะบังคับให้น้องได้ใช้ภาษาในทุกๆ ทักษะ รวมถึงการออกเสียงที่ถูกต้องอีกด้วย บอกได้เลยว่ากลับมาน้องๆ จะสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ดีขึ้น และ สำเนียงดีขึ้นชัวร์!

2.ได้ระบบการคิดแบบอินเตอร์

การที่น้องๆ ได้ไปเรียน หรือ ใช้ชีวิตในต่างประเทศ น้องๆ จะได้ระบบการคิดวิเคราะห์ การถกเถียงเชิงเหตุผลและสร้างสรรค์ จากการลักษณะการสอนในห้องเรียน หรือ การพูดคุย หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนชาวต่างชาตินอกห้องเรียน บอกเลยว่าน้องๆ จะได้ระบบความคิดแบบอินเตอร์ ได้เห็นทัศนคติของต่างชาติในเรื่องต่างๆ มากขึ้น แถมยังได้พัฒนาความกล้าแสดงออกและความมั่นใจ โดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

3. สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ

การไปเรียนต่อจะเป็นโอกาสที่ดีที่น้องๆ จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ วัฒนธรรม และมุมมองในเรื่องต่างๆ นอกจากนี้น้องๆ จะได้มิตรภาพใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นความสัมพันธ์ที่มีความหมายในอนาคต นอกจากนี้ยังได้เดินทางเปิดประสบการณ์ในสถานที่ต่างๆ ในประเทศนั้นๆ

4. มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

การไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมสู่การใช้ชีวิตจริง น้องๆ จะต้องช่วยเหลือตัวเอง แก้ไขปัญหาและตัดสินใจเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้น้องๆ มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นอกจากนี้เมื่อน้องๆ ห่างที่บ้านไป จะช่วยให้เข้าใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น บอกได้เลยว่า ถ้าได้ห่างกันสักหน่อย จะคิดถึงกันและรักกันมากขึ้นแน่นอนค่ะ

5. ช่วยเพิ่มโอกาสได้งานที่ดี อนาคตดี

การเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากได้เรียนในหลักสูตรคุณภาพ ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน แล้วยังได้เพิ่มประสบการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า แสดงออกถึงการปรับตัวให้เข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน มีโอกาสได้งานง่ายขึ้น รวมถึงการทำงานในต่างประเทศ เพราะในบางประเทศหลังเรียนจบก็สามารถยื่นขอวีซ่าทำงานต่อได้ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น รวมถึงในเรื่องของการสร้าง Connection ที่จะทำให้ได้ทั้ง Connection คนไทยและชาวต่างชาติหลากหลายสัญชาติ

เมื่อรับทราบข้อดีของการไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่าถ้าจะไปจริงๆ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หรือต้องเริ่มวางแผนอย่างไร ก่อนอื่นต้องค้นหาตัวเองก่อนว่าอยากเรียนอะไรหรืออยากให้ลูกๆ เรียนด้านไหน จากนั้นก็ค่อยๆ ค้นหาข้อมูลว่ามหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เหมาะสมกับการเรียนในหลักสูตรนั้น แล้วลิสต์ไว้เพื่อตัดช้อยทีภายหลัง สำหรับสิ่งที่ควรเตรียมทางเราก็ได้รวบรวมมาให้แล้วที่เนื้อหาด้านล่าง

3 สิ่งที่ควรเตรียมตัวถ้าอยากส่งลูกเรียนต่างประเทศ

คุณพ่อคุณแม่ท่านไหน ที่อยากจะให้ลูกต่อนอก สามารถช่วยน้องๆ ได้โดยการช่วยน้องเตรียมตัว

1. หาข้อมูลประเทศที่อยากไป

ผู้ปกครองที่มีแพลนอยากให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ ต้องหาข้อมูลประเทศที่อยากส่งลูกไป ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของสภาพแวดล้อม การเดินทาง ระบบขนส่งมวลชนในรูปแบบต่างๆ ความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับสถาบันที่ต้องการ หรือไม่ก็อาจจะเลือกพื้นที่ที่สนใจก่อนแล้วสำรวจว่ามีสถาบันที่น่าสนใจในย่านนั้นหรือไม่

2.ฟิตภาษาให้พร้อมไปใช้ชีวิต/เรียนในต่างประเทศ

สำคัญมากสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศก็คือความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้เรียนต้องมีไปก่อน เพื่อประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันต่างๆ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ อาจไม่ใช่เพียงการสื่อสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ต้องเจาะจงลงไปความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ สามารถอ่านและเขียนเอกสารทางวิชาการได้ โดยการไปเรียนต่อต่างประเทศส่วนใหญ่ใช้ IELTS เป็นหลัก ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสากล

3. วางแผนเรื่องเงิน

การวางแผนเรื่องเงินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสานฝันให้สามารถส่งลูกไปเรียนต่อได้ ไม่จำเป็นต้องมีฐานะมากมายอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ เพียงแค่วางแผนให้ดี เพราะมีทุนเรียนต่อมากมายจากหลายภาคส่วน ทั้งเอกชนและรัฐบาล เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยติดตามข่าวสารการแจกทุนอย่างใกล้ชิด รวมถึงวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ หรืออาจศึกษาในเรื่องของสินเชื่อเพื่อการเรียนต่อต่างประเทศประกอบด้วยก็ได้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัว)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งลูกเรียนต่างประเทศ และภาคอินเตอร์ รวบรวมเอาไว้ด้วยข้อดีและการเตรียมตัวที่เหมาะสม หวังว่าจะเป็นแนวทางที่ช่วยนำพาพ่อแม่ให้เตรียมตัวและวางแผนได้ถูกทาง บทความหน้าเราจะนำข้อมูลมาแชร์เพิ่มเติม เพื่อลงลึกถึงรายละเอียดให้มากขึ้น