เริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ให้ได้ผลแบบ 100% ด้วยเทคนิคขั้นเทพ!
เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เริ่มต้นยังไงดีนะ?
บทความนี้จะประกอบไปด้วย
เรียนภาษาญี่ปุ่นดียังไง?
เปิดโลกใหม่ ด้วยวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่าง
การเรียนภาษาญี่ปุ่น นอกจะเป็นการต่อยอดความสามารถทางด้านภาษาให้เพิ่มขึ้นแล้ว ภาษาญี่ปุ่นยังเป็นใบเบิกทางแสนพิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ที่เรียนภาษานี้ได้เปิดรับโอกาสในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น เพราะภาษาญี่ปุ่นไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับการสื่อสาร แต่ยังเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างสละสลวยที่สุด แม้จะมีความซับซ้อนแต่ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรม และมารยาทแบบญี่ปุ่นที่หาไม่ได้จากภาษาอื่นใดในโลก
เพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในการทำงาน
เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร อีกทั้งภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างฟังยาก ผู้ที่ต้องการติดต่อหรือทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่นจึงควรศึกษาภาษาญี่ปุ่นไว้บ้าง เพราะนอกจากจะเป็นการศึกษาเพื่อการสื่อสารแล้ว ยังเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่คู่ค้าชาวญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะชาวญี่ปุ่นจะถือว่าคุณให้ความสำคัญ รวมทั้งยังมีความพยายามที่จะศึกษาวัฒนธรรมและความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นขึ้นกว่าการใช้ภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน นี่ยังไม่รวมไปถึงการเปิดโอกาสด้านการทำงานของผู้ที่เรียนภาษานี้ ที่จะได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าบุคคลทั่วไปอีกด้วยนะ
ยักษ์ใหญ่ด้านความบันเทิงที่ช่วยให้การเรียนภาษาไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ
เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่รวบรวมไว้ซึ่งแหล่งความบันเทิงขนาดใหญ่ ทั้งวงการภาพยนตร์ อนิเมชั่น หรือแม้กระทั่งวงการไอดอล การเรียนภาษาญี่ปุ่นจึงเป็นภาษาที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถศึกษาภาษาได้โดยการเสพความบันเทิง ไม่ใช่แค่การท่องจำทั่วไป ช่วยให้การเรียนภาษาไม่น่าเบื่อหรือเกิดความท้อแท้ในการเรียน อีกทั้งยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างจุดหมายการเรียนได้อีกด้วย การเรียนภาษาญี่ปุ่นจึงไม่ใช่แค่การเรียนเพื่อสื่อสาร แต่เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่พร้อมเปิดรับผู้เรียนเข้าสู่โลกแห่งโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ภาษาญี่ปุ่นทั้งน่าเรียน และช่วยเพิ่มประสบการณ์ทางวัฒนธรรม แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานที่ได้ผลตอบแทนดีขึ้นด้วย ถ้าอยากเริ่มเรียนกันแล้ว ลองไปดูกันเลยว่าจะเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองอย่างไรได้บ้าง?
ตัวอักษรญี่ปุ่นที่ควรรู้ มีอะไรบ้าง?
ในการเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่น สิ่งแรกที่ควรรู้ คือ “ตัวอักษร” เนื่องจากตัวอักษรของภาษาญี่ปุ่นเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการเรียน หากพูดง่ายๆ ก็คือ ก.ไก่ ข.ไข่ ในภาษาไทยนั่นเอง โดยในภาษาญี่ปุ่นสามารถจำแนกตัวอักษรได้ทั้งหมดเป็น 3 รูปแบบ คือ ฮิรางะนะ คาตาคะนะ และคันจิ รวมทั้งยังมีระบบอักษรโรมาจิ ไว้ใช้ช่วยในการออกเสียงคำศัพท์อีกด้วย ซึ่งจะมีวิธีการใช้แตกต่างกันดังนี้
อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น ต้องเริ่มเรียนจากตัวอักษรไหน?
ในการเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น ควรเริ่มเรียนจากตัวอักษร “ฮิรางะนะ” ก่อน เพราะตัวอักษรฮิรางะนะเป็นตัวอักษรพื้นฐานในการเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่น และเป็นตัวอักษรที่ใช้ในการต่อยอดการเรียนในระดับที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ หรือไวยากรณ์นั่นเอง
ฮิรางะนะมี่กี่ตัว มีอะไรบ้าง?
อักษรฮิรางะนะมีทั้งหมด 46 ตัวอักษร แบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 วรรค และตัวอักษรโดดอีก 3 ตัว ได้แก่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
อยากจำฮิรางะนะให้ได้ ต้องทำอย่างไร?
