จะสอบ TOEIC 2024 ต้องรู้! ตัวอย่างข้อสอบ TOEIC และเทคนิคทำโจทย์ให้ได้ 750+
ปัจจุบัน ข้อสอบ TOEIC เปลี่ยนใหม่แล้วเป็น Updated TOEIC (New TOEIC 2024)
การสอบ TOEIC มีกี่ข้อ แบ่งกี่พาร์ท แต่ละพาร์ทต่างกันยังไง? วันนี้จะพาไปรู้จักอย่างละเอียด พร้อมแชร์เทคนิคทำโจทย์แต่ละพาร์ท รวมถึงการ สมัครสอบ TOEIC และ วิธีการเดินทางไป ศูนยสอบ TOEIC ด้วย (ช่วงท้ายมีรวบรวม แนวข้อสอบ TOEIC และเทคนิคที่ควรรู้ไว้ให้แล้วเช่นกัน ครบมากกกกก บอกเลย)
ข้อสอบ TOEIC จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ Listening Comprehension และ Reading Comprehension โดยแต่ละพาร์ทมีจำนวนข้อสอบ 100 ข้อ รวมเป็นทั้งหมด 200 ข้อ มีเวลาในการสอบ 2 ชั่วโมงค่ะ ทีนี้เราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าแต่ละพาร์ทนั้นหน้าตาข้อสอบเป็นยังไงบ้าง แล้วถ้าจะทำให้ทัน ทำให้ได้คะแนนเยอะๆ จะต้องใช้เทคนิคอะไร?
ข้อสอบ TOEIC ที่ใช้สอบในปัจจุบัน (Updated TOEIC)
✿ เตรียมตัวสอบ TOEIC ยังไงดี? ✿
สำหรับคนที่พอมีพื้นฐานแล้ว
พื้นฐานในที่นี้หมายถึงมีความรู้เรื่อง Grammar สามารถฟังเข้าใจ และอ่านจับใจความได้ โดยไม่ติดขัดนะคะ แนะนำให้เตรียมตัวคือ
- ทบทวน Grammar พื้นฐานให้แม่นๆ เพราะช่วยเวลาทำข้อสอบ ฟัง-อ่านเข้าใจเร็วขึ้น
- ฝึกทำข้อสอบทั้งการฟัง และการอ่าน เพื่อให้ชินกับรูปแบบข้อสอบ
- จดศัพท์ที่คิดว่าเจอบ่อยๆ
- ฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาให้เหมือนจริง
สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน แต่ต้องการสอบ TOEIC
✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีให้ครบทุกอย่าง! ✿
TOEIC Listening Comprehension
Part 1 Photographs (6 ข้อ)
- พาร์ทนี้จะมีภาพมาให้ 6 ภาพ
- แต่ละข้อจะมีเสียงอ่านตัวเลือก 4 ข้อ ให้เราเลือกข้อที่บรรยายได้ตรงกับภาพมากที่สุด
- ตัวเลือกไม่มีเขียนมาให้นะคะ
ตัวอย่าง
เทปจะพูดว่า (มีแต่เสียง ไม่มี script ให้อ่านนะคะ)
A. The women are talking.
B. The lamps are turned on.
C. The women are reading.
D. The guy is talking on the phone.
เทคนิคการทำโจทย์ TOEIC Part 1 Photographs
1. ดูภาพคร่าวๆ ในแต่ละข้อ ไม่ต้องเพ่งดูแบบละเอียดนะคะ (อย่างมีหนังสือกี่เล่มอยู่ในตู้ ต้นไม้กี่ต้น อันนี้ละเอียดเกิน เขาไม่เอามาถามแน่ๆ ค่ะ) เช่นภาพด้านบน เราดูคร่าวๆ ก็บอกได้ว่า “ผู้หญิง 2 คนกำลังอ่านหนังสือ” เพราะฉะนั้นตอบข้อ C. ค่ะ ข้ออื่นๆ เป็นอะไรที่เราไม่รู้ (ก็ดูจากภาพมันบอกไม่ได้หรอก โคมไฟเปิดอยู่มั้ย ผู้ชายกำลังคุยโทรศัพท์รึเปล่า) ส่วนใครที่ลังเลว่าอาจจะเป็นข้อ A. ขอเตือนว่า เราห้ามคิดไปเองเด็ดขาด! ภาพให้มาเท่าไหน ดูตามความเป็นจริงเท่านั้นค่ะ อย่าคิดไปไกล
2. ระหว่างฟัง ดินสอจ่อไว้ที่ตัวเลือกแต่ละข้อเลยค่ะ ฟังข้อนึงจบปั๊ป ถ้าไม่ใช่ เลื่อนไปข้อต่อไปเลย เจอข้อไหนที่ใช่คำตอบ ฝนเลยค่ะ เสร็จแล้วไปดูภาพต่อไปรอไว้เลย
3. ถ้าข้อไหนฟังพลาดแล้ว หรือฟังครบ 4 ข้อแล้วยังไม่รู้คำตอบ ให้ข้ามไปเตรียมตัวข้อถัดไปเลย อย่ามัวแต่คิดข้อเดิม ไม่งั้นจะพลาดข้อต่อไปด้วย (อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าพลาดไปข้อนึงแล้ว เราจะลนมากๆ ทำให้ไปกระทบข้ออื่นด้วย)
** เวลาฟังเสียงแต่ละตัวเลือก ถ้าไม่ใช่คำตอบแน่ๆ ให้ผ่านเลย แต่ถ้ายังลังเล ให้จุดเล็กๆ ไว้เหนือช่องคำตอบก่อน อย่างน้อยๆ ถ้าฟังครบ 4 แล้วยังไม่เจอคำตอบที่คิดว่ามั่นใจ ก็ยังมีข้อที่จุดไว้ให้พอเสี่ยงดวงได้ (ดีกว่าฟังแล้วลืมหมดเลย 4 ข้อ ทีนี้โอกาสเดาถูกยิ่งน้อยลง)
TOEIC Part 2 Question-Response (25 ข้อ)
- ส่วนนี้จะไม่ต้องใช้ตัวข้อสอบ
- คำถาม และตัวเลือกจะมาเป็น เสียง ทั้งหมด
- คำถามสั้นๆ พร้อมเสียงตัวเลือก 3 ข้อ
ตัวอย่าง
เสียงคำถาม: “When did he arrive yesterday?”
