เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง กับเทคนิคลัดจำอักษร "คาตาคะนะ" ใน 7 วัน
ปัญหาการจำตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่น
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นควรเริ่มที่การจำตัวอักษรทั้งฮิรางะนะ คาตาคะนะ คันจิ และโรมาจิ อย่างไรก็ตามในหมู่ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันนั้น อาจเกิดข้อสงสัยที่ว่า จำเป็นต้องจำตัวอักษรให้ได้ทุกแบบทุกประเภทเลยหรอ? หรือบางท่านที่มักจะขอข้ามตัวอักษรคาตาคะนะไปก่อน เพราะเห็นว่าแค่ฮิรางะนะก็เพียงพอแล้ว เรื่องนี้จริงหรือไม่ แล้วเวลาเรียนญี่ปุ่นตัวอักษรคาตาคะนะช่วยอะไร บทความนี้มีคำตอบค่ะ
สารบัญ
ตัวอักษรคาตาคะนะคืออะไร
ผู้ที่เริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นมันจะสับสนตัวอักษรฮิรางะนะและคาตาคะนะ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ใช้ในบริบทอะไรบ้าง จำเป็นต้องใช้ตัวอักษรทั้งสองแบบในการเรียนภาษาญี่ปุ่นใช่หรือไม่?
เดิมทีตัวอักษร 2 แบบนี้เป็นตัวอักษรที่มาจากภาษาจีน และมีการพัฒนาตัวอักษรให้ดูง่ายขึ้นจากเดิม
ในยุคโบราณนั้น ตัวอักษรฮิรางะนะและคาตาคะนะ ถูกแบ่งใช้ต่างกันกับในปัจจุบัน โดยสมัยก่อน ฮิรางะนะจะใช้กับเฉพาะผู้หญิง ส่วนคาตาคะนะ จะใช้กับเฉพาะผู้ชายและพระเท่านั้น
ความแตกต่างง่ายๆ ของตัวอักษรทั้งสองแบบที่สามารถสังเกตได้คือ ตัวอักษรฮิรางะนะ จะมีความโค้ง กลม แสดงถึงความอ่อนช้อย ส่วนคาตาคะนะ (カタカナ)จะมีลักษณะเหลี่ยม คม แสดงถึงความแข็งแกร่ง
ในปัจจุบันนั้น ตัวอักษรทั้งสองแบบ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ คือ
-
ตัวอักษรฮิรางะนะใช้กับคำญี่ปุ่นแท้ คำที่ไม่มีตัวอักษรคันจิ คำช่วย คำลงท้ายประโยค
-
ตัวอักษรคาตาคะนะ ใช้กับคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ทับศัพท์ ชื่อของคนต่างชาติ คำเลียนเสียงธรรมชาติ (onomatopoeia) นอกจากนี้ ยังใช้เขียนกับชื่อของสัตว์ ต้นไม้อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากว่า คันจิที่ใช้เรียกสัตว์และต้นไม้แต่ละชนิดนั้นมีลำดับเส้นที่เยอะ การใช้คาตาคะนะเขียนแทนคันจินั้นจึงทำให้เขียนง่ายและรวดเร็วขึ้น
ภาพตัวอย่างการใช้ตัวอักษรคาตาคะนะแทนเสียงเลียนธรรมชาติ ในมังงะญี่ปุ่น
ทำไมต้องเรียนทั้งฮิรางะนะ และคาตาคะนะ
