ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบ TOEICⓇ ตั้งแต่วิธีสมัคร เทคนิคเตรียมตัว หนังสือเรียน คอร์สติว ตัวอย่างข้อสอบพร้อมเฉลย ตำแหน่งงานที่ใช้คะแนน TOEICⓇ วิธียื่นคะแนนโทอิคเพิ่มเงินเดือน ที่นี่ ที่เดียว ครบเลย ✅
ข้อสอบ TOEICⓇ คืออะไร ❓
ข้อสอบ TOEICⓇ มีชื่อเต็มๆ คือ Test of English for International Communication เป็นข้อสอบที่ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษโดยทั่วไป สำหรับคนทำงาน และนักศึกษาที่กำลังจะก้าวเข้าสู้วัยทำงาน ซึ่งข้อสอบ TOEIC ถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่องค์กร และบริษัทชั้นนำต่างต้องการอีกด้วย เท่ากับว่าข้อสอบ TOEIC สามารถเพิ่มโอกาสให้กับหลายๆคนที่กำลังหางานได้จริงๆ
ซึ่งรูปแบบข้อสอบ TOEIC จะมี 2 รูปแบบ คือ Listening & Reading Test และ Speaking & Writing Test แต่ในปัจจุบันจะนิยมสอบแบบ Listening & Reading Test เป็นหลักนะคะ
คะแนน TOEIC จะมีการแบ่งระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษตามช่วงตั้งเเต่ 10-990 คะแนนดังนี้
ระดับคะแนน |
คำอธิบาย |
905-990 (91%-100%) |
International Professional Proficiency |
785-900 (79%-90%) |
Working Proficiency Plus |
605-780 (61%-78%) |
Limited Working Proficiency |
405-600 (41%-60%) |
Elementary Proficiency Plus |
255-400 (26%-40%) |
Elementary Proficiency |
10-250 (0%-25%) |
Basic Proficiency |
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจ ล้วนแล้วแต่ต้องการคะแนน TOEIC ทั้งสิ้น ซึ่งระดับคะแนนที่เป็นมาตรฐานของการสมัครงานโดยทั่ว ๆ ไปจะเริ่มต้นที่ 550 คะแนน แต่ถ้าเป็นสายงานที่มีการใช้ภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น คะแนนที่ต้องการก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ นอกจากนี้บริษัทและองค์กรส่วนใหญ่มักจะมีค่าตอบแทนพิเศษ หรือที่เราคุ้นเคยคือ "ค่าภาษา" นั่นเอง อัตราค่าตอบแทนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ตั้งแต่ 2,000 - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงคะแนนที่ได้ และนโยบายของบริษัทค่ะ
✦✦ มาเริ่มที่หน่วยงานราชการกันก่อนเลย ✦✦
➤ โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
หรือที่เรียกกันว่า "ครูคืนถิ่น" ซึ่งเป็นโครงการสำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับราชการครู ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการยอดนิยมของคุณครูไม่แพ้การสอบรับราชการครูประเภทอื่น ๆ เลยก็ว่าได้ แต่คะแนน TOEIC จะเกี่ยวข้องอะไรกับโครงการนี้หล่ะ แอดมินขอบอกว่าเกี่ยวเต็ม ๆ เพราะเค้าได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครไว้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จะต้องมีผลคะแนน TOEIC ไม่ต่ำกว่า 500 คะแนน ถ้าไม่ถึงก็เข้าสมัครร่วมโครงการไม่ได้นะ
...................................................................
ต่อมา เรามาดู ✦✦ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ✦✦ กันเลยดีกว่า
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจนี่ขึ้นชื่อเลยว่า งานดี เงินดี สวัสดิการดีเหมือนกันนะคะ แล้วถ้าอยากเข้าทำงานต้องใช้ TOEIC เท่าไหร่กันบ้างน้าาา??
➤การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) [EGAT]
ใช้ TOEIC 550 คะแนน (แบบ Personal) *อายุคะแนนไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร *เฉพาะระดับป.ตรี/ป.โท |
➤การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) [MEA]
ใช้ TOEIC 550 คะแนน (แบบ Personal) *อายุคะแนนไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร *เฉพาะระดับป.ตรี/ป.โท |
➤การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) [PEA]
คุณสมบัติสำหรับทุกตำแหน่ง ป.ตรี – TOEIC 500 คะแนน ป.โท – TOEIC 550 คะแนน *แบบ Personal เท่านั้น *อายุคะแนนไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร |
➤บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) [AOT]
ใช้ TOEIC ไม่ต่ำกว่า 550 , 600, 700 คะแนน (แบบ Personal) *อายุคะแนนไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร *เฉพาะระดับป.ตรี/ป.โท *คะแนน TOEIC ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน |
➤บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) [TOT]
ใช้ TOEIC ไม่ตำกว่า 500 คะแนน (แบบ Personal) *อายุคะแนนไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร *เฉพาะระดับป.ตรี/ป.โท |
*สำหรับ TOT จะให้คะแนนพิเศษในการสอบสัมภาษณ์สำหรับผู้ที่มีคะแนน TOEIC ตามเกณฑ์
...................................................................
สุดท้ายและท้ายสุดแอดมินขอพูดถึง
✦✦ หน่วยงานเอกชน ✦✦
กันบ้างน้า ว่ามีที่ไหนใช่คะแนน TOEIC กันเท่าไหร่บ้าง ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
TOEIC 500
TOEIC 600
TOEIC 650 : IT System Analyst TOEIC 700
|
TOEIC 400
TOEIC 600
|
TOEIC 500 : Cost Engineering Control Center TOEIC 550
TOEIC 600
|
TOEIC 550
|
TOEIC 650
|
TOEIC 600
TOEIC 650 :
TOEIC 700 :
TOEIC 750+ :
|
TOEIC 550
TOEIC 600 :
TOEIC 750+ :
|
TOEIC 550
|
เห็นไหมคะว่าคะแนน TOEIC สามารถเพิ่มโอกาสในการหางานของเราทุกคนได้จริง ๆ และยังมีบริษัทอีกมากมายที่แอดมินไม่ได้พูดถึง แต่บริษัทเหล่านั้นก็ต้องการคะแนน TOEIC กันทั้งสิ้น
เพราะในปัจจุบัน การทำงาน หรือติดต่อประสานงานต่าง ๆ ล้วนแต่มีการใช้ภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และถึงเราจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีก็จริง แต่อะไรหล่ะที่จะเป็นเครื่องการันตีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของเราในการทำงาน นั่นก็คงไม่พ้น "คะแนน TOEIC " แน่นอนค่ะ แอดมินหวังว่าหลาย ๆ คนที่อ่านบทความนี้จะเริ่มตั้งเป้า เตรียมตัวสอบ TOEIC กันนะคะ
วิธีสมัครสอบ TOEIC
- เปิดให้สอบวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 2 รอบ เช้า 09.00 น. - 12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00 น. - 16.00 น.
- ค่าสมัครสอบ TOEIC 1,800 บาท (สำหรับการสอบแบบปัจจุบัน)
- เปิดให้สมัครสอบ TOEIC แบบใหม่ (เดือนละ 1 ครั้ง) โดยสามารถสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
- ขั้นตอนสำรองที่นั่งสอบ TOEIC
- สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ทาง
- โทร 02-260-7061 หรือ 02-259-3990 สำหรับสาขากรุงเทพฯ
- โทร 053-241-273, 053-241-274, 053-241-275 สำหรับสาขาเชียงใหม่
- แจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ดังนี้
- ชื่อและนามสกุล (ภาษาอังกฤษเท่านั้น)
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- วันที่และเวลาที่ต้องการสำรองที่นั่งสอบ
- เบอร์ติดต่อ
- สิ่งที่ต้องเตรียมในวันสอบ
- บัตรประจำตัวประชาชนที่ไม่หมดอายุ
- นำเงินไปชำระค่าสอบ 1,800 บาท
ขั้นตอนการรับผลคะแนน
1. เดินทางไปรับด้วยตัวเอง ณ ศูนย์สอบ
2. แจ้งศูนย์สอบให้ส่งผลคะแนนตามที่อยู่ที่เราต้องการให้จัดส่ง *
*หมายเหตุ : วิธีการรับการรับผลคะแนน TOEIC นั้น ผู้สมัครสอบสามารถแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ ในวันที่สมัครสอบ ว่าต้องการรับผลคะแนนด้วยวิธีไหน ได้เลยนะคะ
อยากได้คะแนนดีๆ จะต้องติว TOEIC อย่างตรงจุด เข้าใจข้อสอบ รู้เทคนิคลัด ที่จำเป็นสำหรับการสอบ
อย่าลืมนะคะ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขอแค่เราฝึกฝนและตั้งใจอย่างเต็มที่ค่ะ รับรอง คะแนน TOEIC ดี ๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
☺️☺️☺️
................................................