เสียงตัวเลือก: A. He left at six.
B. Around midnight.
C. Yes, he’s still alive.
เทคนิคการทำ TOEIC Part 2 Question-Response
1. part นี้เตรียมอ่านโจทย์ก่อนไม่ได้ เพราะฉะนั้นตั้งใจฟัง เงี่ยหูฟังให้ดี เวลาเสียงคำถามมา ให้คิดในใจเลยว่าเค้าถามอะไร คำตอบที่ได้ควรเป็นอะไร เช่นในตัวอย่าง ได้ยินว่า “When” แสดงว่าถามเกี่ยวกับเวลา ส่วนที่ตามมาเป็นรายละเอียดว่า เมื่อวานเขามาถึงตอนไหน พอเสียงตัวเลือกมา ให้ตั้งใจฟังข้อที่มีเวลาดีๆ (ข้อนี้ใครพลาดอาจโดนหลอกไปตอบข้อ A. ได้เพราะได้ยิน six แต่จริงๆ ต้องตอบ B. นะคะ)
- ถาม “When” คำตอบต้องเป็นเลขเวลา วัน หรือช่วงเวลาเช่น afternoon, tomorrow night, 4.30 เป็นต้น
- ถาม “What” ฟังโจทย์ให้ดีว่าถามถึงอะไร เลือกคำตอบที่สัมพันธ์กันมากที่สุด
- ถาม Do/Does/Did คำตอบไม่จำเป็นต้องขึ้นด้วย Yes, No เท่านั้น อาจจะตอบเป็นอย่างอื่นได้ เช่น
Do you like your job? คำตอบอาจจะเป็น: It is interesting. ก็ได้ - เสียงอ่านบางคำ เราอาจจะฟังไม่ออก ต้องฝึก และทวนบทเรียนไปดีๆ นะคะ เช่น “Was he” แต่เวลาเราได้ยินจะเป็น “Wuzzy” ซึ่งต้องอาศัยฝึกฟังเยอะๆ จะทำให้เดาออกง่ายขึ้นว่าที่เขาพูดคือคำว่าอะไร
- บางข้อคำตอบจะไม่ได้เป็นการตอบตรงๆ แต่จะเป็นการตอบแบบอ้อมเช่น ตอบกลับด้วยคำถาม หรือแทนที่จะตอบ yes/no ก็จะเลี่ยงไปตอบว่าไม่รู้ ไม่มั่นใจ เป็นต้น
2. เทคนิคเดิม ดินสอจ่อไว้ที่ตัวเลือกเลยค่ะ ข้อไหนไม่ใช่ข้าม เลื่อนไปรอตัวเลือกถัดไปเลย
ระวัง: หลายคำถามจะไม่ได้มีคำตอบตรงๆ แต่เป็นการตอบคำถามในแบบอื่นแทน เช่นสมมติถามว่า "Will you stay after the show to meet the musicians?" คำตอบที่เราคาดหวังอาจจะเป็นการตอบ yes, no แต่สิ่งที่เราได้ยินอาจจะเป็น
(A) Almost as long as the previous show.
(B) I think so too.
(C) Don't they leave as soon as it's over?
เจอแบบนี้ทำไงล่ะ ไม่มี yes, ไม่มี no. แต่จริงๆ คำตอบคือ (C) เพราะเข้ากับคำถามากที่สุด คือคำถามบอกว่า คุณจะอยู่หลังงานแสดงเพื่อพบกับนักดนตรีไหม? ส่วนคำตอบเหมือนเป็นการถามกลับว่า พวกเขาไม่ได้กลับทันทีหลังโชว์จบเหรอ (เจอแบบนี้ใครฟังพลาด อาจมีตอบผิดได้)
3. **ข้อนี้สำหรับคนที่สามารถสลับสมองได้ไวๆ จะมีประโยชน์มาก** สมมติว่าข้อไหนมั่นใจว่าคำตอบเป็นข้อ A. พอเรากาแล้ว จะยังมีเวลานิดหน่อยระหว่างที่เทปอ่านอีก 2 ตัวเลือก เราสามารถเหลือบตาไปมองข้อสอบพาร์ทถัดไป ที่เป็น Conversation ได้เลยนะ แล้วแอบมองหา keyword ไว้ก่อนได้เลย (เพราะ part ถัดไปเวลาในการอ่านโจทย์ก่อนจะน้อยมาก) แต่ระวัง! อย่าเพลินจนกลับมาทำต่อไม่ทัน ถ้าใครรู้สึกว่าแยกสมองไม่ค่อยทัน ก็ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้เท่าไร เพราะเดี๋ยวจะไปมัวอ่านพาร์ทถัดไป จนฟังคำถามพาร์ทปัจจุบันไม่ทัน
TOEIC Part 3 Short Conversations (39 items)
- บทสนทนาสั้นๆ ระหว่างคน 2-3 คน
- แต่ละบทมีคำถาม 3 ข้อ
- พอเทปเล่นเสร็จแล้ว จะมีเสียงอ่านโจทย์แต่ละข้อ (แต่ไม่มีเสียงอ่านตัวเลือกนะ)
- บางข้อมีเพิ่มภาพประกอบ
- เพิ่มคำถามแบบอ้างคำพูดของบางคนจากเสียงที่ได้ยิน
- เป็นพาร์ทที่คนส่วนใหญ่ตายสนิท เพราะฟังไม่ทัน อ่านโจทย์ไม่ทัน ไม่รู้จะฟังอะไรเป็นคำตอบ สุดท้ายเลยพลาดยาวๆ ไป
ตัวอย่าง
Woman: I sent you those books the other day. Did you get them?
