บทสนทนาภาษาอังกฤษ: 10 ประโยคภาษาอังกฤษในร้านอาหารได้ใช้ชัวร์!
บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร
มัดรวม 10 ประโยคได้ใช้พูดชัวร์!
1. Can I see the menu, please?
/แคน-ไน-ซี-เดอะ-เมยู, พลีส/
ขอดูเมนูหน่อยได้ไหมครับ/ค่ะ
Can I have the menu, please?
/แคน-ไน-แฮฟ-เดอะ-เมยู, พลีส/
ขอเมนูหน่อยได้ไหมครับ/ค่ะ
ขึ้นประโยคแรกมาก็รู้ได้ทันทีว่าเราได้พูดกันบ่อยแน่ค่ะ เวลาเราอยากขอเมนูเป็นภาษาอังกฤษให้พูดประโยคนี้ได้เลยค่ะ อีกทั้งตัวโครงสร้างประโยคนี้เองก็สามารถใช้พูดขออย่างอื่นได้อีกค่ะ เพียงแค่เปลี่ยน the menu เป็นคำนามคำอื่นที่เป็นสิ่งของที่เราอยากได้ค่ะ เดี๋ยวมาดูโครงสร้างประโยคกันค่ะแล้วจากนั้นก็ตามด้วยตัวอย่างบทสนทนาที่ใช้ประโยคนี้ค่ะ
โครงสร้างประโยค
Can I have __(สิ่งของที่อยากได้)__, please?
- Can I have a sandwich, please? (ขอแซนวิชได้ไหม)
/แคน-ไน-แฮฟ-เออะ-แซนวิช, พลีส/
Can I see __(สิ่งของที่อยากเห็น/ดู)__, please?
- Can I see your book, please? (ขอดูหนังสือคุณหน่อยได้ไหม)
/แคน-ไน-ซี-เยอรฺ-บุค, พลีส/
ตัวอย่าง
A: Excuse me, can I see the menu, please? (ขอโทษนะคะ รบกวนขอเมนูหน่อยได้ไหมคะ)
B: Sure, ma’am. Here you go. (ได้เลยค่ะ นี่ค่ะ)
**เกร็ดความรู้**
ถ้าเราเปลี่ยนคำว่า Can เป็น Could จะทำให้ประโยคคำขอของเราดูสุภาพขึ้นในภาษาอังกฤษค่ะ เช่นเดียวกับคำอื่น ๆอย่าง Will เป็น Would ค่ะ เช่น
- Could I have some spaghetti, please? (รบกวนขอสปาเก็ตตี้ที่นึงได้ไหม)
- Would you give me a menu, please? (รบกวนคุณช่วยเอาเมนูให้ฉันหน่อยได้ไหม)
โครงสร้างเดียวสามารถใช้พูดขอสิ่งของได้หลายอย่างเลยนอกจากรายการอาหาร ต่อกันที่ประโยคต่อไปกันเลยค่ะ ประโยคนี้ฝรั่งพูดกันบ่อย
2. What’s today’s special?
/วอทซ-เทอะเดย์ส-สเปเชิล/
วันนี้มีเมนูพิเศษอะไรไหมครับ/ค่ะ
เคยไหมคะเวลาไปร้านอาหารแล้วนึกแล้วเราอยากลองเมนูพิเศษของร้าน ถ้าเราอยากถามเป็นภาษาอังกฤษว่าวันนี้มีเมนูพิเศษอะไรมาแนะนำเราบ้าง ครูแนะนำให้เราใช้ประโยคนี้พูดได้เลยค่ะ “What’s today’s special?” แปลว่าวันนี้มีเมนูพิเศษอะไร ใครที่ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษต้องลองเอาไปใช้ดูนะ เผื่อเราดวงดีเดินเข้าร้านแล้วได้ทานของอร่อยประจำร้านด้วย เดี๋ยวเรามาดูตัวอย่างบทสนทนากันค่ะ
ตัวอย่าง
A: Excuse me, what’s today’s special? (ขอโทษนะคะ วันนี้มีเมนูพิเศษไหมคะ)
B: Today we have roasted chicken and papaya salad. (วันนี้เรามีไก่ย่างและส้มตำค่ะ)
นึกไม่ออกก็ลองสั่งเมนูพิเศษดูนะคะเผื่อถูกปาก มาต่อกันที่ประโยคต่อไปกันค่ะ ประโยคนี้ครูมั่นใจว่าเราได้พูดกันทุกคนแน่นอนเมื่อเข้าร้านอาหาร