ศูนย์สอบ TOEIC มีที่ไหนบ้าง ❓
ศูนย์สอบกรุงเทพฯ อาคาร BB Tower ชั้นที่ 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 21 กรุงเทพ 10110
☎ เบอร์โทร 02-2607061 , 02-259-3990
(source: http://cpathailand.co.th/)
สายรถเมล์ที่ผ่าน: 38, 98, 136, 185
รถไฟฟ้า MRT: ลงสถานีเพชรบุรี (ทางออก 2) หรือสถานีสุขุมวิท (ทางออก 2 เชื่อมตึก Interchange 21)
รถไฟฟ้า BTS: ลงสถานีอโศก (ทางออก 3, 6 --ไปตึก Interchange 21)
ศูนย์สอบเชียงใหม่ อาคารนวรัตน์ ชั้นที่ 3 ถนนแก้วรัตน์ ซอย 3 เชียงใหม่
☎ เบอร์โทร : 053-241-273, 053-241-274, 053-241-275
(source: http://cpathailand.co.th/)
................................................
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อจะไปสอบ TOEIC
- นอนให้พอ
สำคัญมากกก เพราะในห้องสอบต้องใช้สมาธิสูงมาก (โดยเฉพาะพาร์ท Listening) ถ้ามัวแต่นั่งหาว สลึมสลือ มีหลุดแน่นอน
- อย่ากินอาหารแสลง ของเผ็ดๆ หรืออะไรที่เสี่ยงต่อการปวดท้อง ท้องเสีย
คิดดูว่าแค่เวลาปวดท้องตอนอยู่บนรถ เรายังเหงื่อตก ใช้สมาธิกลั้นแทบตาย! แล้วนี่ถ้าต้องนั่งทำข้อสอบไปด้วย? รับรองเลยว่าได้ออกจากห้องสอบก่อนแน่ๆ ไม่ก็ทำข้อสอบไม่รู้เรื่องแน่นอน
ดูวิธีการเดินทางอย่างละเอียดได้ >> คลิกเลย ⬅สำหรับผู้เข้าสอบ ศูนย์สอบกรุงเทพฯ
เมื่อทราบกันเเล้วว่าข้อสอบ TOEIC จะแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ Listening Comprehension และ Reading Comprehension โดยแต่ละพาร์ทมีจำนวนข้อสอบ 100 ข้อ รวมเป็นทั้งหมด 200 ข้อ มีเวลาในการสอบ 2 ชั่วโมงค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าข้อสอบ TOEIC แต่ละพาร์ท หน้าตาจะเป็นอย่างไร ❓ จะยาก หรือง่าย แค่ไหน มาทำความรู้จักกันเลยค่ะ
Listening Comprehension ข้อสอบในส่วนนี้มี 4 พาร์ท นะคะ (Part 1 - 4)
Part 1. Photographs (10 items)
พาร์ทนี้จะมีภาพมาให้ 10 ภาพ แต่ละข้อจะมีเสียงอ่านตัวเลือก 4 ข้อ ให้เราเลือกข้อที่บรรยายได้ตรงกับภาพมากที่สุด (ตัวเลือกไม่มีเขียนมาให้นะคะ)
ตัวอย่าง
เทปจะพูดว่า *(มีแต่เสียง ไม่มี script ให้อ่านนะคะ)*
A. The women are talking.
B. The lamps are turned on.
C. The women are reading.
D. The guy is talking on the phone.
เทคนิคการทำโจทย์ Photograph
1. ดูภาพคร่าวๆ ในแต่ละข้อ ไม่ต้องเพ่งดูแบบละเอียดนะคะ (อย่างมีหนังสือกี่เล่มอยู่ในตู้ ต้นไม้กี่ต้น อันนี้ละเอียดเกิน เขาไม่เอามาถามแน่ๆ ค่ะ) เช่นภาพด้านบน เราดูคร่าวๆ ก็บอกได้ว่า “ผู้หญิง 2 คนกำลังอ่านหนังสือ” เพราะฉะนั้นตอบข้อ C. ค่ะ ข้ออื่นๆ เป็นอะไรที่เราไม่รู้ (ก็ดูจากภาพมันบอกไม่ได้หรอก โคมไฟเปิดอยู่มั้ย ผู้ชายกำลังคุยโทรศัพท์รึเปล่า) ส่วนใครที่ลังเลว่าอาจจะเป็นข้อ A. ขอเตือนว่า เราห้ามคิดไปเองเด็ดขาด! ภาพให้มาเท่าไหน ดูตามความเป็นจริงเท่านั้นค่ะ อย่าคิดไปไกล
2. ระหว่างฟัง ดินสอจ่อไว้ที่ตัวเลือกแต่ละข้อเลยค่ะ ฟังข้อนึงจบปั๊ป ถ้าไม่ใช่ เลื่อนไปข้อต่อไปเลย เจอข้อไหนที่ใช่คำตอบ ฝนเลยค่ะ เสร็จแล้วไปดูภาพต่อไปรอไว้เลย
3. ถ้าข้อไหนฟังพลาดแล้ว หรือฟังครบ 4 ข้อแล้วยังไม่รู้คำตอบ ให้ข้ามไปเตรียมตัวข้อถัดไปเลย อย่ามัวแต่คิดข้อเดิม ไม่งั้นจะพลาดข้อต่อไปด้วย (อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าพลาดไปข้อนึงแล้ว เราจะลนมากๆ ทำให้ไปกระทบข้ออื่นด้วย)
** เวลาฟังเสียงแต่ละตัวเลือก ถ้าไม่ใช่คำตอบแน่ๆ ให้ผ่านเลย แต่ถ้ายังลังเล ให้จุดเล็กๆ ไว้เหนือช่องคำตอบก่อน อย่างน้อยๆ ถ้าฟังครบ 4 แล้วยังไม่เจอคำตอบที่คิดว่ามั่นใจ ก็ยังมีข้อที่จุดไว้ให้พอเสี่ยงดวงได้ (ดีกว่าฟังแล้วลืมหมดเลย 4 ข้อ ทีนี้โอกาสเดาถูกยิ่งน้อยลง)
-----------------------------------------------------------------------------------------
Part 2. Question-Response (30 items)
ส่วนนี้จะไม่ต้องใช้ตัวข้อสอบเลยค่ะ เพราะทั้งคำถาม และตัวเลือกจะมาเป็น เสียง ทั้งหมด โดยจะมีเสียงอ่านคำถามสั้นๆ พร้อมกับเสียงอ่านตัวเลือกอีก 3 ข้อ ให้เราเลือกคำตอบที่เหมาะกับคำถามมากที่สุด
ตัวอย่าง
เสียงคำถาม: “When did he arrive yesterday?”
เสียงตัวเลือก: A. He left at six.
B. Around midnight.
C. Yes, he’s still alive.
เทคนิคการทำ Question-Response
1. สำหรับข้อสอบส่วนนี้ เตรียมอ่านโจทย์ก่อนไม่ได้ เพราะฉะนั้นตั้งใจฟัง เงี่ยหูฟังให้ดี เวลาเสียงคำถามมา ให้คิดในใจเลยว่าเค้าถามอะไร คำตอบที่ได้ควรเป็นอะไร เช่นในตัวอย่าง ได้ยินว่า “When” แสดงว่าถามเกี่ยวกับเวลา ส่วนที่ตามมาเป็นรายละเอียดว่า เมื่อวานเขามาถึงตอนไหน พอเสียงตัวเลือกมา ให้ตั้งใจฟังข้อที่มีเวลาดีๆ (ข้อนี้ใครพลาดอาจโดนหลอกไปตอบข้อ A. ได้เพราะได้ยิน six แต่จริงๆ ต้องตอบ B. นะคะ)
- ถาม “When” คำตอบต้องเป็นเลขเวลา วัน หรือช่วงเวลาเช่น afternoon, tomorrow night, 4.30 เป็นต้น
- ถาม “What” ฟังโจทย์ให้ดีว่าถามถึงอะไร เลือกคำตอบที่สัมพันธ์กันมากที่สุด
- ถาม Do/Does/Did คำตอบไม่จำเป็นต้องขึ้นด้วย Yes, No เท่านั้น อาจจะตอบเป็นอย่างอื่นได้ เช่น
Do you like your job? คำตอบอาจจะเป็น: It is interesting. ก็ได้ - เสียงอ่านบางคำ เราอาจจะฟังไม่ออก ต้องฝึก และทวนบทเรียนไปดีๆ นะคะ เช่น “Was he” แต่เวลาเราได้ยินจะเป็น “Wuzzy” ซึ่งต้องอาศัยฝึกฟังเยอะๆ จะทำให้เดาออกง่ายขึ้นว่าที่เขาพูดคือคำว่าอะไร
- บางข้อคำตอบจะไม่ได้เป็นการตอบตรงๆ แต่จะเป็นการตอบแบบอ้อมเช่น ตอบกลับด้วยคำถาม หรือแทนที่จะตอบ yes/no ก็จะเลี่ยงไปตอบว่าไม่รู้ ไม่มั่นใจ เป็นต้น
2. เทคนิคเดิม ดินสอจ่อไว้ที่ตัวเลือกเลยค่ะ ข้อไหนไม่ใช่ข้าม เลื่อนไปรอตัวเลือกถัดไปเลย
*ระวัง: หลายคำถามจะไม่ได้มีคำตอบตรงๆ แต่เป็นการตอบคำถามในแบบอื่นแทน เช่นสมมติถามว่า "Will you stay after the show to meet the musicians?" คำตอบที่เราคาดหวังอาจจะเป็นการตอบ yes, no แต่สิ่งที่เราได้ยินอาจจะเป็น
(A) Almost as long as the previous show.