Man: No. I’ve been waiting for them, but they haven’t arrived yet. When did you send them?
Woman: Three days ago. I think I should report them as lost.
Man: Relax. You sent them on Monday and today is only Wednesday. Let’s wait for another day.
Then if they aren’t here by Friday, you can report them.
53. What did the women send the man?
A. Reports
B. Books
C. Photographs
D. Postcards
- New TOEIC 2024 โจทย์คำถามบางข้อจะมีการอ้างอิงถึงประโยคจากบทสนทนาด้วย เช่น
Ex. What does the man imply when he says “I could’ve stayed there forever”?
แนวการตอบ: จะต้องพอจับใจความ หรืออารมณ์ของคนพูดได้ เพราะการ imply (อ้างอิง) จะไม่มีคำตอบปรากฏในบทสนทนา แต่เราต้องเดาว่าผู้พูดต้องการสื่ออะไร
- บางบทสนทนาจะมีให้ภาพประกอบมาด้วย เพื่อให้ดูควบคู่กับการฟัง โดยจะมีภาพ และคำถามเช่น
Employee Directory Name Extension Johnson Crude 21 Morris Withman 25 Jim Matthew 34 Kate Tomston 42 |
Ex. Look at the graphic. What number will the woman most likely call?
แนวการตอบ: เนื่องจากบทสนทนาจะไม่มี script มาให้ ดังนั้นตอนฟังเราต้องจับให้ได้ว่าสรุปแล้วผู้หญิงในบทสนทนาน่าจะโทรหาใคร ซึ่งบางทีในบทสนทนาอาจจะไม่ได้พูดถึงเบอร์ แต่พูดถึงชื่อเท่านั้น แต่ในตัวเลือกที่ให้มากลับเป็นเบอร์ต่อสาย ดังนั้นเราก็ต้องดูว่าชื่อที่พูดถึงในบทสนทนานั้น ต้องเป็นเบอร์อะไร
เทคนิคการทำ Short Conversations
1. สำคัญเลยคือต้องสแกนโจทย์ และ choice คร่าวๆ ใน set ก่อนว่าถามถึงอะไรบ้าง เพราะจะทำให้เรามีจุดหมายในการฟังมากขึ้นว่าฟังเพื่อหาคำตอบแบบไหน เช่นถาม What, Where, When, Why รวมถึงพวก inference (สรุปความ จับสิ่งที่เค้าจะสื่อจากบทสนทนา) ด้วย คำถามที่เจอบ่อยๆ จะแบ่งเป็น 3 ประเภท
- Topic/Main Idea (ถามหาประเด็น ใจความหลักที่บทสนทนาพูดถึง)
- What are the speakers mainly discussing?
2. Details (ถามหารายละเอียดจากบทสนทนา)
- What does the man offer to do for the woman?
- Why does the woman have to come back tomorrow?
3. Inference (ถามหาสรุป หรือสิ่งที่บทสนทนาพยายามจะสื่อ)
- Where does the conversation take place?
- What can be inferred about the woman?
- What will probably happen next?
2. ส่วนมากบทสนทนามักจะไม่ใจร้าย คือคำตอบของ 3 ข้อ มักจะเรียงลำดับกันอยู่ในบทสนทนา (ยกเว้นพวกให้สรุปความ ที่ฟังจบถึงตอบได้ หรือบางครั้งฟังแล้วพอเดาได้ก็ตอบได้ก่อนเลยก็มี)
3. พาร์ทนี้แนะนำให้ฟังแล้วติ๊กคำตอบไว้ก่อน ยังไม่ต้องฝนเต็มวง (พอได้คำตอบครบ 3 ข้อแล้วค่อยมาฝนอีกที)
เหตุผลเพราะเราจะได้มีสมาธิอยู่กับการฟังก่อน เพราะการฝนแต่ละครั้งใช้เวลามากกว่าการติ๊กเครื่องหมาย แถมถ้าผิดยังลบยากกว่าด้วย เผลอๆ มัวแต่ฝน และลบ ทำให้พลาดคำตอบของข้อถัดไปเลยนะ
4. บางบทสนทนาก็จะถามรายละเอียดที่เขาพูดรวบในประโยคเลย เช่น
Woman: “Mark, are you free to join the 10 o’clock meeting on Wednesday?”
Man: “Yes, but I’ll have to meet with the client in the morning. So, I’ll probably be around 15 minutes late.”
คำถามจะมีทั้ง “What time will the man join the meeting?”
A. 9.00
B. 9.15
C. 10.00
D. 10.15
และ “When is the meeting?”