✿สนทนาภาษาอังกฤษคล่อง ต้องเซ็ทนี้✿
3. Could I have some water, please?
/คูด-ได-แฮฟ-ซัม-วอเดอร์, พลีส/
รบกวนขอน้ำหน่อยได้ไหมครับ/ค่ะ
หากเราต้องการสั่งน้ำเป็นภาษาอังกฤษ เราสามารถใช้โครงประโยค จากข้อที่ 1 ได้เลยค่ะ แล้วตามด้วย some water เพื่อเป็นการสั่งน้ำเปล่า สักแก้ว นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ some แล้วตามด้วยเครื่องดื่มอื่น ๆได้อีกด้วยค่ะ เช่น Could I have some Pepsi, please? ฉันขอเปปซี่สักแก้วได้ไหม ลองดูตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษกันค่ะ
ตัวอย่าง
A: Could I have some water, please? (รบกวนขอน้ำหน่อยได้ไหมคะ)
B: A moment, please. (สักครู่นะครับ)
A: Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
เพียงแค่นี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ถ้าหิวน้ำก็สามารถพูดขอน้ำกับฝรั่งได้แล้วน้า ไปประโยคต่อไปกันเลยดีกว่า
4. I would like to have + สิ่งที่อยากได้, please?
/ไอ-วูด-ไลค์-ทู-แฮฟ…../
ฉันอยากทาน/อยากสั่ง…..
ถ้าเราเลือกเมนูอาหารได้แล้วและอยากสั่งเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ให้เราใช้ประโยคนี้พูดได้เลยค่ะ เดี๋ยวเราลองมาดูโครงสร้างพร้อมตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษให้เห็นภาพกันนะคะ
โครงสร้าง
I would like to have __(เมนูที่เราอยากกิน)__.
- I would like to have some orange juice. (ฉันอยากได้น้ำส้มสักแก้ว)
/ไอ-วูด-ไลค์-ทู-แฮฟ-ซัม-ออรินจฺ-จูซ/
ตัวอย่าง
A: So what’s your order? (สั่งอะไรดีครับ)
B: I would like to have Thai stir fried pork chop with basil, please. (ฉันอยากได้ผัดกะเพราหมูสับที่นึงค่ะ)
A: Anything else? (สั่งอะไรเพิ่มอีกไหมคะ)
B: And a glass of water, please. That’s all. (และน้ำเปล่าแก้วนึงค่ะ หมดแล้วค่ะ)
ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ จะได้สั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษได้เหมือนผู้ดีอังกฤษเลยค่ะ มาต่อกันที่ประโยคต่อไปกันเลย
5. Could you tell me where the bathroom is?
/คูด-ยู-เทล-มี-แวร์-เดอะ-แบธรูม-อิส/
ช่วยบอกได้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ไหนครับ/ค่ะ
ในการถามถึงสถานที่ไม่ว่าจะที่ไหน เรามักจะใช้ประโยคง่าย ๆอย่าง Where is + สถานที่? มาพูดใช่ไหมคะ แต่สำหรับการเป็นลูกค้าหรือคนแปลกหน้าที่เรามักต้องมีมารยาทในการถาม ครูแนะนำให้ใช้ประโยคนี้ถามได้เลยค่ะ เป็นรูปประโยคที่ฟังดูสุภาพมาก ๆและผู้ฟังก็พร้อมจะให้คำตอบเราได้อย่างเต็มใจมากขึ้น มาดูโครงสร้างประโยคและตัวอย่างบทสนทนากันค่ะ
โครงสร้าง
Could you tell me where __(สถานที่)__ is?