ระบบการใช้ภาษาญี่ปุ่นจะไม่สามารถใช้ตัวอักษรแบบใดแบบหนึ่งได้ทั้งหมด เนื่องจากจะทำให้เกิดความสับสนทางด้านความหมายได้ นอกเหนือจากตัวอักษรทั้งสองแบบข้างต้นแล้ว ตัวอักษรคันจิเองก็จำเป็นเช่นกัน เพราะตัวอักษรที่มีความแตกต่างกันทั้วรูปแบบและวิธีการใช้ จะทำให้เกิดเข้าสับสนได้ และถ้าจำแนกตัวอักษรได้ จะทำให้เราจำรูปแบบคำและความหมายได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ถ้าเลือกที่จะเรียนเพียงแค่ตัวอักษรฮิรางะนะ จะทำการเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่เป็นระบบ ขาดตอน เพราะเนื่องจากคาตาคะนะเองก็พบเห็นได้ทั่วไปไม่แพ้กับตัวอักษรอื่นๆ
วิธีการจำตัวอักษรคาตาคะนะให้ได้ผลดี
ทราบกันไปแล้วว่าการจำตัวอักษรคาตาคะนะมีความสำคัญขนาดไหน แต่การจะจำตัวอักษรคาตาคะนะให้ได้ทั้งหมดก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่ไหม วันนี้เราเลยมีเทคนิคการจำคาตาคะนะแบบได้ผลดีฉบับเร่งรัดมาให้ดูกัน
เพราะเป็นตัวอักษรที่เป็นเหลี่ยมๆแบบนี้ เวลาจะจำคาตาคะนะก็ลองวาดรูปประกอบจากตัวอักษรให้เป็นตัวการ์ตูนบ้าง ของเล่นบ้าง หรือสิ่งที่เราจะจดจำได้ รับรองว่าด้วยวิธีนี้ ยังไงก็จำได้ไม่มีทางลืม
แม้จะใช้วิธีวาดภาพประกอบตัวอักษรไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมคัดซ้ำเยอะๆ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้จำตัวอักษรได้แล้ว ยังช่วยให้เราชินกับลำดับการเขียนตัวอักษรญี่ปุ่น อุ่นเครื่องก่อนจะเจอด่านหินแบบตัวคันจิด้วยนะ
ลองหาคำศัพท์ต่างประเทศแล้วแปลเป็นคาตาคะนะดู แบ่งการทำแบบฝึกทุกวันๆ ละ 5-10 คำ เมื่อชินแล้วก็ลองอัพสกิลเป็นเขียนชื่อเราหรือชื่อเพื่อนๆ เป็นคาตาคะนะ สนุกแถมยังค่อยๆเก่งขึ้นแบบไม่รู้ตัว
เพราะการเรียนให้ได้ผลดีที่สุดคือการประยุกต์ใช้ ลองทำโจทย์จากคำศัพท์ที่ฮิรางะนะที่จำได้แล้วให้เป็นตัวคาตาคะนะ วิธีนี้ได้ผลดีสุดๆ เพราะนอกจากจะจำตัวอักษรคาตาคะนะได้แบบไม่มีลืม ยังฝึกการพัฒนาสกิลภาษาญี่ปุ่นแบบก้าวกระโดดอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอย่าลืมว่าความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องพยายามฝึกและหมั่นหาแบบฝึกหัดพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แค่นี้ก็สามารถเก่งคาตาคะนะได้ด้วยตนเองแน่นอนจ้า
แต่ถ้ามองว่าการหาแบบฝึกยุ่งยาก หรือการมองตัวอักษรคาตาคะนะให้เป็นรูปนั้นดูจะยากเกินไป เราก็ขอเสนอทางลัดจำคาตาคะนะใน 7 วัน ด้วย Oh! Easy คาตาคะนะ ที่รับรองว่าเรียนจบต้องพูดว่า อีซี่!
ทำไมต้อง Oh! Easy คาตาคะนะ
-
Oh! Easy คาตาคะนะ ออกแบบคอนเซ็ปต์การเรียนเหมือนนิทานแนวแอคชั่นผจญภัย!