(B) I think so too.
(C) Don't they leave as soon as it's over?
เจอแบบนี้ทำไงล่ะ ไม่มี yes, ไม่มี no. แต่จริงๆ คำตอบคือ (C) เพราะเข้ากับคำถามมากที่สุด คือคำถามบอกว่า คุณจะอยู่หลังงานแสดงเพื่อพบกับนักดนตรีไหม? ส่วนคำตอบเหมือนเป็นการถามกลับว่า พวกเขาไม่ได้กลับทันทีหลังโชว์จบเหรอ (เจอแบบนี้ใครฟังพลาด อาจมีตอบผิดได้)
3. **ข้อนี้สำหรับคนที่สามารถสลับสมองได้ไวๆ จะมีประโยชน์มาก** สมมติว่าข้อไหนมั่นใจว่าคำตอบเป็นข้อ A. พอเรากาแล้ว จะยังมีเวลานิดหน่อยระหว่างที่เทปอ่านอีก 2 ตัวเลือก เราสามารถเหลือบตาไปมองข้อสอบพาร์ทถัดไป ที่เป็น Conversation ได้เลยนะ แล้วแอบมองหา keyword ไว้ก่อนได้เลย (เพราะ part ถัดไปเวลาในการอ่านโจทย์ก่อนจะน้อยมาก) แต่ระวัง! อย่าเพลินจนกลับมาทำต่อไม่ทัน ถ้าใครรู้สึกว่าแยกสมองไม่ค่อยทัน ก็ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้เท่าไร เพราะเดี๋ยวจะไปมัวอ่านพาร์ทถัดไป จนฟังคำถามพาร์ทปัจจุบันไม่ทัน
-----------------------------------------------------------------------------------------
Part 3. Short Conversations (30 items)
บทสนทนาสั้นๆ ระหว่างคน 2 คน (มักจะเป็นหญิง-ชายคุยกัน) แต่ละบทสนทนาจะมีคำถาม 3 ข้อ พอเทปเล่นบทสนทนาเสร็จแล้ว จะมีเสียงอ่านโจทย์แต่ละข้อ (แต่ไม่มีเสียงอ่านตัวเลือกนะ) **เป็นพาร์ทที่คนส่วนใหญ่ตายสนิท เพราะฟังไม่ทัน อ่านโจทย์ไม่ทัน ไม่รู้จะฟังอะไรเป็นคำตอบ สุดท้ายเลยพลาดยาวๆ ไป
[เสียงบทสนทนาจากเทป]
Woman: I sent you those books the other day. Did you get them?
Man: No. I’ve been waiting for them, but they haven’t arrived yet. When did you send them?
Woman: Three days ago. I think I should report them as lost.
Man: Relax. You sent them on Monday and today is only Wednesday. Let’s wait for another day.
Then if they aren’t here by Friday, you can report them.
53. What did the women send the man?
A. Reports
B. Books
C. Photographs
D. Postcards
54. When did she send them?
A. One day ago
B. Two days ago
C. Three days ago
D. Four days ago
55. What does the woman want to do now?
A. Call the man
B. Wait another day
C. Resend the books to the man
D. Report the package as lost
เทคนิคการทำ Short Conversations
1. สำคัญเลยคือต้องสแกนโจทย์ และ choice คร่าวๆ ใน set ก่อนว่าถามถึงอะไรบ้าง เพราะจะทำให้เรามีจุดหมายในการฟังมากขึ้นว่าฟังเพื่อหาคำตอบแบบไหน เช่นถาม What, Where, When, Why รวมถึงพวก inference (สรุปความ จับสิ่งที่เค้าจะสื่อจากบทสนทนา) ด้วย คำถามที่เจอบ่อยๆ จะแบ่งเป็น 3 ประเภท
1.Topic/Main Idea (ถามหาประเด็น ใจความหลักที่บทสนทนาพูดถึง)
- What are the speakers mainly discussing?
2. Details (ถามหารายละเอียดจากบทสนทนา)
- What does the man offer to do for the woman?
- Why does the woman have to come back tomorrow?
3. Inference (ถามหาสรุป หรือสิ่งที่บทสนทนาพยายามจะสื่อ)
- Where does the conversation take place?
- What can be inferred about the woman?
- What will probably happen next?
2. ส่วนมากบทสนทนามักจะไม่ใจร้าย คือคำตอบของ 3 ข้อ มักจะเรียงลำดับกันอยู่ในบทสนทนา (ยกเว้นพวกให้สรุปความ ที่ฟังจบถึงตอบได้ หรือบางครั้งฟังแล้วพอเดาได้ก็ตอบได้ก่อนเลยก็มี)
3. พาร์ทนี้แนะนำให้ฟังแล้วติ๊กคำตอบไว้ก่อน ยังไม่ต้องฝนเต็มวง (พอได้คำตอบครบ 3 ข้อแล้วค่อยมาฝนอีกที)
เหตุผลเพราะเราจะได้มีสมาธิอยู่กับการฟังก่อน เพราะการฝนแต่ละครั้งใช้เวลามากกว่าการติ๊กเครื่องหมาย แถมถ้าผิดยังลบยากกว่าด้วย เผลอๆ มัวแต่ฝน และลบ ทำให้พลาดคำตอบของข้อถัดไปเลยนะ
4. บางบทสนทนาก็จะถามรายละเอียดที่เขาพูดรวบในประโยคเลย เช่น
Woman: “Mark, are you free to join the 10 o’clock meeting on Wednesday?”
Man: “Yes, but I’ll have to meet with the client in the morning. So, I’ll probably be around 15 minutes late.”
คำถามจะมีทั้ง “What time will the man join the meeting?”
A. 9.00
B. 9.15
C. 10.00
D. 10.15
และ “When is the meeting?”
A. On Monday
B. On Wednesday
C. On Friday
D. On Thursday
ถ้าเราฟังทันทั้งหมด สามารถตอบได้ 2 ข้อทันที จาก 3 ข้อ อย่างข้อแรกต้องคำนวณนิดนึงคือผู้หญิงบอกว่าสะดวกมาประชุม 10 โมงวันพุธไหม ผู้ชายบอกว่าได้ แต่จะไปสาย 15 นาทีนะ ดังนั้นข้อแรกต้องตอบ D. 10.15 (ถามว่าผู้ชายจะเข้าประชุมกี่โมง) ส่วนอีกข้อคำตอบอยู่ในคำถามของผู้หญิงแล้ว คือการประชุมจะมีขึ้นในวันพุธนั่นเอง
5. ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเริ่มชุดใหม่ แนะนำให้ลองอ่านตัวเลือกคร่าวๆ เพราะมันจะทำให้เราพอเดาออกว่าเรื่องน่าจะเกี่ยวกับอะไร หรือเกิดขึ้นที่ไหน เช่นอ่านแล้วเจอตัวเลือกพวกชื่อสถานที่ (ดูว่ามีที่ไหนบ้าง) ข้อถัดไปตัวเลือกเป็นการบอกว่าจะเตรียมดอกไม้ให้ทัน อีกข้อบอกตัวเลือกเกี่ยวกับขอใบเสร็จเป็นหลักฐาน ก็อาจจะพอเดาเนื้อเรื่องที่จะได้ยินถัดไปได้ว่าอาจจะเกิดที่ร้านดอกไม้ แล้วคนพูดเป็นลูกค้า กับเจ้าของร้าน ลูกค้าน่าจะเป็นพนักงาน เป็นต้น **ถ้าทำได้ และทัน มันจะช่วยให้เราฟังเรื่องได้ง่ายขึ้นจริงๆ นะ
6. ถ้าฟังจบแล้ว ข้อไหนยังไม่ได้คำตอบ ลองติ๊กเดาข้อที่คิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดไว้ก่อน แล้วเอาเวลาไปอ่านโจทย์ 3 ข้อในชุดถัดไปดีกว่า อย่าไปเสียเวลานั่งคิด นั่งนึก เพราะจะทำให้ฟังไม่ทันด้วย ส่วนใครถ้าได้คำตอบครบแล้ว ไม่ต้องฟังจนจบ ข้ามไปอ่านโจทย์ชุดถัดไปรอไว้เลย
-----------------------------------------------------------------------------------------
Part 4. Short Talks (30 items)
จะเป็นเสียงประกาศต่างๆ เช่นประกาศในสนามบิน บนรถไฟ โฆษณาทางวิทยุ พยากรณ์อากาศ เป็นต้น โดยจะมีคนพูดแค่คนเดียว ไม่มีการโต้ตอบ และมาพร้อมคำถาม 3 ข้อต่อ 1 ประกาศเช่นกัน
ตัวอย่าง
[เสียงประกาศจากเทป]
“Good afternoon. Flight 692 to Paris is about to begin boarding at Gate 9. All passengers for Paris, please approach Gate 9 now. We will board passengers with small children first, and then we will begin boarding from the back of the plane, starting with Rows 30 to 35. Please remember, only one piece of carry-on luggage, excluding purses and coats, is allowed. Passengers are asked to check extra luggage with the gate attendant. Have a pleasant trip and thank you for flying with us.”
