ลดราคา ต่อราคา เป็นภาษาอังกฤษ พูดยังไงได้บ้าง รวมประโยคซื้อ-ขายพูดแล้วได้ส่วนลดชัวร์
ลดราคา ต่อราคา เป็นภาษาอังกฤษ พูดยังไงได้บ้าง
รวมประโยคซื้อ-ขายพูดแล้วได้ส่วนลดชัวร์
1. ขอต่อราคาเป็นภาษาอังกฤษ
How about 50 US dollars?
/ฮาว-เออะเบาทฺ-ฟิฟที-ยูเอส-ดอลลาร์สฺ/
- ถ้าเป็น 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้ไหม
What is your best price on this oven?
/วอท-อิส-เยอรฺ-เบสตฺ-ไพรซ-ออน-ดิส-อัฟเวิน/
- คุณมีราคาดี ๆกับเตาอบเครื่องนี้ไหม
Are you open to offers for these products?
/อาร์-ยู-โอเพิน-ทู-ออฟเฟอะส-ฟอร์-ดีส-พราดักดฺ/
- ขอต่อราคาสินค้าชิ้นนี้ได้ไหม
เราสามารถใช้แค่โครงสร้าง How about + ราคาที่เราต่อ ได้เลยค่ะ พูดหลังจากที่แม่ค้าพ่อค้าบอกราคามา โครงสร้างนี้ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็คือ ถ้าเป็นราคา…จะได้ไหม ถือเป็นประโยคเอาไว้ต่อราคาเป็นตัวเลขที่ต้องการได้เลยค่ะ หรือการใช้สำนวนอย่าง What is your best price on หรือ Are you open to offers for + สินค้า เป็นการไม่ขอต่อราคาตรง ๆ แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ต่อรองตั้งแต่เนิ่นได้เลยค่ะ
2. ขอลดราคาเป็นภาษาอังกฤษ
Can you give me a discount?
/แคน-ยู-กิฟ-มี-เออะ-ดิสเคาทฺ/
- ฉันขอส่วนลดได้ไหม
If I buy 3 of them, will you give me a discount?
/อิฟ-ไอ-บาย-ธรี-เอิฟ-เดม-วิล-ยู-กิฟ-มี-เออะ-ดิสเคาทฺ/
- ถ้าฉันซื้อ 3 อัน คุณจะให้ส่วนลดฉันไหม
What would be a reasonable discount?
/วอท-วูด-บี-เออะ-รีซเนอะเบิล-ดิสเคาทฺ/
- พอจะให้ส่วนลดในราคาที่พอคุยกันได้ไหม
สำหรับประโยคขอลดราคา สามารถขอได้หลายแบบทั้งขอตรง ๆหรือเสนอซื้อของเพิ่มแล้วขอราคาส่วนลด ซึ่งประโยค Can you give me a discount? จะสามารถขอได้ตรง ๆเลยหรือทางที่ดีเราควรจะเสนอบางอย่างที่อาจทำให้เจ้าของร้านยอมลดให้เช่นการเสนอซื้อของเพิ่มเป็นแพ็คเดียวแล้วขอลดก็ได้
3. ถามโปรโมชั่นสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ
Do you have any promotions going on?
/ดู-ยู-แฮฟ-เอนี-เพรอะโมเชินส-โกอิง-ออน/
- คุณมีโปรโมชั่นอะไรอยู่บ้าง
Is there any chance that you could knock the price down a bit?
/อิส-แด-เอนี-แชนซ-แดท-ยู-คูด-น็อกคฺ-เดอะ-ไพรซ-ดาว-เออะ-บิท/
- พอมีอะไรที่จะทำให้คุณยอมลดราคาให้ไหม (ขอโปรโมชั่นหรือดีลพิเศษ)
What is the best you can do if I pre-book this right now?
/วอท-อิส-เดอะ-เบสตฺ-ยู-แคน-ดู-อิฟ-ไอ-พรีบุค-ดิส-ไรทฺ-นาว/
- คุณมีอะไรที่ดีที่สุดมาให้ไหมละถ้าฉันจองชิ้นนี้ตอนนี้เลย (สำหรับขอโปรโมชั่นหรือของแถมถ้าเราจองสินค้า)
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทางร้านมักมีโปรโมชั่นพิเศษเช่นซื้อของชิ้นนี้คู่กับชิ้นนี้ได้อีกชิ้นหนึ่งฟรี แต่บางครั้งร้านก็ไม่ได้แปะโฆษณาป้ายใหญ่ ๆเอาไว้ ตรงนี้เราถามได้เสมอค่ะโดยเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตกที่สงสัยอะไรเขายินดีรับคำถามกันตรง ๆอยู่แล้ว ดังนั้นครูดิวแนะนำใครที่อยากได้ส่วนลดหรือสินค้าราคาพิเศษให้ถามคนขายไปตรง ๆได้เลยค่ะว่ามีโปรโมชั่นพิเศษอะไรหรือไม่ เท่านี้เราก็อาจจะได้ซื้อในราคาส่วนลดหรืออาจได้ของฟรีดี ๆกลับบ้านได้เลยค่ะ
ตัวอย่างบทสนทนาซื้อ-ขาย ในการขอลดราคา
A: Hello. How much is this green shirt?