A. On Monday
B. On Wednesday
C. On Friday
D. On Thursday
ถ้าเราฟังทันทั้งหมด สามารถตอบได้ 2 ข้อทันที จาก 3 ข้อ อย่างข้อแรกต้องคำนวณนิดนึงคือผู้หญิงบอกว่าสะดวกมาประชุม 10 โมงวันพุธไหม ผู้ชายบอกว่าได้ แต่จะไปสาย 15 นาทีนะ ดังนั้นข้อแรกต้องตอบ D. 10.15 (ถามว่าผู้ชายจะเข้าประชุมกี่โมง) ส่วนอีกข้อคำตอบอยู่ในคำถามของผู้หญิงแล้ว คือการประชุมจะมีขึ้นในวันพุธนั่นเอง
5. ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเริ่มชุดใหม่ แนะนำให้ลองอ่านตัวเลือกคร่าวๆ เพราะมันจะทำให้เราพอเดาออกว่าเรื่องน่าจะเกี่ยวกับอะไร หรือเกิดขึ้นที่ไหน เช่นอ่านแล้วเจอตัวเลือกพวกชื่อสถานที่ (ดูว่ามีที่ไหนบ้าง) ข้อถัดไปตัวเลือกเป็นการบอกว่าจะเตรียมดอกไม้ให้ทัน อีกข้อบอกตัวเลือกเกี่ยวกับขอใบเสร็จเป็นหลักฐาน ก็อาจจะพอเดาเนื้อเรื่องที่จะได้ยินถัดไปได้ว่าอาจจะเกิดที่ร้านดอกไม้ แล้วคนพูดเป็นลูกค้า กับเจ้าของร้าน ลูกค้าน่าจะเป็นพนักงาน เป็นต้น **ถ้าทำได้ และทัน มันจะช่วยให้เราฟังเรื่องได้ง่ายขึ้นจริงๆ นะ
6. ถ้าฟังจบแล้ว ข้อไหนยังไม่ได้คำตอบ ลองติ๊กเดาข้อที่คิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดไว้ก่อน แล้วเอาเวลาไปอ่านโจทย์ 3 ข้อในชุดถัดไปดีกว่า อย่าไปเสียเวลานั่งคิด นั่งนึก เพราะจะทำให้ฟังไม่ทันด้วย ส่วนใครถ้าได้คำตอบครบแล้ว ไม่ต้องฟังจนจบ ข้ามไปอ่านโจทย์ชุดถัดไปรอไว้เลย
TOEIC Part 4 Short Talks (30 items)
- จะเป็นเสียงประกาศต่างๆ เช่นประกาศในสนามบิน บนรถไฟ โฆษณาทางวิทยุ พยากรณ์อากาศ
- ผู้พูดคนเดียว ไม่มีการโต้ตอบ และมาพร้อมคำถาม 3 ข้อต่อ 1 ประกาศ
- New TOEIC 2024 จะเพิ่มโจทย์ประเภทอ้างอิงคำพูด และบางข้อมีภาพประกอบคำถาม
ตัวอย่าง
“Good afternoon. Flight 692 to Paris is about to begin boarding at Gate 9. All passengers for Paris, please approach Gate 9 now. We will board passengers with small children first, and then we will begin boarding from the back of the plane, starting with Rows 30 to 35. Please remember, only one piece of carry-on luggage, excluding purses and coats, is allowed. Passengers are asked to check extra luggage with the gate attendant. Have a pleasant trip and thank you for flying with us.”
100. Who will get on first?
A. Passengers for Paris
B. Passengers with luggage
C. Passengers with children
D. Passengers in row 30 to 35
- โจทย์แบบใหม่มีการอ้างถึงประโยคที่พูดไป เช่น
Ex. What does the speaker mean when she says, “And if that’s not enough, there’s more”?
แนวการตอบ: จะคล้ายกับในพาร์ท Conversation คือต้องฟังแล้วจับใจความเอา เนื่องการเป็นโจทย์แนวให้เรา imply ดังนั้นจะไม่มีคำตอบบอกตรงๆ
- บาง Talk มีภาพประกอบ ให้ดูประกอบกับเสียงพูด เช่น
Dalia’s Catering Customer: Ed Aston Order Number: A011460 Item Quantity Orange Juice 40 glasses Tofu Salad 5 bowls Fried Chicken 4 trays Strawberry Cake 15 pieces |
Ex. Look at the graphic. What item will be removed from the order?
(A) Orange Juice (B) Tofu Salad (C) Fried Chicken (D) Strawberry Cake
แนวการตอบ: คำถามประเภทนี้มักจะไม่บอกคำที่มีอยู่ในตารางตรงๆ แต่อาจจะบอกเป็นข้อมูลส่วนอื่น ให้เรามาหาคำตอบเอาเองอีกที เช่น ในบทพูดจะบอกว่า
“So, please remove the last item on our order.” แสดงว่าข้อนี้ต้องเลือก (D) เพราะเป็นลำดับสุดท้ายของ order นั่นเอง
เทคนิคการทำ Short Talks
1. มีเวลา อ่านโจทย์ก่อน ดูว่าแต่ละข้อถามถึงอะไร
2. ตอนฟังพยายามจับใจความให้ดีว่าประกาศนี้น่าจะเกิดขึ้นที่ไหน (ถามบ่อย) สถานการณ์คืออะไร เช่นบางทีเป็นประกาศบอกรถไฟล่าช้า แต่อาจจะฟังคล้ายประกาศบนเครื่องบินได้เหมือนกัน (ส่วนมากถ้าเป็นเครื่องบิน จะมีคำว่า flight, on board มาให้เราพอเดาได้)
3. ฟังพวกเวลา ตัวเลข สภาพอากาศ หรือพวกคำสั่ง คำแนะนำให้ดี เป็นรายละเอียดที่ชอบถาม เช่น
- What is the weather like today?
- When will the show begin in the afternoon?
- What will happen in 10 minutes?
- How much is the discount?
- What should the passenger do before leaving the train?