98. Where would this announcement be heard?
A. Bus station
B. Airport
C. Boat deck
D. Train station
99. Which gate should passengers go to?
A. 3
B. 5
C. 7
D. 9
100. Who will get on first?
A. Passengers for Paris
B. Passengers with luggage
C. Passengers with children
D. Passengers in row 30 to 35
เทคนิคการทำ Short Talks
1. มีเวลา อ่านโจทย์ก่อน ดูว่าแต่ละข้อถามถึงอะไร
2. ตอนฟังพยายามจับใจความให้ดีว่าประกาศนี้น่าจะเกิดขึ้นที่ไหน (ถามบ่อย) สถานการณ์คืออะไร เช่นบางทีเป็นประกาศบอกรถไฟล่าช้า แต่อาจจะฟังคล้ายประกาศบนเครื่องบินได้เหมือนกัน (ส่วนมากถ้าเป็นเครื่องบิน จะมีคำว่า flight, on board มาให้เราพอเดาได้)
3. ฟังพวกเวลา ตัวเลข สภาพอากาศ หรือพวกคำสั่ง คำแนะนำให้ดี เป็นรายละเอียดที่ชอบถาม เช่น
- What is the weather like today?
- When will the show begin in the afternoon?
- What will happen in 10 minutes?
- How much is the discount?
- What should the passenger do before leaving the train?
4. คำถามประเภทสรุปความ เช่น What does the speaker imply? บางทีไม่มีคำตอบชัดเจน แต่สมมติเขาพูดว่าวันนี้อากาศดีนะ ไม่เหมือนเมื่อวาน แสดงว่าเราสรุปได้ว่าเมื่อวานอากาศไม่ดี เป็นต้น
----------------------------------------------------------------------------------------
Reading Comprehension ข้อสอบในส่วนนี้มี 3 พาร์ท นะคะ (Part 5 - 7)
พาร์ทนี้มีเวลาให้ 75 นาที ดูเหมือนเยอะ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ทัน! ดังนั้นต้องบริหารเวลาให้ดี ตอนฝึกซ้อมทำชุดข้อสอบ ให้ลองจับเวลาไปด้วย จะได้พอรู้ว่าในแต่ละพาร์ทเราใช้เวลาไปเท่าไร และถ้าเกินจะต้องปรับตรงไหนให้ทำทัน
Part 5. Incomplete Sentences (40 items)
ส่วนนี้จะเหมือนข้อสอบสมัยเราเรียนม.ปลาย มหาวิทยาลัยเลยค่ะ (หลายคนอาจลืมแล้ว เพราะนานมาก) คือจะมีประโยค ที่มีช่องว่างเว้นไว้ ให้เราเลือกคำตอบที่ถูกต้องมาใส่
ขีดเส้นใต้เอาไว้ ไม่จำเป็นต้องอ่าน และแปลโจทย์ทั้งหมด ส่วนใหญ่สามารถดูหน้า หรือหลังช่องว่างแล้วตอบได้เลย (ยกเว้นบางข้อที่วัดเรื่องความหมาย ต้องอ่านคร่าวๆ ทั้งประโยคเพื่อดูความหมาย) ดังนั้นเทคนิคที่ครูดิวสอนในการสังเกตประเภทคำ หรือพวกคำเชื่อมต่างๆ ใช้กับอะไรบ้าง อันนี้ช่วยได้มากจริงๆ ค่ะ เพราะแทบไม่ต้องอ่านโจทย์ ก็ตอบได้เลย
ตัวอย่าง
131. For reasons of _____, anyone entering the construction area must wear a hard hat.
(A) safety
(B) safe
(C) safely
(D) safer
เทคนิคการทำ Incomplete Sentences
1. พาร์ทนี้ ท่องไว้ว่า “อ่าน choice ก่อนเสมอ” (x3) เพราะอย่างที่บอกว่ามักจะวัดเรื่อง Grammar แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าเขาเอาเรื่องไหนมาวัด? คำใบ้จะมาจากการอ่าน choice นั่นเอง มันจะทำให้เราแยกโจทย์ได้ว่าข้อไหน กำลังถามถึงเรื่องอะไรอยู่ อย่างในตัวอย่างข้างบน จะเห็นว่าใน choice คำที่ให้มา ถ้าแปลเอามันก็ความหมายเดียวกัน คล้ายๆ กันหมดเลย ดังนั้นแสดงว่าโจทย์น่ะต้องการถามว่าในช่องว่าง ตามหลักแล้วมันควรจะเติมคำประเภทไหนลงไป (หรือที่เรียกว่า Part of Speech) เพราะงั้นถ้าเรารู้ว่า “ตามหลัง of มักจะเป็น Noun เสมอ” เราก็จะมองหาคำตอบข้อที่เป็น Noun และถ้ารู้เทคนิคอีกว่าคำที่ลงท้ายด้วย “-ry, -ty, -ment” มักจะเป็น Noun ข้อนี้ก็สบายเลยยย ตอบ (A) ได้ โดยไม่ต้องอ่านโจทย์ทั้งหมดด้วยซ้ำไป
**วิธีการแยกโจทย์ Grammar ที่มักออกข้อสอบ TOEIC บ่อยๆ ดูได้จากที่นี่เลย มีรวมไว้พร้อมเทคนิคเรียบร้อยแล้วววว https://www.opendurian.com/learn/toeic_technique_grammar/
2. ถ้าข้อไหนวัดเรื่องความหมาย ให้ลองอ่านโจทย์แล้วแปลคร่าวๆ ให้พอรู้เรื่อง แล้วมาดูความหมายของตัวเลือกอีกที (ถ้าไม่รู้ความหมายของตัวเลือก คงต้องเดาเอาแล้วค่ะ แต่ถ้าพอจำศัพท์ได้บ้าง จะช่วยตัดตัวเลือกได้เยอะเลย)
เรื่องที่ออกสอบ part นี้บ่อย
- Part of Speech อันนี้ให้เลย เพราะเจอเยอะ บางทีตัวเลือก 4 ข้อเป็นคำเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยน Part of Speech (มีทั้ง V., N., Adv., Adj.) เพราะงั้นเค้าไม่ต้องการวัดความหมาย แค่อยากรู้ว่าเราจะเลือกประเภทคำถูกมั้ย
- Prepositions, Conjunctions และคำเชื่อมต่างๆ อันนี้เจอเยอะอันดับ 2 เลย แนะนำให้ทวนไปเยอะๆ ได้ใช้แน่นอน
- Tense มีประปรายค่ะ ไม่ยากมาก ส่วนใหญ่เป็นพวก Present Simple (verb เติม s/ไม่เติม s), Present Perfect, Future ซึ่งจะตอบได้ให้ลองมองหาคำใบ้บอกเวลา (อดีต/ปัจจุบัน/อนาคต) ในประโยค บางทีมีมาให้แล้ว เช่น before, since, tomorrow, last year etc.