รู้หรือไม่ว่าคนญี่ปุ่นชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ โดยคนญี่ปุ่น 1 คน มีค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือปีละ 50 เล่ม ทำให้ธุรกิจร้านหนังสือในประเทศญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากร้านหนังสือของประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายและบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะแก่การเข้าไปเลือกชมหนังสือ การแข่งขันกันออกแบบการบริการสำหรับลูกค้า ทั้งวิธีค้นหาหนังสือให้ง่ายที่สุด หรือเตรียมหนังสือให้หลากหลาย อันแน่นครอบคลุมทุกหมวดหมู่ในร้านเดียว ทำให้โอ้อีจี้อยากที่จะหยิบยกเอาบรรยากาศร้านหนังสือแบบญี่ปุ้นญี่ปุ่นมาเป็นธีมหลักของการเรียนคาตาคะนะในหนังสือ Oh! Easy คาตาคะนะนั่นเอง
แต่ถ้าจะให้มีแค่ร้านหนังสือ ก็ดูจะธรรมดาไป โอ้อีจี้จึงขอหยิบยกเอาหนังสือที่คนเรียนญี่ปุ่นทุกคนต้องเคยอ่าน นั่นคือ “นิทานโมโมทาโร” บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายโมโมทาโร ที่ถือกำเนิดจากผลลูกท้อ ถูกเลี้ยงดูคุณตาคุณยายใจดี ออกเดินทางทำภารกิจปราบเหล่ายักษ์อย่างกล้าหาญร่วมกับเพื่อนรักสามตัวได้แก่ หมาน้อย ลิงจอมซน และไก่ฟ้า จนได้กลายเป็นวีรบุรุษในที่สุด
โดย Oh! Easy คาตาคะนะ จึงขอหยิบยกเอานิทานพื้นบ้านสุดแสนจะคลาสสิคนี้มาทำเป็นเส้นทางการเรียนรู้คาตาคะนะใน 7 วันกับโมโมทาโร ที่แปลก แหวกแนว แถมยังได้ความรู้คาตาคะนะไปแบบเต็มๆ
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อน้องจีจี้ หลุดเข้าไปยังโมโมทาโรแลนด์ และต้องทำสารพัดภารกิจเพื่อนำเอาผลลูกท้อทองคำมาให้กับจอมเวท ไม่งั้นก็จะติดอยู่ที่โมโมทาโรแลนด์ตลอดกาล งานนี้บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และภารกิจของจีจี้ก็ยากและฮาร์ดคอร์กว่าโมโมทาโรตัวจริงไปอีก
-
Oh! Easy คาตาคะนะ แบ่งการเรียนจบใน 7 วันด้วย 7 ภารกิจลับสุดอันตราย!!
อุตส่าห์โผล่มายังโลกโมโมทาโรแลนด์ทั้งที จีจี้เลยโดนภารกิจ 7 ด่านสุดอันตรายไม่ว่าจะเป็น ภารกิจปลดกับดักต้องคำสาป เพื่อช่วยชิบะคุงเพื่อนรัก หรือ ครองดาบคีรีพิโรธ ที่จีจี้ต้องฝ่าฟันเส้นทางสุดอันตรายบนภูเขาไฟคีรีพิโรธเพื่อครอบครองดาบคาตานะ เตรียมพบกับหนังสือเรียนคาตาคะนะที่ดูยังไง๊ยังไงก็เป็นหนังแอคชั่นผจญภัย ท้าทายกว่าจูแมนจี้ เพราะภารกิจนี้มีถึง 7 ด่านด้วยกัน!!!
โดยในเล่มจะมาพร้อมกับแผนที่ขนาดใหญ่พิเศษ สำหรับนักผจญภัยทุกท่านเพื่อวางแผนการเรียนคาตาคะนะและการผจญภัยไปพร้อมๆกับจีจี้ทาโรและผองเพื่อน
-
Oh! Easy คาตาคะนะ ใช้เทคนิคการจำจากรูปภาพและคำพ้องเสียง
หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “เทคนิคการจำเป็นภาพ” หรือ Photographic Memory ที่มีการวิจัยพบว่าการจำเป็นรูปภาพช่วยให้สามารถจำเนื้อหาได้ดีกว่าการจำแบบเป็นตัวอักษร หรือการท่องจำทั่วไป โอ้อีจี้จึงได้นำเอาเทคนิคนี้มาใช้เพื่อการจำตัวอักษรคาตาคะนะ โดยเฉพาะ แต่การจำแค่รูปภาพอย่างเดียว ไม่ช่วยให้สามารถจดจำวิธีการออกเสียงได้ 100% ดังนั้นโอ้อีจี้จึงได้พัฒนาวิธีการจำตัวอักษรคาตาคะนะให้มีความคล้องกันทั้งภาพและการออกเสียง ยกตัวอย่างเช่น
เห็นแบบนี้แล้วรับรองว่าฝึกคัดให้พอรู้ลำดับขีด ก็สามารถจำได้แล้ว ไม่ยากเลย
-
Oh! Easy คาตาคะนะ มีแบบฝึกกว่า 90 ชุด จำได้แน่ทั้งตัวอักษรและคำศัพท์
เพราะการคัดอย่างเดียวแต่ไม่ได้ทดสอบ ย่อมไม่รู้ว่าตัวอักษรคาตาคะนะตัวไหนที่ยังจำไม่ได้หรือเขียนพลาดบ่อย โออีจี้จึงได้ออกแบบ ชุดแบบทดสอบเพื่อการจำตัวอักษรคาตาคะนะที่มีความหลากหลาย ไม่น่าเบื่อจำเจ ทั้งยังสอดแทรกการจำศัพท์ที่ใช้ได้จริงๆในชีวิตประจำวัน เรียนจบ 7 วันก็จำศัพท์ได้แม่นกว่า 100 คำแบบไม่รู้ตัวแน่นอน
-
Oh! Easy คาตาคะนะ แทรกเกร็ดความรู้นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นแสนสนุก
จากธีมของหนังสือ Oh! Easy คาตาคะนะ ที่เป็นการผจญภัยไปในตำนานนิทานพื้นฐานของญี่ปุ่น โอ้อีจี้จึงขอนำเสนอเกร็ดความรู้ระหว่างเรียนกับ 6 สุดยอดนิทานพื้นบ้านแสนสนุก แถมยังได้ข้อคิดดีๆอีกเพียบ แบบนี้เรียนยังไงก็ไม่มีเบื่อแน่นอน
-
Oh! Easy คาตาคะนะ เรียนจบปุ๊บ รับใบประกาศนียบัตรรายบุคคล!
อุตส่าห์เรียนคาตาคะนะได้จบหลักสูตรทั้งที โอ้อีจี้เลยขอเสนอใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตรคาตาคะนะแบบรายบุคคล ที่มีเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อหนังสือ Oh! Easy คาตาคะนะ และสามารถผ่านด่านบททดสอบได้เท่านั้นนะ ขอบอกว่าใบประกาศนียบัตรสวยน่ารัก แถมยังมีชื่อ-นามสกุลผู้เรียนได้แบบเฉพาะคนอีกด้วย พิเศษสุดๆไปเลยนะเนี่ย
-
Oh! Easy คาตาคะนะ ใช้การ์ตูนเป็นแบบฝึกอ่านคาตาคะนะ
เท่านั้นยังไม่พอ โอ้อีจี้ยังขอแทรกความสนุกด้วยการ์ตูนแสนสนุกคั่นระหว่างเรียน กับเรื่องราวการผจญภัยของน้องจีจี้ทาโร่และผองเพื่อน ที่แอบสอดแทรกกิมมิคเล็กๆ อย่างตัวอักษรคาตาคะนะ ที่อ่านครั้งแรกอ่านจะงงๆว่าน้องพูดว่าอะไร แต่พอเรียนจบเล่มปุ๊บ แล้วกลับไปอ่านอีกรอบ รับรองว่า อ่านเข้าใจแถมสนุกขึ้นชัวร์!
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวไป Oh! Easy คาตาคะนะ ยังมีความพิเศษซ่อนอยู่อีกเพียบ ไปว่าจะเป็น
-
หนังสือ 4 สีทั้งเล่ม
-
Study plan สรุปการเรียนพร้อมด่านที่ต้องฝ่าฟัน และตารางคะแนนแบบฝึกหัดประจำวัน
-
แผนที่ขนาดใหญ่ ที่ตัดออกมาใช้เป็นแผนที่วางแผนการเรียนได้
-
ที่คั่นหนังสือสุดคิ้วท์ แถมฟรีทุกคำสั่งซื้อ
ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 490 บาทเท่านั้น ฟรี! ค่าจัดส่ง
พิเศษ เมื่อทำแบบสอบถามรับส่วนลดเพิ่มฟรี 100 บาท
ทำแบบสอบถามคลิก
เมื่อทำแบบสอบถามเสร็จเรียบร้อย แคปภาพหน้าจอ และ inbox ไปที่เพจโอ้อีจี้นิฮงโกะเพื่อรับส่วนลดมูลค่า 100.- ได้เลย!!
**สิทธิ์มีจำนวนจำกัด***
รีวิวจากผู้เรียน