(สวัสดี เสื้อตัวสีเขียวตัวนี้เท่าไหร่)
B: It’s 50 USD.
(50 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
A: Wow! That one shirt can clear my wallet. Are you open to offers for this product?
(ว้าว เสื้อตัวเดียวทำกระเป๋าตังผมแฟบได้เลย ขอต่อราคาอีกชิ้นนี้ได้ไหม)
B: Our deepest apologies, but we can’t offer any special deal for this product. Since this is our exclusive. It recently launched just a week ago.
(ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง แต่เราไม่มีข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ เพราะชื้นนี้เป็นสินค้าพิเศษ มันพึ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้เอง)
A: Really? I really love it. Will you knock the price down if I buy some additional items?
(จริงเหรอ ฉันชอบมาก ๆเลย งั้นคุณจะลดราคาได้ไหมถ้าฉันจะซื้อสินค้าเพิ่ม)
B: Let me ask my supervisor for a moment.
(ขออนุญาตสอบถามหัวหน้าของฉันสักครู่นะ)
A: Sure, take your time.
(ได้เลย ตามสบาย)
B: Alright. My supervisor is really grateful that you love our latest product so he would like to offer you an exclusive deal.
(โอเค หัวหน้าของฉันยินดีมาก ๆที่คุณชอบสินค้าชิ้นล่าสุดของเรามากดังนั้นเขาจึงมีข้อเสนอพิเศษมาให้คุณ)
A: I’m listening.
(ฉันฟังอยู่)
B: If you buy these jeans along with the shirt you want, you will get a special discount from 80 USD to 65 USD.
(ถ้าคุณซื้อกางเกงยีนส์ตัวนี้ควบคู่ไปกับเสื้อตัวที่คุณต้องการ คุณจะได้ส่วนลดพิเศษจาก 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 65 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลย)
A: The jeans look nice if worn with that shirt. How much are these jeans normally?
(กางเกงยีนส์ก็ดูดีนะถ้าใส่กับเสื้อตัวนั้น ปกติกางเกงยีนส์ตัวนี้เท่าไหร่)
B: 30 USD is its normal price.
(30 ดอลลาร์สหรัฐฯ คือราคาปกติ)
A: The deal is fair enough. I get the shirt I want and the jeans that very suit it. I’ll take them.
(ข้อเสนอก็โอเคนะฉันว่า ฉันได้เสื้อที่อยากได้และกางเกงยีนส์ที่ดูใส่เข้ากันได้ดีมาก งั้นฉันเอาละกัน)
B: Got it. You will get another discount of 5% if you pay by card.
(ได้เลย คุณยังจะได้ส่วนลดเพิ่มเติมอีก 5% ด้วยนะ ถ้าคุณจ่ายด้วยบัตรเครดิต)
A: Well, fortunately. I have planned to pay by card.
(โชคดีไปที่ฉันว่าจะจ่ายด้วยบัตรอยู่แล้ว)
B: Wonderful. Is everything all set?
(เยี่ยมไปเลย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม)
A: Of course. All set. Thank you.
(ใช่ ๆ เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณ)
ทีนี้เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศแล้วซื้อของก็ต่อราคาหรือขอส่วนลดเพิ่มเป็นแล้วน้า ถ้าอยากได้ประโยคไว้ใช้ตอนไปเที่ยว หรือใช้ในชีวิตประจำวัน ทำงานได้ด้วย ครูแนะนำให้ดูเพิ่มเติมจากหนังสือพูดมันส์ 1,000 ประโยค เซ็ท 4 เล่ม นี้เลยค่า
✿ พูดอังกฤษมันส์ 4,000 ประโยค ✿
- 4 เล่ม 4,000 ประโยคพร้อมใช้ทุกสถานการณ์
- ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ก็พูดได้
- สแกน QR code ฟังเสียงเจ้าของภาษา พูดตามได้เป๊ะ
- พิเศษ!! เกมฝึกพูดภาษาอังกฤษ พร้อมระบบให้คะแนน