4. คำถามประเภทสรุปความ เช่น What does the speaker imply? บางทีไม่มีคำตอบชัดเจน แต่สมมติเขาพูดว่าวันนี้อากาศดีนะ ไม่เหมือนเมื่อวาน แสดงว่าเราสรุปได้ว่าเมื่อวานอากาศไม่ดี เป็นต้น
TOEIC Reading Comprehension
คำแนะนำโดยรวม: พาร์ทนี้มีเวลาให้ 75 นาที ดูเหมือนเยอะ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ทัน! ดังนั้นต้องบริหารเวลาให้ดี ตอนฝึกซ้อมทำชุดข้อสอบ ให้ลองจับเวลาไปด้วย จะได้พอรู้ว่าในแต่ละพาร์ทเราใช้เวลาไปเท่าไร และถ้าเกินจะต้องปรับตรงไหนให้ทำทัน
TOEIC Part 5 Incomplete Sentences (30 items)
- ข้อสอบเติมคำในช่องว่าง
- New TOEIC 2024 มีข้อวัดศัพท์เยอะมาก
- นอกจากศัพท์จะวัดพวก Grammar, คำเชื่อมต่างๆ
- บางข้อไม่ต้องอ่านโจทย์ก็ทำได้
ตัวอย่าง
131. For reasons of _____, anyone entering the construction area must wear a hard hat.
(A) safety
(B) safe
(C) safely
(D) safer
เทคนิคการทำ Incomplete Sentences
1. พาร์ทนี้ ท่องไว้ว่า “อ่าน choice ก่อนเสมอ” (x3) เพราะอย่างที่บอกว่ามักจะวัดเรื่อง Grammar แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าเขาเอาเรื่องไหนมาวัด? คำใบ้จะมาจากการอ่าน choice นั่นเอง มันจะทำให้เราแยกโจทย์ได้ว่าข้อไหน กำลังถามถึงเรื่องอะไรอยู่ อย่างในตัวอย่างข้างบน จะเห็นว่าใน choice คำที่ให้มา ถ้าแปลเอามันก็ความหมายเดียวกัน คล้ายๆ กันหมดเลย ดังนั้นแสดงว่าโจทย์น่ะต้องการถามว่าในช่องว่าง ตามหลักแล้วมันควรจะเติมคำประเภทไหนลงไป (หรือที่เรียกว่า Part of Speech) เพราะงั้นถ้าเรารู้ว่า “ตามหลัง of มักจะเป็น Noun เสมอ” เราก็จะมองหาคำตอบข้อที่เป็น Noun และถ้ารู้เทคนิคอีกว่าคำที่ลงท้ายด้วย “-ry, -ty, -ment” มักจะเป็น Noun ข้อนี้ก็สบายเลยยย ตอบ (A) ได้ โดยไม่ต้องอ่านโจทย์ทั้งหมดด้วยซ้ำไป
**วิธีการแยกโจทย์ Grammar ที่มักออกข้อสอบ TOEIC บ่อยๆ ดูได้จากที่นี่เลย มีรวมไว้พร้อมเทคนิคเรียบร้อยแล้วววว https://www.opendurian.com/learn/toeic_technique_grammar/
2. ถ้าข้อไหนวัดเรื่องความหมาย ให้ลองอ่านโจทย์แล้วแปลคร่าวๆ ให้พอรู้เรื่อง แล้วมาดูความหมายของตัวเลือกอีกที (ถ้าไม่รู้ความหมายของตัวเลือก คงต้องเดาเอาแล้วค่ะ แต่ถ้าพอจำศัพท์ได้บ้าง จะช่วยตัดตัวเลือกได้เยอะเลย)
เรื่องที่ออกสอบ part นี้บ่อย
- Part of Speech อันนี้ให้เลย เพราะเจอทุกชุด มาก-น้อยแล้วแต่ ตัวเลือก 4 ข้อเป็นคำเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยน Part of Speech (มีทั้ง V., N., Adv., Adj.) เพราะงั้นเค้าไม่ต้องการวัดความหมาย แค่อยากรู้ว่าเราจะเลือกประเภทคำถูกมั้ย
- Prepositions, Conjunctions และคำเชื่อมต่างๆ อันนี้เจอเยอะอันดับ 2 เลย แนะนำให้ทวนไปเยอะๆ ได้ใช้แน่นอน
- Tense มีประปรายค่ะ ไม่ยากมาก ส่วนใหญ่เป็นพวก Present Simple (verb เติม s/ไม่เติม s), Present Perfect, Future ซึ่งจะตอบได้ให้ลองมองหาคำใบ้บอกเวลา (อดีต/ปัจจุบัน/อนาคต) ในประโยค บางทีมีมาให้แล้ว เช่น before, since, tomorrow, last year etc.
- Vocabulary มีค่อนข้างเยอะ คือวัดกันที่ความหมายของคำเลย (มีทั้ง N, Adv., Adj., คำเชื่อม) เจอศัพท์ที่รู้ก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอศัพท์ที่ไม่รู้นี่ ต้องอาศัยเดาอย่างโจทย์เลยค่ะ (หรือทวนในหนังสือเก็งศัพท์ใ หรือนคอร์สครูดิวไป ช่วยได้แน่นอน!)