- Meaning of words มีประปรายเช่นกัน คือวัดกันที่ความหมายของคำเลย (มีทั้ง N, Adv., Adj., คำเชื่อม) เจอศัพท์ที่รู้ก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอศัพท์ที่ไม่รู้นี่ ต้องงัดวิชา Context Clues เดาความหมายจากคำรอบๆ หรือต้องเดาเอาจากรากศัพท์ที่เราพอรู้ค่ะ
- Gerund และ Infinitive เรื่องนี้มีออกบ้าง แต่ไม่เยอะ (ล่าสุดเจอประมาณ 2 ข้อ) ถ้าจำพวก verb ที่ใช้คู่กับ 2 อันนี้ได้ ก็จะตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------
Part 6. Text Completion (12 items)
Part นี้จริงๆ คล้ายกับ Incomplete Sentences ค่ะ คือมีช่องว่าง ให้เลือกเติมคำลงไป เพียงแต่ว่าคราวนี้โจทย์ไม่ใช่แค่ประโยคแล้ว จะเป็นรูปแบบของประกาศบ้าง อีเมลบ้าง คือจะมาแบบข้อความเยอะๆ ให้เรางงเล่น
ตัวอย่าง
Staff Party It’s time we start planning for the ______ Employee Appreciation Party. We know you all look forward to it 147. (A) annual every spring. As you know, the winner of the Employee of the Year Award is chosen by the staff. Please get your 148. (A) program party. We are planning to hold it at the Grand Crown Palace Hotel. The rooms there are large, and the hotel is We have also paid attention to your comments regarding the food and will work with the hotel chef to improve a 149. (A) suggests The Human Resources Department. (Room 305) |
เทคนิคทำ Text Completion
1. วิธีการคล้ายกันกับ Incomplete Sentences ค่ะ ไม่ต้องไปอ่านทั้งหมด ให้ไปดูที่ช่องว่าง และตัวเลือกของข้อนั้นๆ ก่อนว่าเค้าถามเรื่องอะไร แล้วดูแค่หน้า-หลังช่องว่างก่อน ส่วนใหญ่แค่นี้จะสามารถตอบได้เลยค่ะ เพราะวัดเรื่องคล้ายๆ กับ Part ที่แล้ว (พวก Part of Speech, Tense, คำเชื่อม, Pronoun, ความหมายคำ)
2. ถ้าบางข้อดูตัวเลือกแล้วไม่แน่ใจลังเล ให้ลองอ่านย้อนหน้า-หลังช่องว่างไปอีกนิด มักจะมีคำใบ้ซ่อนอยู่ค่ะ เช่นข้อ 148. จากตัวอย่าง
…..have been searching for a new________ for this year’s party. We are planning to hold it at the Grand Crown Palace Hotel.
(A) program
(B) strategy
(C) location
(D) entertainment
ข้อนี้วัดกันที่ความหมาย ถ้าดูแค่หน้า-หลัง เราอาจจะยังตอบไม่ได้ (รู้แค่กำลังมองหาอะไรซักอย่าง เพื่องานปาร์ตี้) แต่ถ้าอ่านต่อไปอีกนิด จะเจอว่า “ฉันวางแผนจะจัดงานที่โรงแรม Grand Crown Palace” เป็นชื่อสถานที่ แสดงว่าในช่องว่างเขากำลังพูดถึงสถานที่ คำตอบเลยเป็นข้อ C. location ค่ะ (กำลังมองหาสถานที่ใหม่เพื่อจัดงานปาร์ตี้นั่นเอง)
-----------------------------------------------------------------------------------------
Part 7. Reading Comprehension (48 items)
ส่วนนี้ใช้เวลาเยอะ และด้วยสมองที่ล้ามาจากร้อยกว่าข้อที่ทำมา ทำเอาหลายคนตาลาย ทำไม่ทันกันเลยทีเดียว
ข้อสอบจะมีทั้งส่วนที่เป็น Single Passage (บทความเดี่ยว) และ Double Passage (บทความคู่) ความท้าทายมันอยู่ที่อันหลังค่ะ (ทำเอาเหนื่อยมากจริงๆ แต่ก็ต้องสู้ทำจนเสร็จนะ จะได้ไม่เสียดายค่าสอบ 55)
Single Passage: จะเป็นประกาศ ใบปลิว บทความสั้นๆ ให้อ่านแล้วหาคำตอบ (มีประมาณ 28 ข้อ โดยจำนวนบทความอาจจะต่างกันในแต่ละชุดข้อสอบ)
ตัวอย่าง
Office Space Available
72 Brooke Street
This suite of offices is conveniently located close to downtown and most of the bus lines. The 3,000-square-foot floor plan has lots of potential, with space for ten offices, two conference rooms, and a large reception area. Large windows make it pleasant and sunny. Ample tenant and customer parking is in the rear of the building. Contract includes minor renovations to be made at the owner’s expense prior to move-in; new tenant chooses paint and carpet colors. Call now for an appointment to see this incredible space. Jessica Brown Rental Agency, 785-4302
160. What is true of the space for rent?
(A) It will be painted.
(B) It is dark.
(C) It has a new carpet.
(D) It doesn’t include parking.
161. Who should potential tenants call to see the space?
(A) The current tenant
(B) The contractor
(C) The owner
(D) The rental agent
Double Passage: จะมีบทความ 2 อันมาให้อ่าน และหาคำตอบคู่กัน เช่นให้ใบปลิวโฆษณามา ด้านล่างเป็นอีเมลที่ลูกค้าเขียนสั่งสินค้าจากโฆษณา เวลาหาคำตอบก็ต้องดูควบคู่กันทั้งสองอย่างค่ะ (มีคำถามประมาณ 20 ข้อ)
ตัวอย่าง
WORKSHOP SCHEDULE-DRAFT
Time | Location | Presentation | Presenter |
9.30 | Room B | Changing World Markets | L. Chang |
11.00 | Room C | Cross-Cultural Considerations in Marketing | J.H. Lee |
12.15 | Room C | Lunch | - |
1.30 | Room D | Analyzing Demographics | I.A. Kim |
3.00 | Room A | Internet Marketing | D. Wang |
4.00 | Room A | Open Discussion | All |
__________________________________________________________________________________
To: F. Bao
From: J.S. Park
Subject: Workshop logistics
Date: Monday, March 10
attach: Workshop schedule
Ms. Bao,
I have attached a draft of the schedule for the upcoming workshop. I wish we had scheduled it for a week from today instead of for the day after tomorrow. There is still so much to do the get ready; however, we can’t change the date now. I really appreciate your support in getting things ready.
Here are some things I need you to take care of. Tea and snacks should be served immediately after Mr. Chang’s presentation. He plans to talk for just an hour, so there will be time for this before the next presentation begins. Also, the room that we have scheduled for lunch is one of the smallest rooms, and serving a meal there would be difficult. In addition, we have a workshop scheduled in the same place right before lunch, so there would be no time to set up. See if you can exchange places with the Demographics workshop. The room we have scheduled for that seems more convenient and comfortable for eating.
Please make sure there are enough chairs in each room for everyone. So far, 45 people have registered for the workshop, but a few more registrations could come in today or tomorrow. You should have 15 extra chairs in each room just to be safe. There is one last schedule change. Mr. Wang will have to leave right after lunch, so please give him Ms. Lee’s time slot. and she can take Mr. Wang’s afternoon time slot. Send me the revised schedule this afternoon. Thank you.