- Could you tell me where the restroom is? (ช่วยบอกได้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ไหน)
/คูด-ยู-เทล-มี-แวร์-เดอะ-เรสทฺรูม-อิส/
ตัวอย่าง
A: Excuse me, could you tell me where the bathroom is? (ขอโทษนะคะ ช่วยบอกได้ไหมคะว่าห้องน้ำอยู่ไหน)
B: Over there, ma’am. (อยู่ตรงนั้นครับคุณผู้หญิง)
A: Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
**เกร็ดความรู้**
ในภาษาอังกฤษจะมีคำว่าห้องน้ำอยู่ 3 คำหลัก ๆค่ะคือ
1. Toilet /ทอยเลิท/ 2. Restroom /เรสทฺรูม/ 3. Bathroom /แบธรูม/
ซึ่งคำว่า Restroom กับ Toilet จะเป็นห้องน้ำที่พูดในสำเนียงอเมริกันค่ะ ส่วน Bathroom เป็นสำเนียงอังกฤษค่ะ ส่วนความแตกต่างของทั้ง 3 คำในด้านความหมายคือ Toilet กับ Bathroom คือห้องน้ำที่มีทั้งชักโครก อ่างล้างมือ และอ่างอาบน้ำหรือฝักบัวอยู่ในห้องเดียวกันค่ะ ส่วนคำว่า Restroom เป็นห้องน้ำที่มีแค่ชักโครกกับอ่างล้างมือค่ะ วัฒนธรรมฝรั่งบางประเทศรวมถึงที่สหรัฐอเมริกาบางบ้านจะแยกห้องขับถ่ายกับห้องอาบน้ำให้อยู่คนละห้องค่ะและคำว่า Restroom เองก็หมายถึงห้องน้ำสาธารณะด้วยค่ะ เช่นห้องน้ำในห้างหรือห้องน้ำในสวนสาธารณะก็เรียกว่า Restroom ค่ะ
อย่าลืมเอาไปใช้กันน้า Could you tell me where is….. เอาไปใช้ตอนถามทางก็ได้เหมือนกันค่ะ ฟังดูสุภาพมาก ๆ ต่อกันที่ประโยคต่อไปกันค่ะ
6. What would you recommend?
/วอท-วูด-ยู-เรเคอะเมนดฺ/
คุณช่วยแนะนำได้ไหมครับ/ค่ะ
ในกรณีที่เราอยากให้ทางร้านแนะนำเมนูให้ เราสามารถใช้ประโยคนี้พูดได้เลยค่ะ เวลาเราต้องการให้ใครแนะนำเมนูอาหาร สิ่งของหรือแนะนำให้ทำอะไร เราจะใช้ศัพท์คำนี้นะคะ Recommend ที่แปลว่า แนะนำ ซึ่งสามารถใช้ได้กับสิ่งของเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ดังนั้นถ้าเราอยากทางร้านแนะนำเมนูให้เราก็ใช้ประโยคนี้พูดได้เลย ไปดูตัวอย่างบทสนทนากันนะ
ตัวอย่าง
A: I really have no idea what to eat today. What would you recommend? (ฉันไม่รู้จริง ๆว่าวันนี้จะกินอะไรดี คุณมีเมนูอะไรมาแนะนำได้บ้าง)
B: I recommend the Big Matt’s burger (งั้นฉันขอแนะนำเมนูเบอร์เกอร์ของบิกแมทค่ะ)
ถ้านอกจากแนะนำเมนูอาหารแล้ว ก็ยังใช้กับบริบทอื่นได้ด้วยนะคะ เช่นเวลาไปซื้อของแล้วมีหลายแบรนด์ให้เลือก เราสามารถใช้ประโยคนี้ถามได้เช่นกันค่ะ เพื่อให้พนักงานแนะนำของที่ดีที่สุดให้เรา ลองเอาไปพูดดูนะคะ มาค่ะประโยคต่อไปกันเลย
✿ประโยคพร้อมใช้ 4,000 ประโยค!✿
7. I have a/an ______ allergy.
/ไอ-แฮฟ-เออะ/เอิน-.......-แอเลอร์จี/
ฉันแพ้….
ประโยคนี้สำคัญมากเลยค่ะ เพราะใช่ว่าทุกคนจะทานอาหารได้เหมือนกันหมด บางคนจะแพ้อาหารบางอย่างหรือพวกวัตถุดิบต่าง ๆ ดังนั้นครูจึงต้องเอาประโยคนี้มาสอนให้นักเรียนพูดด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีอาการแพ้เองหรือไม่ได้แพ้อะไรก็ควรท่องเก็บไว้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน ๆ ถ้าเราแพ้อาหารเราก็พูดได้เองหรือเราไปทานอาหารกับเพื่อนแล้วเรารู้ว่าเพื่อนแพ้อะไร แต่เพื่อนพูดภาษาอังกฤษยังไม่เก่งเราก็สามารถใช้ประโยคนี้ช่วยเพื่อนที่ไปทานข้าวที่ร้านอาหารกับเราได้ค่ะ มาลองดูโครงสร้างประโยคกับตัวอย่างบทสนทนากัน
โครงสร้าง
I have a/an __(สิ่งที่แพ้)__ allergy.