- Gerund และ Infinitive เรื่องนี้มีออกบ้าง แต่ไม่เยอะ (ล่าสุดเจอประมาณ 2 ข้อ) ถ้าจำพวก verb ที่ใช้คู่กับ 2 อันนี้ได้ ก็จะตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ
TOEIC Part 6 Text Completion (16 items)
- มีอีเมล หรือใบประกาศสั้นๆ มาให้ เว้นช่องว่าง 4 จุด (ต่อ 1 ชุด)
- ให้เลือกเติมคำตอบให้ถูก
- New TOEIC 2024 เพิ่มให้เลือกประโยคเอาไปเติมด้วย (แบบเดิมมีแค่เติมเป็นคำๆ)
- บางข้อต้องอ่านเนื้อความก่อนหรือหลังช่องว่างเพิ่มเติม เพื่อให้ตอบได้ (ต้องเชื่อมโยงเนื้อหาด้วย)
ตัวอย่าง
136. (A) annual 137. (A) program |
|
138. (A) We are planning to hold it at the Grand Crown Palace Hotel. |
|
139. (A) suggests |
เทคนิคทำ Text Completion
1. วิธีการคล้ายกันกับ Incomplete Sentences ค่ะ ไม่ต้องไปอ่านทั้งหมด
ให้ไปดูที่ช่องว่าง และตัวเลือกของข้อนั้นๆ ก่อนว่าเค้าถามเรื่องอะไร แล้วดูแค่หน้า-หลังช่องว่างก่อน ส่วนใหญ่แค่นี้จะสามารถตอบได้เลยค่ะ เพราะวัดเรื่องคล้ายๆ กับ Part ที่แล้ว (พวก Part of Speech, Tense, คำเชื่อม, Pronoun, ความหมายคำ)
TOEIC Part 7 Reading Comprehension (54 ข้อ)
- Single Passage (บทความเดี่ยว) 29 ข้อ
- Double Passages (บทความคู่) 10 ข้อ
- New TOEIC 2024 เพิ่ม Triple Passages (บทความ 3 ส่วน) 15 ข้อ
- เพิ่มรูปแบบ Text-message ในหน้าต่างแชทหรือโทรศัพท์เข้ามาด้วย (Single Passage)
- เพิ่มรูปแบบให้แทรกประโยคเข้าไปในบทความให้เหมาะสม (Single Passage)
Single Passage: จะเป็นประกาศ ใบปลิว บทความสั้นๆ ให้อ่านแล้วหาคำตอบ (มีประมาณ 29 ข้อ โดยจำนวนบทความอาจจะต่างกันในแต่ละชุดข้อสอบ)
ตัวอย่าง
Office Space Available
72 Brooke Street
This suite of offices is conveniently located close to downtown and most of the bus lines. The 3,000-square-foot floor plan has lots of potential, with space for ten offices, two conference rooms, and a large reception area. Large windows make it pleasant and sunny. Ample tenant and customer parking is in the rear of the building. Contract includes minor renovations to be made at the owner’s expense prior to move-in; new tenant chooses paint and carpet colors. Call now for an appointment to see this incredible space. Jessica Brown Rental Agency, 785-4302
160. What is true of the space for rent?
(A) It will be painted.
(B) It is dark.
(C) It has a new carpet.
(D) It doesn’t include parking.
- เพิ่มรูปแบบ Text-message ในหน้าต่างแชทหรือโทรศัพท์เข้ามาด้วย (Single Passage)
Ex. At 10.35 A.M. what does Mr. Swanson mean when he writes, “I don’t have a key”?
(A) He is not allowed to make a purchase.
(B) He has not yet been officially hired.
(C) He cannot access a storage room.
(D) He is waiting to receive a shipment.
- เพิ่มโจทย์ประเภทให้เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อเอาประโยคที่ให้มาเข้าไปแทรก เช่น
October 20 Mr. Hubert West Dear Mr. West -- The contract will remain unchanged. – |
Ex. In which of the positions marked
“Movies in class are also sure to interest them.”
(A)
Double Passages: จะมีบทความ 2 อันมาให้อ่าน และหาคำตอบคู่กัน เช่นให้ใบปลิวโฆษณามา ด้านล่างเป็นอีเมลที่ลูกค้าเขียนสั่งสินค้าจากโฆษณา เวลาหาคำตอบก็ต้องดูควบคู่กันทั้งสองอย่างค่ะ (มีคำถามประมาณ 10 ข้อ)
ตัวอย่าง
WORKSHOP SCHEDULE-DRAFT Time Location Presentation Presenter 9.30 Room B Changing World Markets L. Chang 11.00 Room C Cross-Cultural Considerations in Marketing J.H. Lee 12.15 Room C Lunch 1.30 Room D Analyzing Demographics I.A. Kim 3.00 Room A Internet Marketing D. Wang 4.00 Room A Open Discussion All |
To: F. Bao Ms. Bao, I have attached a draft of the schedule for the upcoming workshop. I wish we had scheduled it for a week from today instead of for the day after tomorrow. There is still so much to do the get ready; however, we can’t change the date now. I really appreciate your support in getting things ready. Here are some things I need you to take care of. Tea and snacks should be served immediately after Mr. Chang’s presentation. He plans to talk for just an hour, so there will be time for this before the next presentation begins. Also, the room that we have scheduled for lunch is one of the smallest rooms, and serving a meal there would be difficult. In addition, we have a workshop scheduled in the same place right before lunch, so there would be no time to set up. See if you can exchange places with the Demographics workshop. The room we have scheduled for that seems more convenient and comfortable for eating. Please make sure there are enough chairs in each room for everyone. So far, 45 people have registered for the workshop, but a few more registrations could come in today or tomorrow. You should have 15 extra chairs in each room just to be safe. There is one last schedule change. Mr. Wang will have to leave right after lunch, so please give him Ms. Lee’s time slot. and she can take Mr. Wang’s afternoon time slot. Send me the revised schedule this afternoon. Thank you. Jae Sun Park |