Jae Sun Park
181. When will the workshop take place?
(A) March 10
(B) March 11
(C) March 12
(D) March 17
182. Where does Mr. Park want the lunch served?
(A) Room A
(B) Room B
(C) Room C
(D) Room D
183. Who will present at 3.00?
(A) I.A. Kim
(B) L. Chang
(C) D. Wang
(D) J.H. Lee
184. What time will tea and snacks be served?
(A) 9.30
(B) 10.30
(C) 11.00
(D) 12.15
185. How many chairs should there be in each room?
(A) 15
(B) 30
(C) 45
(D) 60
เทคนิคการทำ Single/Double Passage
ขอพูดรวมสำหรับทั้ง 2 แบบเลย เพราะมีคล้ายกัน ใช้เทคนิคเดียวกันได้
1. เรียงลำดับโจทย์ (ทำก่อน-หลัง)
ทำไมต้องเรียงล่ะ? เพราะถ้าเราไปเริ่มทำจากข้อที่ยาก และต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลเยอะก่อน จะทำให้เสียเวลามาก สุดท้ายกลายเป็นทำไม่ทัน! ดังนั้นถ้าเรียงโจทย์ได้ แล้วทำตามลำดับ จะช่วยทำเวลาในการสอบได้เยอะเลย แถมสมองจะไม่ล้าด้วย
-
โจทย์ถามคำศัพท์ (ทำลำดับที่ 1) ส่วนมากโจทย์จะให้ศัพท์มา และถามว่าคำไหนในตัวเลือกที่ความหมายใกล้เคียงกัน ซึ่งบางทีดูตัวเลือกตอบได้เลยก็มีถ้ารู้ศัพท์ หรือถ้าต้องกลับไปเช็คจากบทความ ก็แค่ไปหาที่จุดนั้น (เค้าจะบอก line บอก paragraph มาให้อยู่แล้ว)
-
โจทย์ที่มีเลข, choice สั้น (ทำลำดับที่ 2) พวกนี้อาจจะไม่ได้ตอบได้ทันที แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าจะต้องไปมองหา “อะไร” ในบทความ และจะมองหาได้ง่ายกว่าเพราะตัวเลขจะสะดุดตาเรามากกว่าตัวหนังสือ หรือถ้าเป็นโจทย์ที่ choice สั้นๆ เราก็มองหาแค่เป็นคำๆ ไป ใช้เวลาไม่เยอะมาก
-
โจทย์ choice ยาว, Why (ทำลำดับที่ 3) โจทย์แบบนี้ต้องใช้เวลานานหน่อยในการหาคำตอบ เพราะถ้า choice ยาว การจับ keyword เพื่อให้หาคำตอบก็จะยากขึ้น และถ้าข้อไหนที่ถาม Why (ทำไม เพราะอะไร) พวกนี้บางทีเราต้องสรุปคำตอบเองจากบทความด้วยซ้ำ เพราะงั้นถ้าดันนนนไปทำเป็นข้อแรกๆ จะเสียเวลาอ่านนาน
- NOT (ทำลำดับสุดท้าย) คำถามแบบนี้ “อย่าทำก่อน” เพราะโจทย์แบบนี้ถามหาข้อผิด ซึ่งหมายความว่าจะมีข้อถูกถึง 3 ข้อ จะเสียเวลาในการต้องเช็คว่า 3 ข้อไหนที่ถูกตามเนื้อเรื่อง ถามว่าถ้าทำโจทย์ประเภทนี้ก่อนจะเกิดอะไรขึ้น? >>> เราจะไม่รู้เลยว่าควรอ่านตรงไหน คำตอบจะอยู่แถวไหน เสียเวลาอ่านนานมาก ทำให้ทำพาร์ทนี้ไม่ทัน แต่! ถ้าเราเก็บไว้ทำสุดท้าย เราจะพอผ่านตาเนื้อเรื่อง และพอเข้าใจแล้วว่าบทความพูดถึงอะไร ประเด็นไหนอยู่ตรงไหนบ้าง ทำให้หาคำตอบได้เร็วขึ้น
2. เช็คคำตอบให้ดี เพราะบางข้อ คำตอบสุดท้ายอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่เราจะอ่านเจอ โดยเฉพาะใน Double Passage เช่นบทความแรกเป็นอีเมลจากลูกน้องแจ้งหัวหน้าว่านัดประชุมวันศุกร์นะ อีกบทความเป็นอีเมลจากหัวหน้าบอกศุกร์ไม่ว่างนะ เปลี่ยนเป็นวันจันทร์แทน ซึ่งถ้าเราอ่านแต่ท่อนแรก ก็อาจจะเผลอไปตอบวันศุกร์ได้ เพราะงั้นเช็คให้ดี
3. รายละเอียดบางประเภท จะไม่บอกชัดเจนในบทความ แต่ต้องคิดเองต่ออีกหน่อย เช่น
- วัน, วันที่ สมมติถามว่างานสัมมนามีเมื่อไร และตัวเลือกเป็นวันที่เลย ส่วนในอีเมลมีแต่บอกว่าเจอกันอีก 2 สัปดาห์นะ แบบนี้เขามักจะให้หัวอีเมลมาด้วย ว่าวันที่เขียนเมลน่ะเมื่อไร แล้วก็บวกไปอีก 14 วัน (2 สัปดาห์) ถึงจะเป็นคำตอบค่ะ
- ราคา พวกนี้ชอบถามสรุปราคาที่ต้องจ่ายเท่าไร บางทีเป็นโฆษณาเสนอ package จัดงานเลี้ยง มีหลายแบบให้เลือก อีกบทความเป็นอีเมลลูกค้าบอกความต้องการเช่นมีแขกกี่คน ต้องการอะไรบ้าง เราก็ต้องไปดูว่าความต้องการของลูกค้าเข้าข่าย package ไหน (ยิ่งถ้ามีส่วนลดอีกต้องคำนวณให้ดีค่ะ ว่าถ้าเข้าข่ายได้ส่วนลดด้วย ราคา final จะเป็นเท่าไร)
แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเขาจะให้มาคิดเลขเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ (ข้อสอบมันวัดระดับภาษาอังกฤษ เขาไม่ใจร้ายเอาเลขยากๆ มาให้เราหรอก) ตัวเลขมักจะบวก ลบง่ายๆ หลัก 5 หลัก 10 คนไม่เก่งคำนวณสบายใจได้ค่ะ ทำได้แน่นอน
สิ่งที่อยากฝากทิ้งท้าย: “รู้แค่เทคนิคไม่ช่วยอะไร ถ้าไม่ขยันทำโจทย์” การฝึกทำโจทย์บ่อยๆ จะทำให้เราชินกับรูปแบบ และ pattern การทำข้อสอบ เมื่อไปลงสนามจริงก็จะไม่ลนลาน และบริหารเวลาได้ดี มีสติในการทำข้อสอบมากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมแบ่งเวลาฝึกทำโจทย์ด้วย และอย่ามัวแต่รอให้พร้อมก่อนค่อยคิดไปสอบ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะพร้อมเมื่อไร แล้วจะกลายเป็นผลัดไปเรื่อยๆ ไม่ได้คะแนน TOEIC มาครอบครองซักที ทางที่ดีแนะนำให้จองเวลาสอบ หรือตั้งเป้าไว้เลยจะสอบเมื่อไร จะได้มีเป้าหมายในใจว่า “ฉันต้องฝึก และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบวันที่ xx”
ขอให้ทุกคนโชคดี ได้คะแนน TOEIC สวยๆ มาครอบครองนะคะ
จะ สอบ TOEIC ต้องรู้ศัพท์ที่ออกบ่อย! มาดู 100 คำศัพท์ที่ออกสอบกัน เก็บเข้าคลังไว้เลย!
บทความนี้จะเน้นเก็ง "ศัพท์ TOEIC" ที่ควรรู้ โดยรวบรวมมาให้ 100 คำ ที่ออกสอบ พร้อมความหมาย คำเหมือน (Synonyms) และตัวอย่างประโยค ไปดูกันเลย!
คำศัพท์ | ประเภทคำ | ความหมาย | Synonyms | ตัวอย่างประโยค | |
achievement | n. | ความสำเร็จ | accomplishment, success | List all of your previous achievements on your resume. | |
alternative | n. | ทางเลือก, ตัวเลือก | option, substitute | Carob is sometimes used in sweet foods as a healthier alternative to chocolate. | |
applicable | adj. | ใช้ได้, เหมาะสม | appropriate, suitable | The new qualifications are applicable to all European countries. | |
applicant | n. | ผู้สมัคร | candidate | All applicants are required to submit their resumes. | |
apprehensive | adj. | ประหม่า,กังวล | anxious, concerned, uneasy | Many people feel apprehensive before an important job interview. | |
approximate | adj. | ราวๆ, ประมาณ | close, almost | The price quoted by the movers is only an approximate cost and is subject to change. | |
associate | v. | มีความสัมพันธ์, เกี่ยวข้องกัน | relate | Two of the applicants were associated with a competitor. | |
beneficial | adj. | เป็นประโยชน์, เป็นผลดี | advantageous, useful, helpful | The organization's work is beneficial to the community. | |
career | n. | อาชีพ |
|
Jacobson started his banking career in 1990. | |
collaborate | v. | ร่วมมือ, ทำร่วมกัน | cooperate | Two writers collaborated on the script for the film. | |
complimentary | adj. | ที่ให้ฟรี | free of charge | There was a complimentary bottle of champagne in the hotel room. | |
comply | v. | เชื่อฟัง, ยอมทำตาม | abide by, obey | The inspector will ensure that all newly constructed buildings comply with applicable codes and regulations. | |
comprehensible | adj. | เข้าใจได้ง่าย | clear, understandable, apprehensible | The procedure must be clear and comprehensible to all staff. | |
comprehensive | adj. | ครอบคลุม | inclusive, complete | We offer our customers a comprehensive range of financial products. | |
concerned | adj. | กังวล | anxious, worried | Theatre companies are very concerned about cuts in government grants to the arts. | |
conduct | v. | จัดการ, ควบคุม | organize, manage, handle | We are conducting a survey to find out what our customers think of their local bus service. | |
confidential | adj. | เป็นความลับ | classified, secret | The company will treat all candidates' information as confidential. | |
consecutive | adj. | ต่อเนื่องตามลำดับ | chronological | The Harley Company achieved high sales growth for the third consecutive year. | |
consequence | n. | ผลที่ตามมา | result, outcome | Profits grew as a consequence of increased business. | |
considerably | adv. | อย่างมาก | highly, greatly, enormously | A market analysis shows that sales of sports utility vehicles have decreased considerably over the past twelve months. | |
consultant | n. | ที่ี่ปรึกษา | advisor | Rosalind is currently working as a financial consultant in New York. | |