- I have a seafood allergy. (ฉันแพ้อาหารทะเล)
/ไอ-แฮฟ-เออะ-ซีฟูด-แอเลอร์จี/
ตัวอย่าง
A: I have an MSG allergy. Do you have another menu without MSG? (ฉันแพ้ผงชูรสค่ะ คุณมีเมนูอื่นไหมที่ไม่ใส่ผงชูรส)
B: Yes, we do. (ครับ ทางร้านมีครับ)
A: Let me see. (ขอดูหน่อยนะคะ)
MSG ย่อมาจาก Monosodium Glutamate /มา-เนอะ-โซ-เดียม-กลู-เทอะ-เมท/ แปลว่า ผงชูรส ค่ะ ลองจำไปใช้ดูนะคะ ประโยคต่อไปกันค่ะ
8. That sounds great.
/แดท-ซาวด์ส-เกรท/
นั่นฟังดูดีมาก
That looks great.
/แดธ-ลุคส-เกรท/
นั่นดูดีมาก
That tastes good.
/แดธ-เทสทตฺ-กูด/
นั่นอร่อยดีนะ
3 ประโยคนี้ครูดิวยกมาให้เพราะเวลาเราไปทานอาหารข้างนอก บางครั้งเราก็อยากติชมด้วยค่ะ ถ้าเรากำลังฟังพนักงานแนะนำเมนูอาหารแล้วฟังดูน่ากินมากก็ให้พูดว่า That sounds great. ค่ะ เพราะประโยคนี้เอาไว้ใช้ติชมเมื่อเราได้ยินอะไรบางอย่างแล้วมันฟังดูดีค่ะ ต่อไปคือ That looks great. เป็นประโยคที่เราเอาไว้ติชมสิ่งของที่เราเห็นด้วยตาค่ะ ทีนี้ถ้าเราได้ลองชิมอาหารแล้วรสชาติดีจนอยากชมก็ให้เราพูดว่า That tastes good. เดี๋ยวมาดูโครงสร้างประโยคกับตัวอย่างบทสนทนากันค่ะ
โครงสร้าง
That sounds + adj คุณภาพ.
- That sounds bad. (นั่นฟังดูไม่ดีเลย)
That looks + adj คุณภาพ.
- That looks normal. (นั่นก็ดูปกตินะ)
That tastes + adj คุณภาพ.
- That tastes great. (นั่นรสชาติมันดีมาก ๆเลย)
ตัวอย่าง
A: I’d like to recommend Sal’s steak. (ฉันอยากจะแนะนำสเต๊กของซาลค่ะ)
B: That sounds good to me. I would like to have that, please. (ฟังดูดีนะ งั้นผมขอสั่งเมนูนั้นที่นึงครับ)
(15 นาทีต่อมา)
A: Here you go, sir. (นี่ค่ะ)
B: That looks great. Let me try. (ดูดีมากเลยครับ ขอลองชิมหน่อย)
B: Wow! That tastes good! (ว้าว! รสชาติดีมากเลย)
A: Thank you for your compliment. (ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ)
9. I didn’t order this.
/ไอ-ดิดเดิน-ออร์เดอร์-ดิส/
ฉันไม่ได้สั่งรายการนี้นะ
เวลาเราทานอาหารในร้านอาหารเนี่ยอาจเจอเหตุการณ์อย่างอาหารเสิร์ฟผิดโต๊ะ ถ้าเราอยากพูดภาษาอังกฤษว่าฉันไม่ได้สั่งเมนูนี้ก็ให้พูดประโยคนี้ได้เลยค่ะ I didn’t order this. ฉันไม่ได้สั่งอันนี้นะหรือถ้าระบุเป็นรายการตามที่เห็นเลยก็คือ I didn’t order this + ชื่ออาหารที่มาเสิร์ฟผิด เช่น I didn’t order this salad. ฉันไม่ได้สั่งสลัดจานนี้นะ ทางร้านก็จะขอโทษและนำเมนูที่เสิร์ฟผิดออกไปค่ะ มาดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ
ตัวอย่าง
A: Excuse me, I didn’t order this. (ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้สั่งรายการนี้ค่ะ)
B: Sorry, ma’am. I’ll bring you the right one. (ขอโทษด้วยครับคุณผู้หญิง เดี๋ยวฉันนำรายการที่ถูกต้องมาให้นะคะ)
เวลาเราสั่งผิดเราก็พูดประโยคนี้ได้เลยค่ะ แล้วเดี๋ยวพนักงานจะไปเอารายการที่เราสั่งมาให้เองนะ อย่าลืมนำด้วย Excuse me ด้วยนะคะ จะได้ดูสุภาพไม่เหมือนเรากำลังจะวีนค่ะ มาต่อที่ประโยคสุดท้ายกันค่ะ อันนี้ได้พูดแน่นอนและพูดกันทุกคนแน่ค่ะ
10. Check, please.
/เช็ค, พลีส/
Bill, please.