176. When will the workshop take place?
(A) March 10
(B) March 11
(C) March 12
(D) March 17
177. Where does Mr. Park want the lunch served?
(A) Room A
(B) Room B
(C) Room C
(D) Room D
178. What time will tea and snacks be served?
(A) 9.30
(B) 10.30
(C) 11.00
(D) 12.15
179. How many chairs should there be in each room?
(A) 15
(B) 30
(C) 45
(D) 60
Triple Passages: มีบทความมาให้ 3 ส่วน (ปนกันทั้งอีเมล ใบปลิว ใบเสร็จ โฆษณา ข้อความ หรือพวกหน้าเว็บต่างๆ)
Home Menu Back Next Support the City Natural Museum in Berkley City – become a member! Choose from these affordable membership plans: ONLINE – A special plan for enthusiasts who have moved out of town and cannot visit our physical museum. Benefits: free subscription to the museum’s monthly magazine; 5% discount on all items from online museum store; free museum coffee mug. Price: $20/year. BASIC – Benefits: Unlimited free admission to museum; free admission to three special exhibitions* per year. Price: $50/year. PLUS -- Benefits: All the benefits of BASIC, plus two free members-only city tours sponsored by the museum. Price: $100/year. GOLD – Benefits: All the benefits of PLUS, plus free access to museum’s exclusive VIP lounge. Price: $200/year. *Does not include admission to annual show. |
From: Lianna Rose (Rose.L@mail.com) To: City Natural Museum memberships (members@cnm.com) Date: January 11 Dear Sir or Madam, Thank you for the reminder to renew my membership. Enclosed is a check for $100 for one year. I enjoyed last year’s special exhibits very much. I’m also looking forward to participating in the exclusive city tours. As a regular visitor, I appreciate last year’s careful renovation of Exhibit Hall D.
Keep up the good work! |
The City Natural Museum (CNM) is ready for a great year of special exhibitions! *We’ve fixed the dates so that there’s an exhibit for every season. Check them out:
|
Ex. Which membership did Ms. Rose most likely purchase this year?
(A) Online (B) Basic (C) Plus (D) Gold
Ex. When would a special exhibit not be free to museum members?
(A) In January (B) In June (C) In August (D) In November
แนวการตอบ: เราจะต้องอ่านโจทย์ และเช็คข้อมูลจาก 2 หรือทั้ง 3 ส่วนเพื่อหาคำตอบ เช่นข้อแรกถามว่า Ms. Rose จะสมัครสมาชิกแบบไหน เราต้องดูเทียบข้อมูลจากหน้าเว็บ (อันแรก) กับอีเมลอันที่ 2 ซึ่งเค้าบอกว่าแนบเช็คมูลค่า $100 มาให้ ซึ่งตรงกับราคาของสมาชิกแบบ PLUS นั่นเอง
ส่วนอีกข้อต้องเทียบข้อมูลจากหน้าเว็บอันแรก กับประกาศที่ 3 จะเห็นว่าในหน้าเว็บมีหมายเหตุไว้ด้านล่างว่าในส่วนที่เข้านิทรรศการฟรีนั้น ไม่รวมนิทรรศการประจำปี และประกาศที่ 3 งาน ‘Natural Habitat’ มีวงเล็บบอกไว้ว่าจัดทุกปีช่วงกันยา-พฤศจิกายน ดังนั้นข้อนี้ต้องตอบว่า November ค่ะ
เทคนิคการทำ Single/Double Passage
ขอพูดรวมสำหรับทั้ง 2 แบบเลย เพราะมีคล้ายกัน ใช้เทคนิคเดียวกันได้
1. เรียงลำดับโจทย์ (ทำก่อน-หลัง)
ทำไมต้องเรียงล่ะ? เพราะถ้าเราไปเริ่มทำจากข้อที่ยาก และต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลเยอะก่อน จะทำให้เสียเวลามาก สุดท้ายกลายเป็นทำไม่ทัน! ดังนั้นถ้าเรียงโจทย์ได้ แล้วทำตามลำดับ จะช่วยทำเวลาในการสอบได้เยอะเลย แถมสมองจะไม่ล้าด้วย
-
โจทย์ถามคำศัพท์ (ทำลำดับที่ 1) ส่วนมากโจทย์จะให้ศัพท์มา และถามว่าคำไหนในตัวเลือกที่ความหมายใกล้เคียงกัน ซึ่งบางทีดูตัวเลือกตอบได้เลยก็มีถ้ารู้ศัพท์ หรือถ้าต้องกลับไปเช็คจากบทความ ก็แค่ไปหาที่จุดนั้น (เค้าจะบอก line บอก paragraph มาให้อยู่แล้ว)
-
โจทย์ที่มีเลข, choice สั้น (ทำลำดับที่ 2) พวกนี้อาจจะไม่ได้ตอบได้ทันที แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าจะต้องไปมองหา “อะไร” ในบทความ และจะมองหาได้ง่ายกว่าเพราะตัวเลขจะสะดุดตาเรามากกว่าตัวหนังสือ หรือถ้าเป็นโจทย์ที่ choice สั้นๆ เราก็มองหาแค่เป็นคำๆ ไป ใช้เวลาไม่เยอะมาก