convince | v. | โน้มน้าว, ชักจูง | assure, persuade | Agricultural companies have failed to convince consumers that GM foods are safe. | |
correspondence | n. | จดหมาย, หนังสือข่าว | - | Records of all correspondence between the landlord and the tenants should be kept on record. | |
criteria | n. | เกณฑ์, เงื่อนไข | benchmark, standard | Does your experience meet the criteria for the job? | |
crucial | adj. | สำคัญ, จำเป็น | critical, important, necessary | Her work has been crucial to the project's success. | |
demonstrate | v. | อธิบาย, แสดงให้เห็น | display, show, indicate | Sales figures demonstrate that the advertising campaign was successful. | |
distinct | adj. | แตกต่างชัดเจน | apparent, obvious | The European Union is made up of 15 nations with distinct cultural, linguistic and economic roots. | |
distraction | n. | สิ่งรบกวน | disturbance, diversion, interruption | The new workstation dividers help prevent unnecessary distractions and ensure that bank tellers stay focused. | |
disturb | v. | รบกวน | bother, distract, disrupt | Please go on with what you're doing and don't let us disturb you. | |
donation | n. | การบริจาค | charity, contribution | The library is accepting donations of children's books. | |
dramatically | adv. | อย่างรวดเร็ว | badly, greatly | Interest rates climbed dramatically. | |
drastically | adv. | อย่างฮวบฮาบ | greatly, intensely, exceedingly | Fines for breaking rules have been drastically increased. | |
drawback | n. | ข้อเสีย, ข้อด้อย | disadvantage, defect, flaw |
The main drawback of these products is that they tend to be too salty. |
|
eligible | adj. | มีีสิทธิ, มีคุณสมบัติเหมาะสม | acceptable, qualified, suitable | The part-time workers are also eligible for paid holidays. | |
employment | n. | การจ้างงาน | hiring, recruitment | The company announced employment opportunities in personnel department. | |
entitle | v. | มอบตำแหน่งให้, ให้สิทธิ | allow, authorize, permit | Executives are entitled to additional benefits. | |
especially | adv. | โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, เป็นพิเศษ | specifically | Art books are expensive to produce, especially if they contain colour illustrations. | |
estimate | n./v. | ค่าประมาณ, ประมาณ | Their estimate of the cost of the project was inaccurate. | ||
excel | v. | ทำได้ดีเยี่ยม | outdo, surpass | Rick has always excelled at foreign languages. | |
exclude | v. | ไม่รวม, แยกออก | ignore, omit | At this stage we cannot entirely exclude the possibility of staff cuts. | |
fluctuate | v. | ผันผวน | swing, shift, change | The state's income from sales taxes fluctuates with the economy. | |
fluency | n. | ความคล่องแคล่ว | One of the requirements of the job is fluency in two or more African languages. | ||
fluently | adv. | อย่างคล่องแคล่ว, อย่างฉะฉาน | easily, smoothly | There is one candidate who can speak 3 different languages fluently. | |
formerly | adv. | ก่อนหน้านี้, แต่ก่อน | previously, earlier, once | This elegant hotel was formerly a castle. | |
generally | adv. | โดยทั่วไป, โดยส่วนมาก | commonly, broadly, mostly, normally | The quality of the food here is generally good. | |
greatly | adv. | อย่างมาก | considerably, extremely, enormously | This software is easy to learn and greatlyincreases employee productivity. | |
highly | adv. | อย่างมาก, อย่างสูง | extremely, remarkably | Mr. Parker's experience makes him highly qualified for the job. | |
identify | v. | ระบุ | classify, recognize, label | Staff members wear uniforms so that they are easy for customer to identify. | |
immediately | adv. | ทันทีทันใด | instantly, promptly, at once, right away | Knowing the case was urgent, I replied to her lawyer's email immediately. | |
inexperienced | adj. | ขาดประสบการณ์ | unskilled, inept | Inexperienced managers often have problems with their staff. | |
inspection | n. | การตรวจสอบ | examination, investigation | The facility inspection should be conducted at least once a month. | |
insufficient | adj. | ไม่เพียงพอ | lacking, inadequate | His salary was insufficient for him. | |
introductory | adj. | ขั้นต้น, เบื้องต้น | preliminary | The introductory course on coaching is taught by Lee Wallis of the Peyton Soccer Club. | |
lengthy | adj. | ยืดยาว | extended, long | Many airline passengers face lengthy delays because of the strike. | |
necessity | n. | ความจำเป็น | need, fundamental | He emphasized the necessity for good planning and management. | |
observe | v. | สังเกต | notice, detect, inspect | Security guards are able to observe the car park using CCTV. | |
official | adj. | เป็นทางการ | authorized, legitimate | The official opening of the institute was in May. | |
opening | n. | ตำแหน่งงานว่าง | vacancy | There are several job openings at the restaurant right now. | |
overseas | adj./adv. | ต่างประเทศ | The company has been successful in penetrating overseas markets this year. | ||
oversee | v. | ตรวจสอบ, ดูแล | supervise, manage | Mr. Fritz will oversee the office relocation process. | |
partially | adv. | บางส่วน | incompletely, partly, somewhat | The advertising campaign was only partially successful. | |
participation | n. | การเข้าร่วม, การมีส่วนร่วม | attendance | Full participation by all members is compulsory. | |
permit | v. | อนุญาต | allow, authorize, accept | Smoking is only permitted in the public lounge. | |
persuade | v. | ชักชวน, ชักจูง | convince, influence | Clever salesmanship can persuade you to buy things you don't really want. | |
pertaining to | phr. | เกี่ยวข้องกับ | about, regarding, concerning | Regulations pertaining to high-tech industries are being discussed. | |
plentiful | adj. | มากมาย, อุดมสมบูรณ์ | abundant, sufficient, ample | Opportunities for teaching abroad are plentiful. | |
potential | adj. | เป็นไปได้, มีศักยภาพ | promising, likely, possible | Potential earnings from the trade deal could reach billions of dollars. | |
precisely | adv. | อย่างแม่นยำ, เที่ยงตรง | exactly, accurately | We arrived at the hotel at precisely 10:30. | |
preliminary | adj. | ในขั้นต้น, ในเบื้องต้น | introductory, initial | Jackson is peforming well in the preliminary stages of the competition. | |
primarily | adv. | แรกเริ่ม, เป็นหลัก | mainly, initially, at first | The advertisement is aimed primarily at children. | |
productive | adj. | มีประสิทธิภาพ, ที่เกิดผล | fruitful, effective, constructive | Team work at its best results in a synergy that can be very productive. | |
profession | n. | อาชีีพ | career, occupation | Some students enter other professions such as arts administration. | |
proficiency | n. | ความเชี่ยวชำนาญ | ability, competence, expertise | Overseas workers need proof of proficiency in a second language. | |
prominent | adj. | โดดเด่น, มีชื่อเสียง | outstanding, famous, important | The shop front occupies a very prominent position on the main street. | |
prospective | adj. | ที่คาดหวังไว้ | potential, expected, anticipated | Prospective employees were asked to come in for a second interview. | |