/บิล, พลีส/
เก็บเงินหน่อยครับ/ค่ะ
ในการเรียกเก็บเงินในร้านอาหารฝรั่งเราสามารถพูดได้สองแบบเลยค่ะคือ Bill, please. คำว่า Bill จะใช้ในภาษาอังกฤษแบบสหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษค่ะ ในขณะที่ Check, please. จะใช้ในภาษาอังกฤษที่เป็นแบบอเมริกัน แต่ทุกคนสามารถเลือกใช้แบบไหนก็ได้ค่ะ ฝรั่งเข้าใจหมดว่าถ้าเราพูดคำนี้คือเราทานอาหารเสร็จแล้วและต้องการเช็คบิลค่ะ มาดูตัวอย่างบทสนทนากันเลยค่ะ
ตัวอย่าง
A: Alright. I’m stuffed now. (โอเค ฉันอิ่มมากเลย)
B: Do you want to go now? (จะไปเลยไหม)
A: Yes, I do. Let’s pay the bill. (ได้สิ เรียกเก็บเงินเลย)
B: Waiter! Bill, please! (น้องเด็กเสิร์ฟครับ เก็บเงินด้วยครับ)
C: Right the way, sir. (กำลังไปค่ะ สักครู่นะคะ)
ก็หมดกันไปแล้วนะคะสำหรับ 10 ประโยคที่ใช้ได้แน่ในร้านอาหารในภาษาอังกฤษ ครูดิวรวมมาให้ตั้งแต่เริ่มขอเมนูไปจนถึงเก็บเงินเลยค่ะ ฝึกพูดบ่อย ๆ ลองจำไปใช้ดูนะ สำหรับใครที่อยากเรียนประโยคมากกว่านี้ครูดิวก็มีหนังสือไกด์ฝึกพูดมาให้ค่ะกับหนังสือ Conver พูดมันส์ 1,000 ประโยค แบบเซ็ต 3 เล่ม ที่มาพร้อมกับ 1,000 Conver อีก 2 เล่มที่เพิ่งมาใหม่สด ๆร้อนก็คือ หมวดการท่องเที่ยว และ หมวดการทำงาน รวม 3 เล่มเป็น 3,000 ประโยค ซื้อชุดเดียวใช้ได้คุ้มตลอดชีวิต ไม่ว่าจะใช้ชีวิต พูดคุยสารทุกข์สุขดิบทั่วไป ไปทำงานกับต่างชาติไม่ต้องกลัวพูดไม่ได้เพราะ หมวดการทำงาน ช่วยตอบโจทย์สำหรับทุกคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษแต่นึกรูปประโยคตอนทำงานไม่ออก ครูดิวรวมมาให้แล้วค่ะถึง 1,000 ประโยคใน หมวดการทำงาน จากนั้นพอทำงานเราก็อยากเก็บเงินไปเที่ยวใช่ไหมคะ ทีนี้ไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ต้องกลัวจะพูดไม่ได้แล้วค่ะ ได้เที่ยวสนุกดื่มด่ำไปกับต่างประเทศด้วย หมวดการท่องเที่ยว อีก 1,000 ประโยคที่คอยไกด์ให้ทุกคน เช่นถ้าเราอยากจองห้องพักที่โรงแรมให้พูดอย่างไรได้บ้าง จะเรียกรถโดยสารที่ต่างประเทศให้พูดยังไง ครูดิวรวมมาให้หมดแล้วค่ะ 3 เล่มอัดมันส์ ๆ 3,000 ประโยคด้วยเซ็ตเดียวพูดได้ทุกสถานการณ์เลย
✿ไม่มีพื้นฐานก็พูดได้ จัดเซ็ทนี้เลย!✿
✿ดูคลิปครูดิวสอน 10 ประโยคได้ใช้แน่ในร้านอาหารพร้อมตัวอย่างจากหนัง✿