-
โจทย์ choice ยาว, Why (ทำลำดับที่ 3) โจทย์แบบนี้ต้องใช้เวลานานหน่อยในการหาคำตอบ เพราะถ้า choice ยาว การจับ keyword เพื่อให้หาคำตอบก็จะยากขึ้น และถ้าข้อไหนที่ถาม Why (ทำไม เพราะอะไร) พวกนี้บางทีเราต้องสรุปคำตอบเองจากบทความด้วยซ้ำ เพราะงั้นถ้าดันนนนไปทำเป็นข้อแรกๆ จะเสียเวลาอ่านนาน
- NOT (ทำลำดับสุดท้าย) คำถามแบบนี้ “อย่าทำก่อน” เพราะโจทย์แบบนี้ถามหาข้อผิด ซึ่งหมายความว่าจะมีข้อถูกถึง 3 ข้อ จะเสียเวลาในการต้องเช็คว่า 3 ข้อไหนที่ถูกตามเนื้อเรื่อง ถามว่าถ้าทำโจทย์ประเภทนี้ก่อนจะเกิดอะไรขึ้น? >>> เราจะไม่รู้เลยว่าควรอ่านตรงไหน คำตอบจะอยู่แถวไหน เสียเวลาอ่านนานมาก ทำให้ทำพาร์ทนี้ไม่ทัน แต่! ถ้าเราเก็บไว้ทำสุดท้าย เราจะพอผ่านตาเนื้อเรื่อง และพอเข้าใจแล้วว่าบทความพูดถึงอะไร ประเด็นไหนอยู่ตรงไหนบ้าง ทำให้หาคำตอบได้เร็วขึ้น
2. เช็คคำตอบให้ดี เพราะบางข้อ คำตอบสุดท้ายอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่เราจะอ่านเจอ โดยเฉพาะใน Double Passage เช่นบทความแรกเป็นอีเมลจากลูกน้องแจ้งหัวหน้าว่านัดประชุมวันศุกร์นะ อีกบทความเป็นอีเมลจากหัวหน้าบอกศุกร์ไม่ว่างนะ เปลี่ยนเป็นวันจันทร์แทน ซึ่งถ้าเราอ่านแต่ท่อนแรก ก็อาจจะเผลอไปตอบวันศุกร์ได้ เพราะงั้นเช็คให้ดี
3. รายละเอียดบางประเภท จะไม่บอกชัดเจนในบทความ แต่ต้องคิดเองต่ออีกหน่อย เช่น
- วัน, วันที่ สมมติถามว่างานสัมมนามีเมื่อไร และตัวเลือกเป็นวันที่เลย ส่วนในอีเมลมีแต่บอกว่าเจอกันอีก 2 สัปดาห์นะ แบบนี้เขามักจะให้หัวอีเมลมาด้วย ว่าวันที่เขียนเมลน่ะเมื่อไร แล้วก็บวกไปอีก 14 วัน (2 สัปดาห์) ถึงจะเป็นคำตอบค่ะ
- ราคา พวกนี้ชอบถามสรุปราคาที่ต้องจ่ายเท่าไร บางทีเป็นโฆษณาเสนอ package จัดงานเลี้ยง มีหลายแบบให้เลือก อีกบทความเป็นอีเมลลูกค้าบอกความต้องการเช่นมีแขกกี่คน ต้องการอะไรบ้าง เราก็ต้องไปดูว่าความต้องการของลูกค้าเข้าข่าย package ไหน (ยิ่งถ้ามีส่วนลดอีกต้องคำนวณให้ดีค่ะ ว่าถ้าเข้าข่ายได้ส่วนลดด้วย ราคา final จะเป็นเท่าไร)
แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเขาจะให้มาคิดเลขเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ (ข้อสอบมันวัดระดับภาษาอังกฤษ เขาไม่ใจร้ายเอาเลขยากๆ มาให้เราหรอก) ตัวเลขมักจะบวก ลบง่ายๆ หลัก 5 หลัก 10 คนไม่เก่งคำนวณสบายใจได้ค่ะ ทำได้แน่นอน
สิ่งที่อยากฝากทิ้งท้าย: “รู้แค่เทคนิคไม่ช่วยอะไร ถ้าไม่ขยันทำโจทย์” การฝึกทำโจทย์บ่อยๆ จะทำให้เราชินกับรูปแบบ และ pattern การทำข้อสอบ เมื่อไปลงสนามจริงก็จะไม่ลนลาน และบริหารเวลาได้ดี มีสติในการทำข้อสอบมากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมแบ่งเวลาฝึกทำโจทย์ด้วย และอย่ามัวแต่รอให้พร้อมก่อนค่อยคิดไปสอบ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะพร้อมเมื่อไร แล้วจะกลายเป็นผลัดไปเรื่อยๆ ไม่ได้คะแนน TOEIC มาครอบครองซักที ทางที่ดีแนะนำให้จองเวลาสอบ หรือตั้งเป้าไว้เลยจะสอบเมื่อไร จะได้มีเป้าหมายในใจว่า “ฉันต้องฝึก และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบวันที่ xx”
✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีให้ครบทุกอย่าง! ✿
ติว TOEIC กับครูดิว ดียังไง?
- คอร์สติว TOEIC ของครูดิวนั้น เรียน Online
- แบ่งบทเรียนชัดเจน เรียนง่ายไม่งง คลิ๊กเลือกบทเรียนที่ต้องการได้ทันที
- สามารถหยุด, เล่นซ้ำบทเรียนที่ต้องการได้แบบไม่อั้น! (ตลอดระยะเวลาคอร์ส)
- อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ใหม่ล่าสุด! ครบชุด!
- มีไฟล์ E-Book (PDF) ประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด (และมีหนังสือเรียนเป็นเล่มส่งให้ถึงบ้าน)
- เรียนเวลาไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ แค่มี Internet
- หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเรียน สามารถส่งคำถามหาทีมงานได้
- การันตีคะแนน 750+ (หากสอบแล้วไม่ถึง สามารถแจ้งทวนคอร์สได้ฟรี!)
ทดลองติว TOEIC ฟรีได้ที่ >>> คอร์ส KruDew TOEIC