qualified | adj. | มีคุณสมบัติเหมาะสม | capable, suitable | People with master's degrees are qualified for the research position. | |
regulation | n. | กฎเกณฑ์, ข้อบังคับ | rule | Regulations regarding lunch breaks were established. | |
reimbursement | n. | การชำระเงินคืน | compensation, repayment | This form is used to request reimbursements to students for travel and entertainment expense incurred for College business. | |
reluctant | adj. | ไม่เต็มใจ, ลังเล, อิดออด | unwilling, hesitant, uncertain | Stores have cut prices to attract reluctant shoppers. | |
remarkable | adj. | ไม่ธรรมดา, โดดเด่น | exceptional, extraordinary, unusual | Among her many remarkable achievements, Dr. Smith wrote sixteen books and served as editor for three major journals. | |
renewable | adj. | เกิดขึ้นใหม่ได้, ทดแทน | sustainable | The report describes the environmental impact on lakes and rivers of using renewable energy sources. | |
renovate | v. | ปรับปรุง, ซ่อมแซม | refit, remake, repair | We decided to buy an old house and renovate it ourselves. | |
requirement | n. | สิ่งจำเป็น | necessity | A driver's license is a requirement of this position. | |
respectively | adv. | ตามลำดับ | - | In terms of population, California and New York rank first and second respectively. | |
significantly | adv. | อย่างสำคัญ, อย่างมาก | greatly, importantly, essentially | Methods used by younger teachers differ significantly from those used by older ones. | |
specialize | v. | เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ | - | Most of the programmers specialized in software design in college. | |
specific | adj. | เฉพาะเจาะจง | particular, definite, distinguishing | Could you be more specific about what you’re looking for? | |
substantial | adj. | มาก, สำคัญ | important, considerable | The first draft of his novel needed a substantial amount of rewriting. | |
substitute | n. | ตัวแทน, สิ่งแทน | alternative, replacement | Corn syrup is used as a substitute for sugar in many food products. | |
sufficient | adj. | เพียงพอ | adequate, enough, acceptable | If I buy two pounds of fish that should be sufficient for four people. | |
talented | adj. | มีความสามารถ, มีพรสวรรค์ | gifted, skilled | The Brazilian team includes some highly talented young players. | |
tentatively | adv. | อย่างคร่าวๆ | temporarily | The switch to the specialized database is tentatively scheduled for June 15, but it may need to be postponed. | |
terminate | v. | สิ้นสุด, ยุติ | stop, finish, conclude, complete | The train from Paris terminates at St Pancras International. | |
thoroughly | adv. | อย่างถี่ถ้วน, รอบคอบ | carefully, comprehensively | Eating only thoroughly cooked foods will reduce your risk of illness. | |
throughout | adv./prepo. | ตลอดทั้ง | during | The software was designed to update the data continuously throughout the day. | |
undertake | v. | รับผิดชอบ, รับภาระ | attempt, engage in, shoulder | She had to undertake the task on short notice. | |
upcoming | adj. | กำลังมาถึง | approaching, forthcoming | A reporter spoke to a candidate for the upcoming election. | |
valid | adj. | มีเหตุผล, ถูกต้อง, ใช้ได้ | authentic, legitimate, credible | The tourist visa is valid for three months. | |
versatile | adj. | อเนกประสงค์, มีประโยชน์หลายอย่าง | adjustable, flexible, all-around | The potato is an extremely versatile vegetable. | |
workforce | n. | แรงงาน, คนทำงาน | manpower, staff | Women now represent almost 50% of the workforce. |
ยิ่งเรารู้ศัพท์มากเท่าไร การทำ "ข้อสอบ TOEIC" ก็จะง่ายมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นนอกจาก Grammar แล้ว เวลาฝึกทำข้อสอบควรจดศัพท์ หรือจำพวกศัพท์ที่เราไม่รู้ไว้ด้วย เผื่อโชคดีได้ข้อสอบชุดที่ออกศัพท์นั้นพอดี ก็ตอบได้สบายๆ เลยค่า ^^
ถ้ายังไม่จุใจ ตามไปเก็บ "ศัพท์ TOEIC" เพิ่มเติมได้ที่ >> รวมศัพท์ TOEIC แยกตามหมวดหมู่
เริ่มกันที่เรื่อง Noun กันก่อนเลย เป็นเรื่องที่นักเรียนของครูชอบบ่นอยู่บ่อยๆว่าย๊ากยาก โดยเฉพาะปัญหาการสังเกตว่าศัพท์ ว่าคำไหนเป็นคำนาม และคำนามมักอยู่ในตำแหน่งไหน? ไม่ต้องกลัวจ๊ะ ครูเอาอยู่! คลิปที่เตรียมมาให้วันนี้จะช่วยพวกเธอไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ Noun ได้อย่างหมดจด! ยิ่งเวลาเจอข้อสอบที่วัด Parts of Speech แค่มองปุ๊ป เธอก็สามารถตอบได้ปั๊ป แค่จำเทคนิคที่ครูให้ไป หมั่นฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ รับรอง ปัง! ค่าาา
ส่วนเรื่อง Adverb หลายคนยังไม่รู้เลยว่า Adverb มีกี่ประเภท และทำหน้าที่อะไรบ้าง พอเห็นข้อสอบก็งงกันเป็นไก่ตาแตกไปเลยจ้า แต่ครูเชื่อนะคะพวกเธอทำได้ แค่ต้องรู้ทริค บวกด้วยกับความขยัน ทั้งขยันอ่าน ขยันจำ และก็ขยันหาข้อสอบแบบเก่ามาทำ เชื่อครูรอด Sure!! แต่ถ้าอยาก Sure! แบบเต็ม 100% ต้องเปิดดูคลิปด้านล่างด้วยนะจ๊ะ
ยิ่งข้อสอบ Adjective ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ ไม่รู้ว่าจะเลือกตอบอะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าข้อไหนเป็น Adjective มันมีวิธีสังเกตหลายแบบค่ะ แต่วันนี้ครูเลือกเทคนิคการจำแบบพิเศษมาให้ จำง่าย ทำได้เร็ว ถึงแม้ว่าหนูจะแปลไม่ออก ก็สามารถทำข้อสอบได้อย่างสบาย เพราะคลิปข้างล่างนี้ จะบอกเทคนิคการสังเกตตำแหน่งการหา Adjective โดยไม่ต้องแปลมาให้ พร้อมกลอนช่วยจำคำลงท้าย Adjective Suffix ที่ครูแต่งเองกับมืออีกด้วย ง๊ายง่าย แค่เปิด! ฟัง! จำ! เธอๆทั้งหลายก็เป็น The winner!! แล้วค่าา
ถ้าแค่ดูคลิปยังไม่พอ ไม่จุใจ!! มาเรียนกับครูด่วน รับประกันความแซ่บที่หาที่ไหนไม่ได้! #สาระดีแถมคะแนนเพิ่มอีกบานตะไท กับคอร์สติวTOEICครูดิว สุดแซ่บ! คุ้มที่สุด ครบที่สุด! กดที่ลิ้งค์เพื่อสมัครได้เลย www.opendurian.com/toeic_krudew
เทคนิคทำข้อสอบ TOEIC
ศัพท์ TOEIC ปี 2024 (TOEIC Vocabulary) ออกสอบบ่อย : หมวดธุรกิจทั่วไป
อัปเดตศัพท์ TOEIC สุดฮิต ปี 2024 ก่อนใคร คัดที่ออกสอบบ่อยมาให้แล้ว! จัดให้เป็นหมวดหมู่ พร้อม Synonym (คำเหมือน) และตัวอย่างประโยค ท่องไว้ อ่านผ่านตาไว้ ไปทำข้อสอบจะกลายเป็นง่ายไปเลยนะเนี่ย ^^
แนะนำJan 5, 2024
ศูนย์สอบ TOEIC ไปยังไง! แชร์ประสบการณ์วันสอบ วิธีเดินทางไปแบบละเอียด! ฉบับอัปเดต 2024
วิธีเดินทางไปศูนย์สอบ TOEIC กทม. ที่อาคารบีบี (BB Building) และสิ่งที่ต้องเจอในวันสอบ TOEIC
แนะนำJan 10, 2024
Updated! ปี 2024 แนวข้อสอบ TOEIC Listening + เทคนิคเก็งคำตอบ
อัปเดตข้อสอบปี 2024 ก่อนใคร! รวมคำถามที่ ข้อสอบ TOEIC Listening มักจะถามบ่อยๆ พร้อมเทคนิคเก็งคำตอบมาให้แล้ว! คำถามพวกนี้ ได้ยินแน่ๆ ถ้าจำโครงคำถามได้ ทีนี้ฟังออก จับคำตอบได้สบายๆ เลย
แนะนำJan 5, 2024
Review หนังสือเก็งศัพท์ TOEIC 500 คำ ออกสอบบ่อย ไม่ได้มีดีแค่ให้ความหมาย!
จะสอบ TOEIC แต่ไม่รู้จะท่องศัพท์ไหนบ้าง ศัพน์นั้นก็สำคัญ ศัพท์นี้ก็สำคัญ นี่เลย! หนังสือเก็งศัพท์สอบ TOEIC คัดศัพท์ TOEIC ออกสอบชัวร์ 500 คำ พร้อมคำอ่าน คำแปล ตัวอย่างสุดปัง แถมมี Features อื่น ๆ ในเล่มอีกเพียบ!
แนะนำJun 18, 2021
9 ตำแหน่ง Adverbs มองปั๊บ กาเลย! สรุป Adverb และตำแหน่งออกสอบ TOEIC
Adverbs เป็นอีกหนึ่งปัญหาของคนสอบ TOEIC เพราะวางได้หลายตำแหน่ง ทำให้ไม่แน่ใจว่าข้อที่เห็นใช่ตำแหน่ง Adverb ไหมนะ? คลิกเข้ามาอ่านสรุป 9 ตำแหน่งของ Adverbs ที่ออกสอบ TOEIC กันได้เลย!
แนะนำMar 30, 2021
Another vs Other ใช้ต่างกันยังไง? (แถมสรุปการใช้ Others, The other, The others)
Another - Other ต่างกันยังไง? มาอ่านสรุปการใช้งาน Another-Other-Others-The Other-The Others ไปพร้อมกันเลยค่ะ
แนะนำApr 18, 2023
ข่าวดี‼ สำนักงาน ก.พ. เปิดสอบภาค ก (รอบพิเศษ)
ประกาศแล้ว!! กำหนดสอบ ก.พ. ภาค ก (รอบพิเศษ) สําหรับส่วนราชการต่าง ๆ ประจำปี 2563 มีฝันอยากเป็นข้าราชการ เตรียมตัวให้พร้อม!!
แนะนำMar 30, 2021