หลายๆ ท่านที่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อาจรู้สึกว่าการจำตัวอักษรนั้นเป็นเรื่องยาก จำเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ น้องจีจี้จึงได้รวมเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยทำให้จำตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นให้เร็วขึ้นมาแนะนำกันค่ะ
-
จำตัวอักษรโดยใช้ภาพช่วย
การเชื่อมโยงตัวอักษร และภาพเข้าด้วยกัน จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจำตัวอักษรให้จำได้ดียิ่งขึ้น เพราะเห็นรูปของตัวอักษรได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
-
จำตัวอักษรโดยการฝึกคัด
การฝึกคัดตัวอักษรเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้จำตัวอักษรได้ดีขึ้น โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีที่สร้างความคุ้นเคยกับตัวอักษร เหมือนกับการเริ่มฝึกเขียนภาษาไทยที่จะต้องคัด ก.ไก่ ข.ไข่ ในวัยเด็ก ซึ่งจะสร้างความเคยชิน และทำให้จำได้ในที่สุดค่ะ
-
ทบทวนคำบ่อยๆ ป้องกันการลืม
หลังจากการฝึกจำตัวอักษรจากภาพ และฝึกคัด ต่อไปจะเป็นการทบทวนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะป้องกันไม่ให้ลืมตัวอักษร โดยการทบทวนสามารถทำได้หลากหลายวิธีทั้งการทำแบบฝึกหัด หรือจากการฝึกฟัง ยิ่งทบทวนมาก ก็จะยิ่งจดจำตัวอักษรได้ดีขึ้นในระยะยาว
เทคนิคจำฮิรางะนะใน 7 วัน ฉบับ Oh! Easy ฮิรางะนะ
ในหนังสือ Oh! Easy ฮิรางะนะจะรวบรวมครบทุกเทคนิคที่จะทำให้การจำตัวอักษรมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งการจำจากภาพ การฝึกคัด รวมถึงแบบฝึกหัด นอกจากนี้จะแบ่งการเรียนออกเป็นทั้งหมด 7 วันอย่างพอเหมาะสำหรับการเรียนรู้ในแต่ละวัน เรียนจบ 7 วัน จำตัวอักษรฮิรางะนะได้ครบแน่นอน โดยในแต่ละวันจะแบ่งเนื้อหาการเรียนตามตารางดังนี้
วันที่ |
เนื้อหา |
เลือกเรียนวันที่ต้องการได้เลย!! |
Day 1 |
วรรค あ、か、さ |
|
Day 2 |
วรรค た、な、は |
|
Day 3 |
วรรคまーん |
|
Day 4 |
เสียงขุ่น |
|
Day 5 |
เสียงยาว |
|
Day 6 |
เสียงควบ |
|
Day 7 |
พยัญชนะซ้อน |
ในหนังสือ Oh! Easy ฮิรางะนะจะเริ่มต้นด้วยการฝึกจำตัวอักษรจากรูปภาพ และคำศัพท์ภาษาไทยที่สอดคล้องกับรูปภาพนั้นๆ เพื่อช่วยในการออกเสียง และทำให้จำตัวอักษรได้ง่ายขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจะเป็นการฝึกคัดตัวอักษรตามลำดับขีด รวมทั้งจะมีการทบทวนตัวอักษรด้วยแบบฝึกหัดกว่า 100 ชุด ที่จะทำให้จำได้แม่นทั้งตัวอักษร คำศัพท์ และการออกเสียง ซึ่งในแต่ละบทจะมีแทรกเกร็ดความรู้ประเทศญี่ปุ่นสนุกๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรม เพื่อเติมความสนุกก่อนเข้าสู่บทถัดไปด้วยค่ะ
➤เริ่มเรียนตัวอักษรฮิรางะนะ วันที่ 1 คลิกเลย
สเต็ปต่อไปของการเรียนภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
หลังจากที่จำตัวอักษรฮิรางะนะได้ครบถ้วนแล้ว สเต็ปถัดไปของการเรียนภาษาญี่ปุ่นจะเป็นตัวอักษรคาตาคะนะ และคันจิตามลำดับ โดยในการเรียนภาษาญี่ปุ่นนอกจากเรื่องของตัวอักษรแล้ว ยังมีในส่วนของคำศัพท์ และหลักไวยากรณ์ต่างๆที่ควรรู้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีอยู่ในคอร์สมินนะ โนะ นิฮงโกะ 1 กับนัตตี้เซนเซ และภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น 1 กับบีมเซนเซ ปูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น เนื้อหาครอบคลุมอัดแน่น สอนครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน
แต่ถ้าใครอยู่ในระดับแอดวานซ์แล้ว และกำลังเตรียมตัวสอบวัดระดับ JLPT ติวได้แบบจัดเต็มกับคอร์สภาษาญี่ปุ่น JLPT N4 by ไอเซนเซ และตะลุยโจทย์ภาษาญี่ปุ่น JLPT N3 by ทีเซนเซ ติวครบทุกพาร์ท อัดแน่นเทคนิคในการทำข้อสอบ พร้อมลองทำข้อสอบเสมือนจริง สอบผ่านแน่นอน!!